1 ตุลาคม 2553 17:24 น.
เมธาวีรำลึก
สูญ..
กวีนี้สูญเสียค่าความศักดิ์ศรี
ธรณีย่ำยีบีทาคล้ายยั่วบ้า
ทนขื่นขมในมนต์กาลเวลา
สูญเสียค่าความเป็นคนต้องทนยอม
ในโลกนี้แสนทุกข์เหลือเกินจริง
แทบทุกสิ่งเลวร้ายเข้ารายล้อม
ประดังถาโลมโถมอย่างจำยอม
ไม่อ้อมค้อมเพราะตนทนตราบนานมา
ปวดหัวจิตวุ่นกรำคิดสิทธิหลงรัก
เกินห้ามหักเพราะรักจนตาพร่า
คิดถึงเธอเสมอทุกเวลา
ไม่มีค่าเพราะเธอเมินเจ็บเกินใจ
นางฟ้าพาใจรักให้สุขสม
เจ็บระทมขมขื่นในหทัย
เพราะรักนางไม่มีสิทธิได้อยู่ใกล้
เกินใครจะใส่ใจ..ปลอบตัวเรา
ด่าตัวเองว่าแย่เอียนตนนัก
เพราะรักแท้แม้นนางเดียวจนเปลี่ยวเศร้า
รู้เสมอว่าเธอไม่รักเรา
แม้จะเหนื่อยทนเหงาสักเท่าไร
รักด้วยรักยากหักเพราะรักจริง
ภาวนาทุกสิ่งทั่วฟ้าไกลใกล้
จะรักเธอแม้ว่าดวงหัวใจ
จะสูญไปอย่างไม่กลับหวนคืน
เพราะรักนี้คือบุพเพสันนิวาส
รักตราบชาติกาลเวลาจะขมขื่น
ขอรักเธอจรดฟ้าและวันคืน
รักตราบผืนดินฟ้าสิ้นสลาย
แม้จะสูญนางไปอย่างไม่แคล้ว
ด้วยรักแล้วไม่แคล้วรักจนตาย
รักจนกว่าร่างกายสูญสลาย
หรือโครงกายวิญญานจะสูญไป
แม้ต้องจากนางไปอย่างไม่ย้อน
จะสั่นคลอนอกใจห่างไปไกล
แต่ว่ารักไม่ว่าจะไกลใกล้
ในหัวใจไม่รักใครรักแต่เธอ
แม้ว่าอาจจะเศร้าเหงาและท้อ
จะคอยรอรอคอยเธอเสมอ
แม้ต้องสูญร่างกายใจของเธอ
รักเสมอแม้เธอไม่เคยเห็น
สูญเธอไป..ใช่รู้เธอมีเขา
รักสูญเศร้าตัวเราแสนลำเข็ญ
รักเสมอเธอไม่สนไม่ทนเห็น
แต่ก็เป็นรักแท้เสมอมา
แม้สูญนางไปอย่างเปลี่ยวร้าง
จะรักนางแม้กายจะอ่อนล้า
แต่หัวใจได้ขึ้นสววรค์ฟ้า
จะรักเธอแม้กายทุกข์สุขปนเป...
27 กันยายน 2553 18:52 น.
