17 มกราคม 2555 11:37 น.
เพื่อนเก่า
ณ ราตรีโสดหนึ่งพึงสดับ
โลกแลลับเหตุผลเกิดปัญหา
มัวเมารักโลภโกรธหลงอนิจจา
ไร้ธรรมาระลึกรู้ไปสู่กาย
โลกมนุษย์ฉุดกิเลสเลศตัณหา
ดุจกรงขังแน่นหนาสิ้นจุดหมาย
ยิ่งมัวเมาสับสนส่อวุ่นวาย
ตกสู่ทางอบายชั่วพริบตา
ยึดธรรมะสร้างสุขทุกข์หลีกลี้
ทำความดีประคองตนจนล้ำค่า
อย่าหลงทางทำสิ่งอื่นในโลกา
แม้นเวลาผันผ่านกาลหมุนไป
ระยะห่างแห่งตนพ้นสำนึก
จิตตรองตรึกสู่ทางสว่างไสว
พาสร่างโศกโลกผลดลกายใจ
สงบได้จริงหนอพอสมควร
เมื่อยังมีชีวิตอยู่ดูหลายฉาก
กิเลสมากควรสละอย่าสงวน
จึ่งสอดคล้องวิถีธรรมนำกระบวน
ที่ถูกถ้วนตามครรลองของชีวี
ชีวิตยังต้องการการหลุดพ้น
จากวังวนทางผิดยากหลีกหนี
ยึดไตรรัตน์ร้อยรัดให้ใฝ่ดี
โลกจึงมีสันติผลิเบ่งบาน
พ้นจากยุคราตรีที่มืดมิด
ให้หยุดคิดละกิเลสปลงสังขาร
ชีวิตชื่นคืนสุขตราบเท่านาน
ชีพตระการหลังม่านมืดสู่หลักชัย
23 กันยายน 2554 11:15 น.
เพื่อนเก่า
เกิดมาขัดสนจนยาก
ลำบากเพียงใดไม่บ่น
สู้งานเหงื่อโทรมอดทน
หวังผลวันหน้าได้ดี
กอบเก็บเงินทองจากน้อย
ค่อยค่อยเพิ่มพูนสุขี
วันเคลื่อนเลื่อนผ่านนานปี
หนาวนี้กลับบ้านย่านเรา
อดมื้ออิ่มมื้อทนไหว
หวังให้พ่อแม่แก่เฒ่า
ปลดแอกภาระแบ่งเบา
ปัดเป่าเดือดร้อนผ่อนคลาย
ยึดหลักพอมีพอกิน
ชีวินสูงค่ามากหลาย
มีน้อยใช้น้อยค่อยสบาย
อดตายนั้นไม่มีทาง
ท้องทุ่งไร่นาป่าเขา
สอนเราอยู่ใต้โลกกว้าง
พึ่งพาอาศัยไปพลาง
จัดวางระบอบชอบธรรม
ดอกผลิพืชพันธุ์อาหาร
ผลงานก่อเกิดเลิศล้ำ
ใช้สอยกินได้ประจำ
เช้าค่ำไร้ทุกข์สุขใจ
โชคดีเพราะมีที่พึ่ง
ซาบซึ้งดั่งฟ้ามาใกล้
พ่อแห่งแผ่นดินถิ่นไทย
อยู่ได้ใต้พระบารมี
น้อมนำคำสอนยิ่งใหญ่
องค์ไท้อุ่นเกล้าเกศี
เหนือตกออกใต้ธาตรี
อยู่อย่างวิถีพอเพียง
12 กันยายน 2554 14:47 น.
เพื่อนเก่า
เพื่อนเอ๋ยเพื่อนเก่า
คิดถึงวันเก่าเก่าเคยลาร้าง
ยังจำมิตรนี้ได้ไหมไยจืดจาง
กับหัวใจถอดวางอยู่นานเนา
เคยหัวเราะร้องไห้มีน้ำตา
รดหยาดรินลงมาในวันเหงา
กับแสงทองละอองฝนยามต้นเช้า
หรือภาพเงาทิวมะพร้าวเมื่อยามเย็น
จากจรกันไปแล้วหรือแก้วตา
ลืมวันและเวลาเคยได้เห็น
พบกันเพื่อพรากฤๅจากเป็น
ยังเคืองเข็ญหรือเธอสุขสบายดี
เป็นไปได้ไหมอยากจะพบ
หากคำตอบคือจบเพียงแค่นี้
ก็จะไม่ทวงถามมากความมี
ขอลาจากเสียทีที่สุดเอย
5 กันยายน 2554 09:35 น.
เพื่อนเก่า
เสรีภาพอาบน้ำตาอาบยาพิษ
ขอทวงสิทธิ์ได้แค่ฝันเท่านั้นหรือ
ทำแผ่นดินเกือบสิ้นชาติชนร่ำลือ
ลืมว่าคือถิ่นกำเนิดก่อเกิดกาย
เมื่อชื่อไทยใจเป็นทาสขาดสติ
แผลใจปริเลือดหลั่งรินไม่สิ้นสาย
คนดีอยู่อย่างทดท้อรอความตาย
โลกยิ่งคล้ายไร้ค่าราคาคน
สังคมขาดเบ้าหลอมทางความคิด
เดินทางผิดอำพรางใจให้สับสน
ความเลวร้ายมากกว่าดีมีเล่ห์กล
จ้องจะปล้นเสรีภาพงาบศรัทธา
อิทธิพลคนมีเงินถืออำนาจ
คล้ายปีศาจแฝงเร้นการเข่นฆ่า
ทุ่มกำมือสู้กับมันให้ยิบตา
ก่อนสิ้นชาติชีวาสลายลง
อย่าปล่อยให้เหตุการณ์ร้ายไปกว่านี้
กู้ชาติพลีดับไฟลามเป็นผุยผง
เพื่อชาติชนศาสน์กษัตริย์ยังอยู่คง
งามไตรรงค์พลิ้วสะบัดชี้ชัดไทย
5 กันยายน 2554 09:17 น.
เพื่อนเก่า
หากเกมรักสามเส้าเขาเหนือกว่า
ฉันคงได้หลั่งน้ำตาในครานี้
เขาทวงสิทธิ์อย่างไรเมื่อไม่มี
ทั้งทั้งที่แย่งใครอื่นมาชื่นชม
เมื่อความสุขแฝงมากับความเศร้า
ใจของเราโดนทำร้ายคล้ายขื่นขม
เหลือเพียงแต่ถ่านเถ้าเงาอารมณ์
แม้ตรอมตรมก็จะสู้อยู่ต่อไป