11 พฤศจิกายน 2546 10:34 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
มานั่งรอ copy file ให้หน่ายจิต
เฝ้าเคร่งคิดถึงเรื่องเรียนเพียรเขียนอ่าน
file มันใหญ่ใช้เวลาอีกเนิ่นนาน
ค่อยค่อยอ่านค่อยค่อยเขียนลำเลียงไป
ตอนจะออกจากห้องเห็นน้องนุช
มาสะดุดพบเจอเธอที่หมาย
คิดคิดไปเหมือนฝันมากล้ำกลาย
ไม่เสียดายที่รีบออกนอกห้องเรา
ขอแค่เพียงได้เห็นน้องวันละหน่อย
เหมือนดั่งได้เห็นพลอยพลอยหายเหงา
แค่เพียงถ้าเช้าทุกวันได้เห็นเนาว์
คงเป็นเช้าวันสดใสใจเบิกบาน
10 พฤศจิกายน 2546 14:42 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
เช้าวันจันทร์นั่งทำงานมีบานเบอะ
เข้ามาเยอะยากแยกยักย้ายไหน
จะทำก่อนทำหลังยังคาใจ
ลมจะใส่เห็นงานบานตะเคียน
แล้วนี่เราควรเร่งงานอันไหน
ให้หนักใจรีบเร่งคิดอ่านเขียน
ต้องรีบจัดงานนัดที่ลัดเวียน
ไม่นั่งเทียนเขียนเล่นเช่นเป็นมา
จึงตั้งจิตตั้งใจให้คร่ำเคร่ง
เริ่งบรรเลงทำงานที่ค้างคา
คงพอทำให้เสร็จทันเวลา
ที่สัญญาเอาไว้กับเจ้านาย
พอทำไปทำมาพาหวั่นอก
กำลังตกหนกเหนื่อยเมื่อยถามหา
มองดูงานการตั้งอยู่ตำตา
ให้นำพาหมดแรงต้องแคลงใจ
ว่าจะเอากำลังใจที่ไหนกัน
มาฟาดฟันรันตูศัตรูหมาย
คงจะต้องทำกันจนวันตาย
ไม่วางวายสูญสิ้นดิ้นแดโดย
พอเห็นงานที่คั่งค้างให้หวั่นจิต
พอคิดคิดไปแล้วให้หายโหย
นึกถึงลมพายพัดที่โบกโบย
ถูกขโมยเรี่ยวแรงสิ้นแรงใจ
10 พฤศจิกายน 2546 01:41 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
พอดีเห็นว่ามีน้องที่ต้องแต่งกลอนเกี่ยวกับเคมี
ผมเลยเอามาเป็นโจทย์ในการแต่ง ลองอ่านดูกันนะครับ
อันว่าธาตุมีหลากหลายในโลกนี้
เรียนวิชาเคมีเราแยกได้
แบ่งไปตามสมบัติก็จัดไป
มาเรียงใส่ตามช่องกล่องตาราง
แต่ละช่องนั้นต่างต้องใส่ธาตุ
แปลกประหลาดอรอนงค์คงสงสัย
ไม่ยากหรอกพี่จะบอกเจ้าดนัย
ว่าเคล็ดลับท่องไว้ไม่ยากเกิน
ในขั้นแรกเลขอะตอมเราต้องนับ
แล้วจึงจับมาใส่ไม่ขวยเขิน
พอใส่ไปใส่มาจะพาเพลิน
ไม่มีเกินไม่มีขาดธาตุที่มี
ธาตุหมู่หนึ่งมีชื่อเขาตั้งไว้
ว่าโลหะแอลคาไลนท์ไม่หน่ายหนี
ส่วนหมู่สองท่องไว้ในฤดี
ว่าชื่อมีแอลคาไลน์เอิธประเสริฐจัง
ส่วนธาตุหมู่สามสี่นี้มันแปลก
ถ้าแบ่งแยกสมบัติดังที่ตั้ง
จะอยู่กลางระหว่างทั้งสองฝั่ง
โลหะบ้างไม่ใช่บ้างไม่วางวาย
เขาจึ่งเรียกธาตุพวกนี้กึ่งโลหะ
ที่เหลือจะจำไว้ดั่งใจหมาย
ว่าเป็นอโลหะจะสบาย
หมู่สุดท้ายมีนามเป็นแฮโลเจน....เอย
9 พฤศจิกายน 2546 14:29 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
รุ่งอรุณแดดอ่อนทาท้องฟ้า
ที่ยอดหญ้าใบคามีน้ำค้าง
มีแสงแดดสาดส่องมองเห็นทาง
ใสกระจ่างแจ่มแจ้งให้แรงใจ
เมื่อคืนวานพาลคิดจิตรันทด
เศร้าสลดหดหู่มิรู้หาย
คิดถึงเธอคงดีมิวางวาย
เหมือนจะตายขาดใจไม่สมปอง
เมื่อรุ่งเช้าวันใหม่เข้ามาถึง
ฉันนี้จึงสดในไร้มัวหมอง
ตื่นขึ้นมามองฟ้าทาสีทอง
ใยเราต้องเสียใจในวันวาน
แค่วันนี้ทำให้ดีกว่าวันเก่า
อย่าไปเอาใจใส่เรื่องที่ผ่าน
ถึงยังไงแค่เพียงเรื่องวันวาน
แค่เพียงกาลผ่านไปไม่ต้องจำ
ตั้งใจทำวันนี้ให้ดีกว่า
ปล่อยเวลาเสียไปให้คิดขำ
ในวันนี้ตั้งใจที่จะทำ
ขอเพียงเธออย่าใจดำทำไม่แล
***แต่งไปแต่งมาก็เข้าเรื่องเดิมอีกแล้ว***
9 พฤศจิกายน 2546 11:11 น.
เมธี หล่อประจักษ์ศิริ
เช้าหลังลอยกระทงฉันคงเหงา
จำต้องเศร้าเจ้าไม่มาเมื่อวานนี้
พี่ไม่รู้เจ้าอยู่ไหนไยคนดี
ปล่อยให้พี่เปล่าเปลี่ยวเดียวเอกา
พี่พร่ำเรียกหาเจ้าเศร้าใจยิ่ง
เพราะรักจริงถึงเพ้อละเมอหา
อยากแอบอิงชิดใกล้ทุกเวลา
โอ้แก้วตาโปรดเห็นใจคนใกล้ตัว
เดินผ่านงานเทศกาลพาลให้เศร้า
ไม่รู้เจ้าไปอยู่ไหนไม่เห็นตัว
จันทร์ฟ้าใสแต่ใจพี่นั้นขุ่นมัว
พี่นั้นกลัวเจ้าจะไปกันใครอื่น
ยิ่งได้เห็นคนเขามาเป็นคู่
ยิ่งได้ดูคู่เขาใจยิ่งฝืน
ยิ่งให้คิดถึงนุชกว่าทุกคืน
ยิ่งกล้ำกลืนทุกข์ทนอกตรมเอย
คนเขามีความสุขกันในวันวาน
แต่อกพี่ต้องร้าวรานเจ้านิ่งเฉย
เจ้าห่างไปจากพี่ไม่ดีเลย
โอ้อกเอ๋ยอับอายเธอหายไป
***วันนี้เศร้าไปหน่อย เพราะเมื่อวานไม่เจอเธอ