เมธาวีรำลึก
พินิจเนตรนัยน์ฝันที่เฟซบุ๊ค
เดิมวันวานอยู่มานานกาลผ่านเลย
ด้วยไม่เคยลองท่องอินเตอรเน็ต
ใครได้รู้ได้ยินน้ำตาเล็ด
ไอ้เอกเสร็จแม่งเชยเคยหรือเปล่า
เอายังงี้รู้จักเฟซบุ๊คมั้ย
คืออะไรฉันถามอย่างโง่เขลา
ด้วยโง่ไม่รู้จักโอ้หนอเรา
ใครใครเขาต่างขัดเกลาโลกสังคม
เพื่อนช่วยสอนทีละตอนค่อยสมัคร
พิมพ์สลักประวัติช้าอย่างโง่งม
ด้วยหัวใจใช้ชีวิตกับสายลม
แถมชอบชมธรรมชาติมากเหลือใจ
ด้วยไม่เคยใกล้โลกสังคมออนไลน์
มีฝุ่นสายเกาะคอมเป็นสายใย
นานทีเล่นใช่เขียนกลอนนานนานใช้
ไม่ใส่ใจสังคมโลกอินเตอร์เน็ต
เพื่อนช่วยกรอกประวัติส่วนตัวให้
เอานี้ไงใช้นะมึงพึ่งจะเสร็จ
เรานั่งมองมันหัวเราะน้ำตาเร็ด
เดี๋ยวไม่เข็ดเดี๋ยวเตะให้ใช่กวนเท้า
พอลองดูก็เรียนรู้วิธีใช้
ค้นหาไงสำนึกครวญแสนโศกเศร้า
คิดอะไรทำอะไรไอ้ตัวเรา
จะผ่อนเพลาความคิดถึงพึงโรคจิต
ก่อนตัดใจพิมพ์ชื่อเธอใส่ค้นหา
รอเวลาบรรเทาความคิดถึงฤทธิ์
ได้เจอภาพเธอในใจยิ่งขบคิด
เราทำผิดอะไรอยู่หรือว่าเปล่า
มองหน้านางอยู่นานจนผันผ่าน
จวนวันกาลผันผ่านไปอย่างโศกเศร้า
ได้เห็นภาพโอ้ละหนอครวญตัวเรา
ยิ่งรนเร้าเหงาในใจเกินใครปลอบ
-
มองเนตรนัยน์ดวงฝันมันสุขล้น
เกินนิพนธ์ดิ้นรนเป็นอักษร
ยิ่งกว่าคำบทกลอนจะบั่นทอน
ความร้าวรอนเธอมี..เขา..เศร้าเหลือใจ
22 กันยายน 2553 21:33 น.
เมธาวีรำลึก
เมื่อวานนี้
ในความนื่งเงียบงันมันแสนเศร้า
ทุกข์รุมเร้าศุกร์และเสาร์ยามคิดถึง
จวบอาทิตย์พิศผ่านวันวานพึง
ห้วงคำนึงลึกซึ้งเจ็บ..เจ็บเหลือใจ
นั่งเขียนกลอนทุกวรรคตอนคลอนน้ำตา
มีความล้าดั่งคล้ายเพื่อนเหมือนอยู่ใกล้
นั่งนิ่งเหงาเศร้าในจิตคิดถึงใคร
แม้จะรู้ว่าใจของเธอไม่รักเรา
บั่นบากจิตพินิจคิดถึงชีวิต
ในดวงจิตมีครวญแต่ความโศกเศร้า
ทำอะไรก็ใช่จะทุเลา
เพราะความเขลาเบาปัญญาคราชีวิต
วารวันมันเหมือนจะตามย้ำ
ความระกำช้ำชอกชำรอกจิต
