20 มิถุนายน 2548 00:02 น.
เมจิคเชี่ยน
.......................................
เมื่อความรักวอดวายสลายหมด
ก็ปรากฏรอยแค้นติดแน่นฝัง
เพลิงเร่าร้อนระอุเริ่มคุดัง
ความเกลียดชังครอบคลุมเป็นสุมไฟ
จากคนที่นิ่งเฉยก็เลยเปลี่ยน
อารมณ์เวียนดั่งลำธารที่ผ่านไหล
ดูสดชื่นแท้ผิดแฝงพิษภัย
รอวันได้โอกาสจะฟาดฟัน
หลอกลวงล่อด้วยจิตริษยา
ร้อยมารยาเล่ห์กลหลอกคนนั้น
วางหลุมพลางกับดักเพื่อกักกัน
มิเคยหวั่นถูกผิดเพราะพิษมาร
คล้ายดั่งถูกเวทมนตร์จนใจพร่า
ความพยาบาทลืมตามาขับขาน
เกิดเป็นเพลิงอารมณ์จมดวงมาลย์
รอประหารชีวิตปลิดวิญญา
เพียงเพราะว่าความคลั่งซึ่งหลั่งไหล
กับคนใดคนหนึ่งที่ซึ้งหนา
บวกกับแรงอาฆาตอุบาทว์ตา
ที่มันพายอดรักจักหนีไป
จึงเกิดเป็นเพลิงร้ายในเพลิงรัก
เร่าร้อนหนักปักจนเกินทนไหว
พิศวาสฆาตกรรมนำพาใจ
เผาผลาญไหม้ทุกอย่างที่ขวางทาง...
...................................................
13 มิถุนายน 2548 02:03 น.
เมจิคเชี่ยน
....................................................
สายตาจ้องมองไปในอากาศ
จิตเริ่มวาดความหลังเมื่อครั้งนั้น
ชีวิตคนนับหมื่นกล้ำกลืนกัน
ยืนประจัญรบราอย่างน่ากลัว
ด้วยอาวุธนานาหลายประเภท
เพื่อแสดงเจตงี่เง่าคือเจ้าสัว
ความยิ่งใหญ่ครอบงำทำตามัว
ไม่เห็นตัวคนอื่นขมขื่นใจ
หลายน้ำตาหลั่งล้นเหมือนคนบ้า
สุดเวทนาโลกเอยที่เคยใส
บัดนี้ฉาบสีแดงทุกแห่งไป
ส่งกลิ่นไอโหดร้ายหมายทรมาน
ดั่งตะวันทาทาบอาบด้วยเลือด
ความบริสุทธิ์แห้งเหือดไร้ความหวาน
สิ่งโสมมจมกองแซ่ซ้องนาน
อันตรธานความสุขนั้นพลันมืดลง
กว่าจะย้อนหวนคืนกล้ำกลืนยิ่ง
เหมือนจมดิ่งชีวิตพิศวง
บางคนท้อเตรียมพร้อมยอมยกธง
แล้วเดินลงยุ่มย่ามเข้าความตาย
เหลือเพียงรอยอาลัยให้ลูกหลาน
ตราบชั่วกาลนานวันมิผันหาย
ให้ระลึกเรื่องราวข่าววอดวาย
ซึ่งสลายหัวใจใครทุกคน...
.
..
...
แล้วสายตาซึ่งจ้องมองไปนั้น
ก็เริ่มสั่นเริ่มไหวจนได้ผล
คือหยดน้ำหยดน้อยหยดย้อยตน
ฉันคือคนยุคนั้น...วันสงคราม
..........................................
คือหยดน้ำหยดน้อยหยดย้อยตน
ฉันคือคนสุดท้าย...ที่หายใจ
6 มิถุนายน 2548 15:36 น.
เมจิคเชี่ยน
.....................................
หลับสบายดีไหม
ฝันถึงใครสุขเศร้าหรือเปล่าหนอ
พักผ่อนกายบนเตียงอย่างเพียงพอ
อย่าย่อท้อต่อชะตาที่ฆ่าใจ
ตัดกังวลวุ่นวายที่หมายเข้า
พ่อจะเฝ้าเจ้าหญิงอยู่ชิดใกล้
คอยคุ้มครองปกป้องเหล่าผองภัย
มิอาจให้ทำร้ายแม้ปลายกร
ไม่ต้องห่วงพ่อนะลูกยาเอ๋ย
ขอเจ้าเอยอย่าคิดปิดใจก่อน
แม้ร่างกายพ่อซีดจิตบั่นทอน
จะขอพรจากฟ้ามาประทาน
แม้นเหนื่อยล้าแทบล้มตรอมตรมยิ่ง
พ่อมิทิ้งนางฟ้าน่าสงสาร
เห็นลูกทุกข์พ่อทุกข์กว่าทรมาน
มันสะท้านสะเทือนเฉือนหัวใจ
สัมผัสมือลูบพักตร์ลูกรักพ่อ
น้ำตาก็เริ่มล้นจนมันไหล
อธิษฐานภาวนาทุกคราไป
หวังเพียงให้เจ้าตื่นฟื้นขึ้นมา
โลกใต้หมอนตอนนี้ดีหรือไม่
มืดมนไหมบนทางของนางฟ้า
หากพลัดหลงจงฟังเสียงเพียงหลับตา
จะรู้ว่าพ่อมิห่างเคียงข้างกาย
หวังเธอก้าวสู้ต่ออย่าท้อถอย
พ่อยืนคอยหลังแสงกำแพงร้าย
พร้อมความรักเหล่าชนคนมากมาย
ต่างมุ่งหมายน้อมรับเธอกลับคืน
ทั้งหมดนี้ทำให้...พ่อได้ไหม
อย่าสิ้นใจลาลับโปรดกลับฟื้น
อยากเห็นรอยยิ้มหวานเหมือนวานรืน
ลืมตาตื่นเถิดหนา...ลูกยาใจ
.....................................
