25 กรกฎาคม 2546 13:08 น.
เพื่อนไพร
อย่าด่วนโกรธฉันนี้ .. เลยที่รัก
หันกลับมา แล้วหยุดทักสักหน่อยก่อน
อย่ามองฉันด้วยสายตาที่ร้าวรอน
เธอนั้นเคยเอื้ออาทรแต่ก่อนมา
เปิดหัวใจให้ว่างฟังฉันบ้าง
ใช่หลบลี้หนีร้างห่างหายหน้า
ใช่มีเรื่องบาดหมางใดในอุรา
ใช่ลืมค่า ความดีงามน้ำใจเธอ
ด้วยอยากมีหัวใจใสสงบ
ต้องการลบประสบการณ์ผ่านพลั้งเผลอ
ความวุ่นวายทั้งหลาย .. ไม่อยากเจอ
ไม่อยากเพ้อ ไม่อยากหลง พะวงใด
ขอโอกาสฉันไปได้เรียนรู้
ก้าวเดินสู่โลกความจริงที่ยิ่งใหญ่
ถือคำสอนพุทธองค์คงคู่ใจ
ยกโทษให้ฉันสักหน .. เถิดคนดี
21 กรกฎาคม 2546 12:57 น.
เพื่อนไพร
ใกล้ชะโงกเงื้อมผาเวลารุ่ง
ไอหมอกฟุ้งเกลื่อนกระจายแถวชายป่า
ค่อยค่อยรวมเป็นสายใหลลอยมา
ดูเชื่องช้าแต่ว่า..น่าสนใจ
ที่เบื้องหน้าฝั่งฟ้าตะวันออก
สัญญาณบอกรู้กันเริ่มวันใหม่
เห็นเรื่อเรืองสีทองส่องรำไร
แต้มแต่งฟ้าสว่างใสได้สวยงาม
แล้วสายหมอกก็กลับกลายหลบหายหน้า
ตะวันฉายแสงกล้าน่าเกรงขาม
เหลือเพียงหยดน้ำใสไหววับวาม
แม้เสียดายมิอาจห้ามความเป็นไป
เหมือนชีวิตเรานี้ที่เป็นอยู่
หากคิดดูจะรู้ความเคลื่อนไหว
มีหลายอย่างย่างเข้ามาแล้วลาไกล
ไม่เคยมีสิ่งไหนอยู่ได้นาน
และไม่มีผู้ใดได้ทุกสิ่ง
ชีวิตจริงมีหวานขมผสมผสาน
อาจมืดหม่นหมองมัวเมื่อวันวาน
กลับครึกครื้นชื่นสำราญวันพรุ่งนี้ ..
19 มิถุนายน 2546 15:29 น.
เพื่อนไพร
บทเพลงลาดังแว่วมาเพลาดึก
ย้อนรำลึกถึงกันวันฟ้าใส
แรกเริ่มต้นบนทางระหว่างใจ
แล้วแตกใบชูช่อละออตา
กลีบสีสวยรวยรินกลิ่นความรัก
ได้ทอถักสัมพันธ์อันสูงค่า
มวลดอกไม้มิตรภาพทอทาบทา
ทั่วแผ่นดินถิ่นฟ้าธาราธาร
ได้รู้เห็นความเป็นไปในผองเพื่อน
ฟังเสมือนดนตรีที่ขับขาน
ผสมรักผสานเศร้าเคล้ากังวาน
อีกบทหนึ่งประสบการณ์ก่อนผ่านลา
ทุกถ้อยคำน้ำใจไมตรีจิต
ทุกความคิดที่ได้ใฝ่ฝันหา
ทุกทุกอย่างที่เพื่อนให้เพื่อนมา
เก็บรักษาเอาไว้..ในใจนี้
16 มิถุนายน 2546 01:13 น.
เพื่อนไพร
ฉันเป็นคนบ้านนอกจะบอกให้
เป็นชาวไร่ชาวสวนล้วนยากเข็ญ
ทำงานหนักเหนื่อยกายเช้าบ่ายเย็น
มีเพื่อนเป็นนกกาป่าพงไพร
ชอบฟังสรรพสำเนียงเสียงธรรมชาติ
บทกวี ภาพวาด ดอกไม้ไหว
ชอบหนังสือ ชอบวิถีที่เป็นไทย
ชอบนอนมองท้องฟ้าไกลในราตรี
ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่เรื่องมาก
เบื่อสังคมลมปากอยากถอยหนี
มีแค่ไหนใช้แค่นั้นฉันว่าดี
ไม่ต้องมีปัญหาว้าวุ่นใจ
แต่ยังคงกิเลสหนาบ้าหลายอย่าง
ฝันละเมอเพ้ออยู่กลางความอ่อนไหว
โลภ โกรธ หลง มัวเมามีมากมาย
ปล่อยชีวิตให้ลอยใหลไปตามกาล
ฉันเป็นคนบ้านป่าท่าทางเซ่อ
หน้าตาเด๋อ ถ้อยสำเนียงเสียงไม่หวาน
เป็นอย่างนี้อยู่อย่างนั้นมาเนาว์นาน
มีบ้างไหมใครต้องการสานไมตรี
11 มิถุนายน 2546 17:02 น.
เพื่อนไพร
เดือนดวงเสี้ยวค่อยลาลับไปจากฟ้า
พร้อมๆ กับหยาดน้ำตาที่พร่าใหล
เขียนคำกลอนอนุสรณ์ไว้อาลัย
มอบแด่เพื่อนผู้จากไปชั่วนิรันดร์
ยังส่งข่าวถึงกันเมื่อวันก่อน
อยากให้ภาพนั้นหวนย้อนดั่งความฝัน
จะถักทอเส้นใยสายสัมพันธ์
โอบกระชับรับขวัญคลายหวั่นใจ
เพื่อนคนดี..นับจากนี้ไม่มีแล้ว
หอมรำเพยกลิ่นดอกแก้วแล้วแผ่วหาย
ฝากมาลัยดอกรักวางไว้ข้างกาย
เหนือแผ่นดินครั้งสุดท้ายใต้แสงดาว
เพื่อนเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าโดยหน้าที่
ดุ่มด้นไปในวิถีที่เหน็บหนาว
ทางที่เดินฝ่าฟันนั้นเหยียดยาว
ลืมเสียเถิด..ความรวดร้าวคราวครั้งนั้น
ยังมีผู้สืบสานความหาญกล้า
ด้วยดวงใจเปี่ยมศรัทธาท้าคำหยัน
ดั่งหิ่งห้อยด้อยแสงกล้าแข่งจันทร์
ร้อยชีวิตรวมความฝันเพื่อวันไกล
หลับสบายเถิดเพื่อนรักจงพักผ่อน
เช็ดน้ำตาที่ร้าวรอนด้วยอ่อนไหว
ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนใช่เลือนไป
เขียนเรื่องราวฝากไว้ใต้แผ่นฟ้า