มีความขมระทมล้าดั่งยาพิษ
ไม่มีสิทธิแต่จิตก็ยังรัก
อยากจะสนทนาตรงหน้าเธอ
อยากจะเจอเสมอคิดถึงนัก
อยากครวญล้าผ่อนพิงไหล่เธอพัก
อยากสลักเธอไว้ในหัวใจ
ทุกทีคราเจอหน้าที่โรงเรียน
คลื่นไส้เหียนจนเรียนไม่เข้าใจ
รู้เสมอว่าเฮ้ยมันไม่ใช่
นี้อะไรเป็นบ้าทำไมไม่เรียน
พอลับหน้าวางเวลาซักซ้อมท่อง
พร่ำรวนท่องกระตุกอย่างที่เขียน
เจอหน้าเธอจะพูดคำที่เธอเพียร
ได้จำคำที่เรียนรู้ไว้ในใจ
พอซ้อมแล้วเจอหน้าพูดไม่ได้
ใจสลายอยากตายล้มลงไป
เหนื่อย..รู้อยู่แล้วเธอคงไม่ปันใจ
พูดอะไรร้องไห้ให้ใช่เธอรัก
เมื่อวานนี้พยายามครั่มครามจิต
ให้ขบคิดถึงสิทธิรักฟ้าห้ามหัก
ถึงยังไงหัวใจฉันก็จะรัก
ตรึงสลักเธอไว้ในใจเดียว
อยากจดจำเมื่อวานนี้ที่ท่องคำ
รักบอกช้ำระกำซ้ำแสนเปล่าเปลี่ยว
ได้บอกรักเธอได้เป็นนับพันเที่ยว
ไม่ข้องเกี่ยวภาพเขารักกับเธอ
ผ่านมาแล้วไม่แคล้วต้องเจ็บปวด
เจ็บร้าวรวดครวญพร่ำจนนอนเพ้อ
เมื่อวานนี้ฉันนั้นยังมีเธอ
ได้พบเจอเมื่อวานนี้...วันนี้เล่า
(ไม่เห็นมีใครเลย)
20 กันยายน 2553 20:40 น.
เมธาวีรำลึก
เมื่อเพลงทำได้เพียงบรรเลง
นอนป่วยไข้ในหัวใจแสนบอกช้ำ
ร้องไห้ย้ำความระทมครวญคิดถึง
แฝงออกเป็นความคิดถึงห้วงคำนึง
ระลึกถึงภาพเธอตราติดใจ
ต๊ะเพื่อนตายทอดกายนอนคล้ายยั่วแกล้ง
ตะแคงฟังเอ็มพีสามเผลอเปิดไว้
ได้ยินเสียงสำเนียงเพลงกระทบใจ
เพลงอะไรแหงนหน้าปัดเอ็มพีสาม
เห็นชื่อเพลงทำได้เพียงเคียงข้างหู
กระชากหูฟังมาสวมไม่ครั่มคราม
ส่วนไอ้ต๊ะนอนนิ่งไม่ห้ามปราม
ไม่เคยห้ามเหมือนก่อนเพราะนอนอยู่
เพลงบรรเลงกระแทกใจตั้งวรรคแรก
มันช่างแปลกฟังเพลงมามากอยู่
ไม่โดนใจเท่าเพลงนี้มิเคยรู้
พอฟังดูรู้สึกดีบางแง่มุม
เนื้อหาเพลงปลอบใจในบางวรรค
บางครั้งยากเก็บกักเศร้าในอกสุม
มีความเหงาสะกิดใจจนเร้ารุม
มรสุมสุขทุกข์ผสมกัน
เปิดเพลงฟังเหงาหายคล้ายรักปลอบ
ฉันแสนชอบได้แค่ห่วงคิดถึงกัน
