27 ธันวาคม 2549 07:55 น.
เพียงพลิ้ว
สารภาพจากใจไร้สิ้นศักดิ์
ตั้งแต่รักทาบทอต่อใจฝัน
มอบพลังหวังดีมีให้กัน
เอ่ยทุกวันฝากย้ำ.....นวลคำนึง
มิเคยผันปันใจให้เป็นอื่น
ทุกค่ำคืนพูดซ้ำคำคิดถึง
มธุรสสรรหามารำพึง
ยังไม่ครึ่งส่วนเงียบเมื่อเทียบคำ
นางนวลผิวสีนิลชินความห่าง
เกิดช่องว่างกลั้นครวญอกนวลขำ
ฝากรักและคิดถึงไปให้จดจำ
ฝากลมย้ำว่าอาทรมิคลอนคลาย
อาจคิดถึงไม่ครึ่งส่วนที่นิ่งเฉย
รักรำเพยคอยเตือนมิเลือนหาย
ไกลสุดฟ้าผูกสมัครรักมิวาย
นวลผูกสายสัมพันธ์มั่นในรัก
ความแตกต่างระหว่างวัยมิไขว้เขว
ยอมทุ่มเทชีวิตติดกับดัก
แค่คิดถึงดวงอุรากล้ายิ่งนัก
หวานประจักษ์ลึกซึ้งถึงแก่นใจ
นวลคำนึงถึงไกลในปลายฟ้า
นวลอ่อนล้าเก็บฝันกันความไหว
นวลใจภักดิ์รักหวงและห่วงใย
นวลของไกลผิวสีนิลมิสิ้นรัก.......
26 ธันวาคม 2549 07:24 น.
เพียงพลิ้ว
ถามหาคู่ชูใจจะได้เลิศ
สุดประเสริฐดีแสนเป็นแก่นสาร
ถามหาไข้หายพลันมิทันนาน
ทุกสถานเลขนี้ว่าดีเอย ฯ
หากเซียมซีใบที่เจ็ดเผล็ดผล
ขอคู่กมลที่ว่าเลิศจงเปิดเผย
ไกลล้านโยชน์โปรดมาหาอย่าละเลย
มาพร่ำเอ่ยรักหอมกล่อมนวลนอน
ยี่สิบเก้าหมาดหมาดยังขาดคู่
แม่เฝ้าดูเป็นห่วงดวงสมร
มีแฟนยังติดตามถามบังอร
คอยอาทรหวั่นลูกไร้ใครผูกพัน
ลูกมีเพื่อนร่วมทางบุญแม่อุ่นจิต
เพียงชีวิตลูกมีคู่สู่ฝั่งฝัน
เพียงเท่านี้ที่วาดไว้ในชีวัน
ลูกสุขสันต์แม่นี้ดีใจแทน
หวังสักคนรับไว้ในอ้อมกอด
ค่าสินสอดของแม่แค่สามแสน
ประกาศหาคนร่วมครัวทั่วดินแดน
อย่าช้าแม้นอยากอยู่เป็นคู่ครอง
อยากให้แม่สมใจในปีนี้
นวลยินดีชื่นบานร่วมหารสอง
เตรียมเงินจ่ายแสนห้าช่วยค่าดอง
หากจะเป็นกิ่งทองของน้องนวล..
จุ๊ จุ๊ อยากบอกแม่ล่ะ อิอิ
22 ธันวาคม 2549 07:41 น.