พ่อจะรอเจ้าหญิงทุกวันคืน
รอเจ้าตื่นยิ้มหวาน...ผ่านแววตา...
*******************************
เมจิคเชี่ยนเชื่อว่าปาฏิหาริย์มีจริง
และหวังว่าเธอคงจะสัมผัสถึงจิตใจของผู้เป็นพ่อ
ได้นะขอรับ.
3 มิถุนายน 2548 01:56 น.
เมจิคเชี่ยน
..............................................
เสียงลมพัดซัดซาดอกหญ้าพริ้ว
ระลอกปลิวโอนอ่อนสั่นคลอนไหว
ฝุ่นตลบคุ้งฟ้าเวหาไว
ดั่งกลับไอหมอกควันพลันเกิดมา
สักพักเสียงพฤกษ์ไพรเริ่มไกวแกว่ง
เบาและแรงเคลื่อนตามความกังขา
เมฆาล่องโยกย้ายส่ายพสุธา
แล้วนภาเริ่มคล้ำพลันดำลง
ชุลมุนวุ่นวายย่างกรายเข้า
ทั้งหนักเบาเป็นนิจพิศวง
เหมือนได้ส่องสถานการณ์การดำรง
ความยืนยงเรื่องราวเข้าชีวินต์
ทั้งนกน้อยลอยแล่นบนแผ่นฟ้า
เริ่มกลับมาคืนกลับประทับถิ่น
ผู้คนต่างลี้ลนบนผืนดิน
เมื่อได้ยินเสียงฟ้ามาคำราม
แล้วเม็ดน้ำเริ่มผุดดุจหยกใส
กระทบไพรเกิดเพลงน่าเกรงขาม
บ้างจูบดินเกิดรอยหยดย้อยงาม
วับแวววามตามจิตที่คิดไป
บ้างบางคนอาจคิดเป็นจิตอื่น
เห็นฝนชื้นคือช้ำนำความไหว
อารมณ์เริ่มกัดกร่อนบั่นทอนใจ
เกิดน้ำใสอาบแก้มแต้มเป็นรอย
มหัศจรรย์ของน้ำธรรมชาติ
นำพาธาตุสุขเศร้าและเหงาหงอย
คล้ายดั่งฟ้าเล่นกลใช้ฝนปรอย
แล้วเลื่อนลอยแล่นผ่านกาลเวลา...
...................................................
1 มิถุนายน 2548 14:51 น.
เมจิคเชี่ยน
...........................................
เป็นมนุษย์เพศชายร่างกายครบ
มิเคยตลบตะแลง~แสร้งเฉไฉ
ทั้งคำพูดกริยาวาจาใจ
มิเคยได้ลวงหลอกกลิ้งกลอกกัน
คิดอย่างไรพูดงั้นมันผิดหรือ
ให้แกล้งซื่อปั้นหน้ามันน่าขัน
รับไม่ได้ก็เลิกครบจบสัมพันธ์
มิเคยหวั่นยิ้มได้สบายดี
ใช่พระเอกละครคอยอ้อนออด
น้ำผึ้งหยอดวาจามีราศรี
ปลอบประโลมคลอเคล้าเช้า-ราตรี
ส่งวจีกำชับก่อนหลับนอน
นึกภาพแล้วงี่เง่าน้ำเน่าแท้
ให้ไปแคร์อย่างนั้นแทบฝันหลอน
เห็นไหมนี่ขนลุกขึ้นชุกชอน
อาจโอนอ่อนเป็นบ้างในบางครา
ขอจงรู้เอาไว้ใช่พระเอก
ที่คอยเสกตามจิตคิดปรารถนา
เป็นเพียงแค่ผู้ร้ายในสายตา
ที่คอยฆ่าด้วยวจีที่แทงใจ
แต่ดวงมาลย์~ผู้ร้าย~ของรายนี้
มิเคยมี~ที่ว่างให้~ใครอาศัย
ทุกอณู~รอบห้อง~ของหัวใจ
มันมอบให้~เพียงเธอ...เสมอมา
....................