เพราะรู้ว่าตัวฉัน..ตัวฉันนั้น
ได้แค่ฝันและคำนึงพึงคิดถึง
ทำได้เพียงไล่เลียงภาพในอดีต
ที่เวลากั้นขีดให้ลา..เศร้าซึ้ง
ทำได้เพียงคิดถึงห่วงคะนึง
ฉันก็จึงคิดถึงเธอ..คิดถึงครวญ
เปิดฟังเพลงทำได้เพียงเรียงพันครั้ง
ฉันก็ยังฟังระกำฟังย้อนสวน
แม้จะยิ้มกึ่งเศร้าน้ำตาครวญ
ทบไล่ทวนมวลเนื้อเพลงเคลงหัวฟัง
ฟังเพลงมันพลันหายเศร้าแม้เหงาอยู่
ต๊ะจู่จู่พุ่งมือหูฟังรั้ง
เฮ้ยอะไรเพลงนี้กูจะฟัง
ก่อนจะรั้งกระชากเอาหูฟังไป
มันมองหน้าครวญคราเพลงคิดฮอด
หาแฟนกอดคงไม่ได้ฉันบ่นไว้
ต๊ะไม่สนไม่ยินยิ้มยั่วใส่
เศร้า..ยังไงก็ใช่ว่ายิ้มไม่ได้
พอมันเห็นฉันทำหน้าเหนื่อยห่อเหี่ยว
ฟังเพลงเดียวกันกับกู..เอายังไง
มันไม่ชอบทำได้เพียงคงไม่ใช่
ถึงยังไม่ใช่เพลงนี้ไม่เอา
พอมันยัดหูฟังกระชากหู
ลองฟังดูต๊ะยิ้มกวนชวนหายเศร้า
ทำได้เพียงเสียงดังในหูเรา
พิงไหล่เพลาร้องเพลงเหงาไปด้วยกัน
ทำได้เพียง
25hours
นาน...กว่าจะทำใจ
กว่าจะเรียนรู้มันเป็นอย่างไร รักของเธอกับฉันมัน...ไม่ง่าย
เมื่อวันเวลา...ที่คอยสั่งสอนให้เราเข้าใจ มันตัดสิน..ให้ต้องลา
* ฉันคงไม่โทษที่เธอไป เพราะว่าเข้าใจตลอดมา
** หมดเวลา...แล้ว..เธอคงต้องไป แต่สิ่งที่เหลือ..ในใจ..ยังอยู่
คือความคิดถึงที่เธอ...นั้นไม่รู้..พูดไม่ได้..ทำได้เพียงแค่คิดถึงเธอ
ยอมอยู่กับความจริง แต่จะไม่ทิ้งเรื่องราวที่ดี ฉันจะมีเธอไว้ในหัวใจ
อยู่กับเวลาที่มันยัง หมุนให้ก้าวต่อไป แม้ต้องเหงาสักเท่าไร
หายเศร้าแล้วครับ..ทำใจได้แล้ว
แต่ยังไม่เลิกรัก..เลิกคิดถึงเธอหรอกครับ
เพราะผมยังรักเธอ...แม้จะไม่มีวันก็ตาม
แม้จะแค่ทำได้เพียงแค่คิดถึงเธอ...เท่านั้น
จากใจสุขปนเศร้า
เอก
(ป.ล.ต๊ะไปง้อแฟน..ขอบคุณมันที่ลงกลอนให้ถ้ามันง้อแฟนได้จะมาบอก..เราคงไม่ใช่พวกชอบตีแผ่เรื่องชาวบ้านหรอกนะ..แต่อยากให้รู้ความคืบหน้าในชีวิตไร้สาระของพวกเรานะครับ)
19 กันยายน 2553 11:26 น.
