หยาดน้ำตาไหลรินสิ้นแรงหวัง
ทุกข์ประดังเทลงมาในครานี้
จะหันหน้าหาหาใครมอบไมตรี
ให้ชีวีคลายเศร้าเหงาทรวงใน
แน่วสำนึก"จิตรกรรม" ธรรมชาติ
งามพิลาศ"สดุดี"ชีวิตใหม่
เป็นสายสร้อยแห่ง"สวรรค์"บันดาลใจ
เพื่อ"เลือดไทย"คงอยู่คู่แผ่นดิน
เปรียบครา"แล้ง"โชคชะตาฟ้ากลั่นแกล้ง
ให้สำแดงความ"สมบูรณ์"ที่สูญสิ้น
คิดคิดไปโศกาน้ำตาริน
เหมือนสิ้นแรงหวังไป"ท้ังมวล"
เมื่อ"หยาดฝน"อาลัยคลายทุกข์โศก
แวววิโยคหมดไปใฝ่กังฉิน
ปล้นจี้ฆ่า"นำมา"เพื่อหากิน
หมดแล้วสิ้น"มนุษย์ธรรม" "น้ำใจ"คน
เจ็บครานี้โศกระกำช้ำเหลือแสน
"ไม่เหมือนแม้น"โชคชะตาพาสับสน
เมื่อสิ้นหวังน้ำตาไหลคล้ายสายชล
แทบกลายเป็นโลหิตข้นคราท้อใจ
หวังฟ้าดลชีวิตนิมิตมั่น
สู้กัดฟันเริ่มต้นชีวิตใหม่
จาก ดอกฝัน สู่ เพื่อนเก่า เรามีใคร
ที่คอยปลอบประโลมให้คลายโศกา
จวบวันนี้ยังเลิกฝันวันใจท้อ
"ใจคนรอ" "แรมร้าง"เหนื่อยหนักหนา
จะเดินทางต่อไปในวิญญาร์
เพื่ออาณาเขตุใจใฝ่ทำ(ธรรม)ดี
ฝนหยาดรินหยาดฝนฝนสั่งฟ้า รินน้ำตาเปื้อนปนหยาดหยดฝัน ถึงจะแพ้กี่คราวครั้งไม่สำคัญ ทุกชีวันอย่ายั้งหยุดตราบสุดทาง ใช่เพียงฝันแต่ไม่เคยลงมือทำ ความระกำย่อมกองสุมทุกก้าวย่าง โลกไม่เคยต้อนอับจับวายวาง อย่าหมองหมางยึดพระธรรมนำสุขใจ นับโมงยามของชีวีอย่างมีหวัง ก่อพลังเลิกท้อแท้ร่วมแก้ไข ชั่วชีวิตต้องก้าวเดินสู้ต่อไป สู่จุดหมายที่ไม่ไกลเกินจริง
ถ้าโลกนี้ไม่มีซึ่งมนุษย์ ผู้มีใจบริสุทธิ์ในจุดหมาย ล้วนเรียกขานว่าคนดีไว้ลวดลาย เพียงวันตายตอบสนองต้องศีลธรรม หากไม่มีคนดีใดเรียกใช้สิทธิ์ หมู่อมิตรครุโทษโฉดเหลือล้ำ จึงรุกรานปราศสิ่งเหลือให้จดจำ มือมืดดำทำชั่วไม่กลัวเกรง ฉันฝันถึงวันรุ่งของพร่งนี้ ความปราณีคงจ่อมจมโดนข่มเหง นำเพลงมอบปลอบขวัญมาบรรเลง เป็นบทเพลงกล่อมโลกที่โศกตรม โลกเสื่อมทรามพังภิณฑ์สิ้นแรงหวัง แผ่นดินหลั่งน้ำตาพาขื่นขม ไฟล้างผลาญโลกหล้าดั่งดาบคม รอวันล่มสลายไปในพริบตา
สุนทรภู่ครูกวีศรีสยาม เลื่องลือนามเอกอุอนุสรณ์ ผลงานท่านรื่นรสในบทกลอน แม้บ้านดอนพงไพรยังได้ยิน เราลูกหลานควรตราตรึงซึ้งสำนึก จักฝนฝึกตามแนวทางท่านสร้างศิลป์ ให้บทกลอนขจรไกลไม่พังภิณฑ์ เป็นดังปิ่นนคราค่าควรเมือง หนึ่งแรงใจหลายแรงหวังรวมทั้งผอง ตามครรลองบทกวีที่ลือเลื่อง ตราบสิ้นฟ้าไม่สิ้นสุดความรุ่งเรือง นามกระเดื่องเทิดครูกลอนสุนทรธรรม
มุ่งเดินมาจากซอกตึกลึกสูงใหญ่ ตามองไปคร่ำครวญคล้ายโศกศัลย์ เป็นส่วนย่อยหยุดเคลื่อนเหมือนทางตัน กายยังมั่นใจยังหมายในนาคร สังคมผ่านเจริญไกลในมุมอับ คนกลายกลับเป็นหุ่นทุ่นไม้ขอน ไร้อารมณ์ทุรยุคทุกขั้นตอน จากที่เคยเอื้ออาทรกลับไม่มี หรือมันคือภาพผ่านธารกระแสร์ อันผันแปรย่อยยับไปทุกที่ สิ่งเคยคิดกลับผิดหวังยังย่ำยี ดุจภูตผีหลอกหลอนซ่อนวิญญาณ จรดถ้อยคำจากผู้รู้สังเกต และสังเวชกำสรดในสังสารฯ ก่อนแผ่นดินสิ้นสุดหยุดร้าวราน ขอดวงมานแห่งแผ่นดินฟื้นถิ่นธรรม