เพียงพลิ้ว
ฟังเพลงไผ่ใบผิว..............หัวใจพลิ้วคล้ายสับสน
หวั่นไหวในวังวน............อุราหม่นยามเพลินเพลง
ทำนองล่องไพรพฤกษ์.........ยิ่งรู้สึกถูกข่มเหง
ไผ่ผิวปลิวบรรเลง........ยิ่งวังเวงหนาวเหน็บทรวง
ไผ่สีพาฤดีหนาว...............จนเดือนดาวลับลาล่วง
หมองหม่นคือผลพวง..คล้ายแหนหวงเพลงไผ่พรม
จวบอรุณอุ่นเพลงไผ่.........ประโลมใจล้างขื่นขม
ชะล้างทางอารมณ์................เพลงไผ่คมกรีดอุรา
เพลินทำนองไผ่พลิ้ว..............ตามลม
เพลงเก่าผิวมาพรม.................ยิ่งเศร้า
เพียงไหวหวั่นคารม...............เสียงไผ่ ฝากเอย
ใจวุ่นสับสนเคล้า...................เมื่อครั้นเพลินเพลง
ดาวเดือนลับยิ่งคว้าง...............วังเวง
รู้สึกใจตนเอง..........................อ่อนล้า
คลับคลาถูกข่มเหง...................จากไผ่ ผิวเอย
หนาวเหน็บฝันยากคว้า............ไผ่ซ้ำเพลงครวญ
มนต์เพลงผิวไผ่อ้อน.................ชวนหลง
ใจบอดเพลงจบลง.....................หม่นไหม้
แหนหวงแผ่วไพรพง.................เสียงคีต
อกวุ่นคล้ายรักไร้....................คลับคล้ายเพลงลา
เพลงผิวจวบรุ่งแจ้ง....................เชยชม
เหมือนดั่งรอยอารมณ์..............ถูกล้าง
คมบาดชะความขม..................จนอุ่น
เพลงไผ่ปลอบคนคว้าง............คลั่งไคล้ต้องมนต์
...... มนต์ไผ่..................ไผ่เกเร
เพลงไผ่พรมประสาน ปลอบดวงมาลย์ที่ล้าลม
ทำนองสานผสม บาดอารมณ์ดั่งมนตรา
เพลินเพลงบรรเลงไพร ลำนำไผ่กรีดวิญญา
วังเวงวิเวกหา เดือนดารามาเพลินเพลง
ราตรีกังสดาล ดั่งเพลงมารมาข่มเหง
ไผ่ผิวปลิวบรรเลง ยิ่งวังเวงยามได้ยิน
เพลงไผ่ผสมลม ยังพลิ้วพรมไม่สุดสิ้น
กล่อมไพรในแดนดิน แม้สูญสิ้นสรรพสำเนียง
เพลงลมพรมไผ่พลิ้ว ประสาน
หวังแค่ปลอบดวงมาลย์ อ่อนล้า
พรมลมห่มกำจาน เสียงไผ่
บาดท่วมหทัยข้า ดั่งต้องมนตรา
เพลินบรรเลงไผ่ร้อง เพลงไพร
เพลงไผ่บรรเลงไพร กรีดต้อง
วังเวงยิ่งดวงใจ เพลงไผ่ วิเวก
มวลหมู่เดือนดาวพ้อง ร่วมร้องลำนำ
เสียงราตรีแผ่วคล้าย เพลงมาร
เพลงไผ่กังสดาล ข่มห้อง
หวีดหวิวดั่งบรรดาล มารหมู่ ประสาน
ลมล่องเพลงผิวต้อง ร่ำร้องเพลงไพร
เพลงผิวพรมไผ่ล้อ หยอกลม
เพลงป่าไพรผสม หว่านล้อม
เพลงลมกล่อมระทม ลมป่า ระริ้ว
เพลงไผ่ผิวปลิวย้อม ขุ่นข้องหลงเพลง
21 ธันวาคม 2549 07:43 น.
เพียงพลิ้ว
กุหลาบรักปลูกไม่งามตามใจฝัน
เปลี่ยนใจหันปลูกดอกงามนามซ่อนกลิ่น
ฝังหน่อในดินร่วนหมั่นพรวนดิน
หอมประทิ่นต้องนาสาคราดอกบาน
หอมนักหอมกว่าดอกใดในคืนค่ำ
หอมเหมือนคำใครอ้อนตอนรักหวาน
หอมคารมชื่นกว่าสุมามาลย์
หอมแล้วผ่านยามลมพร่างพรมมา
สายลมดึกนำกลิ่นเย้าเจ้าซ่อนกลิ่น
น้ำตารินยามชมดมบุปผา
คล้ายกลิ่นรักเคยเคียงเพียงมายา
สุดท้ายลาจากไปไม่จีรัง
คนไม่นิ่งแต่จริงใจในรักแท้
ได้เพียงแค่โหยไห้ในความหลัง
กลิ่นเคยหอมทุกคืนท้ายครืนพัง
รักแล้วชังเหมือนซ่อนกลิ่นลาดินงาม
19 ธันวาคม 2549 07:36 น.
เพียงพลิ้ว
นวลรำพึงถึงลมพรมกล่อมขวัญ
หอมความฝันทุกค่ำหลงคำหวาน
เหมือนหลิวต้องลมบนสุดทนทาน
ไกวกิ่งก้านเอนลู่ไม่สู้ลม
เหมือนลมสั่งทะเลใจบอกให้รู้
คลื่นควรอยู่สมุทรสุดเหมาะสม
ไกลสุดหล้ากว่าคลื่นไม่ชื่นชม
ไพรพนมแม้นหวังพลาดทั้งเพ
พันธนาการใจหรือคือความห่าง
และความต่างวันวัยทำไขว้เขว
ยากสลัดกลัดกลุ้มแม้นทุ่มเท
เหมือนลมเห่พัดแผ่วแล้วอำลา
ขมอกยอกคล้ายดอกหลิวปลิวรายร่วง
หนึบในทรวงคนต่ำต้อยน้อยวาสนา
ตามครรลองสองปรางทางน้ำตา
เจ็บซ่อนหน้าเลยผ่านวิมานลม........