เมธาวีรำลึก
น้ำตารำพัน
ครวญถึงอวลอบไอความคิดถึง
ความคะนึงรำพึงคร่ำครวญหา
กรั่นออกมาเป็นสายน้ำหยดน้ำตา
มีความล้าเจือปนขมระทม
ถ้าน้ำตาหยดนี้มันพูดได้
มันคงจะระบายทุกข์ถ้อยหยาดล่ม
น้ำตาแฝงความเจ็บร้าวพราวขื่นขม
เจ้าของตนมันเศร้าเหลือคณา
น้ำตาไหลอาบแก้มแซมสะอื้น
แฝงความขื่นระทมแสนอ่อนล้า
เจ็บปวดใจเกินใครพรรณา
คร่ำครวญหากาลเวลาได้รักกัน
พรั่นคำนึงระลึกถึงความรักเก่า
เธอกับเขาได้จากเราไปนั้น
เราไม่มีสิทธิที่จะได้รักกัน
มีความฝันเป็นเธอคนรักใหม่
เฝ้าคำนึงในอกใจมาไตรปี
ทุกนาทีมีภาพเธอในหทัย
คิดถึงเธอเสมอในหัวใจ
เพิ่งรู้ใช่นี้รักแท้ของตัวเรา
เพิ่งรู้ว่าเธอนั้นสำคัญมาก
จะลำบากถ้าขาดเธอเราแสนเศร้า
ได้ทำความรู้จักกับความเหงา
ทุกข์ผ่อนเพลายามเธอมาเยี่ยมเยือน
คิดถึงเธอเสมอในทุกวัน
เป็นความฝันทุกนาทีและจวบเดือน
รักแต่เธอ..หลงแต่เธอมิรางเลือน
รักเป็นเพื่อนเหมือนผ่านมากาลวัน
ภาพความฝันมันยังตราแน่นตรึง
ความคิดถึงมีเธอเหนือห้วงฝัน
เรารักเธอเสมอคืนทุกเดือนวัน
แม้ว่ามันไม่มีวัน..ฉันรักเธอ
น้ำตารำพันแผ่ทั่วกาฬปักษ์
ว่ารักเธอมากมายคล้ายคนเพ้อ
แม้ไม่มีสิทธิรักก็อยากเจอ
ภาพฝันเบลอเพราะน้ำตาล้าเหลือใจ
คำชายระรายโลกมากโกหก
ใจในอกเรรวนป่วนลวงผลักไส
แต่ว่าคำรักเธอในห้วงใจ
มันไม่ใช่คำลวงทั้งหมดปวง
เพราะว่าเรารักเธอมากไม่ทอดทิ้ง
ถ้ารักจริงยิ่งกราบไหว้รักบวงสรวง
จะรักเธอตลอดไปมิหลอกลวง
แม้สุขรวงก็มิเท่ารักเธอแทน
แม้ว่าไม่มีวันได้หลงรัก
ฉันก็จักรักเธอเสมอแน่น
จะรักเธอดั่งเท่านภาแผ่น
มิโลดแล่นเรรวนลวงคำชาย
แต่รู้รักเธอนั้นไม่ใช่เรา
รู้รักเขามากกว่าเราใจสลาย
แต่ก็ยังรักเธอมิเสื่อมคลาย
แม้มีชายรายหน้าให้เธอรัก
รักของเรามันคงยากเทียบใครเขา
ทนหมองเศร้าจมเจ่ากับความอกหัก
แต่กระนั้นฉันยังรัก...ก๊ยังรัก
แม้ว่าจักต้องรักเดียวเปลี่ยวเป็นนิตย์
ต่อให้เราโตขึ้นแต่งงานไป
เธอคนนั้นเราไม่รัก..รักคงผิด
แต่ว่าเราคงทนอยู่อย่างเหงาเป็นนิตย์
ไม่มีสิทธิรักเธอเสมอมั่น
เราคงจะไปรักใครเพราะสังคม
ที่ระทมขื่นขมบีบบังฝัน
เราหมดสิทธิได้รักเธอได้รักกัน
ภาวนาหมดวันฉันอยากตาย
แอบสะอื้นคนงามในความฝัน
แอบอิงกันซอกไซ้แสนสบาย
ได้กอดเธอในวันร้ายทุกข์คงคลาย
อยากจะตายหายไปในห้วงฝัน
น้ำตารำพันจากโลกจริง
ที่ทุกสิ่งทำร้ายเราจนพรั่น
หมดแรงแล้วไม่แคล้วอยากตายพลัน
ถึงคืนวันฉันนั้นยังรักเธอ
หวังว่านี้คงจะเป็นฝันร้าย
โลกลวงคงจะสลายหนีความเพ้อ
กลับโลกจริงได้รักได้พบเธอ
น้ำตาไหลกลอนเก้อเพ้อรำพัน
สองบทเลยครับ..เอกมันเขียนไว้ตรึม
ต๊ะ..มิตรของเอก