22 มิถุนายน 2548 09:58 น.
เพียงพลิ้ว
เห็นฟ้าใสใจปองมัวจ้องเเพลิน
ยามย่างเดินมิมองทางอยู่ข้างหน้า
ชมเมฆสวยลอยเลื่อนเกลื่อนนภา
ลืมพสุธาละทิ้งสิ่งรอบตัว
เดินบนดินกินบนทรายกายต้องลม
มิอาจข่มรักฟ้ากว้างห่างเหนือหัว
มีฟ้าใสในพะวงหลงเมามัว
มิคิดกลัวหากได้ฟ้ามาครอบครอง
สุดท้ายเพราะฟ้าน้ำตาพราก
ดินต่างหากที่เราเป็นเจ้าของ
เดินตกหลุมขาฟกช้ำน้ำตานอง
เพราะมัวจ้องฟ้าพธูลืมดูดิน
รังเกียจพื้นที่ยืนย่ำเลยช้ำอก
เผลอจนตกส้นสูงใส่ให้ห่างหิน
พลาดตกหลุมกุมขาน้ำตาริน
แทบดับดิ้น .....บอกฟ้า...ว่าสุดอาย
อีกหนึ่งคืบจะถึงฟ้าดันมาตก
อยากจะชกตัวเองเซ็งเหลือหลาย
พอซบหน้ากับดิน.....สิ้นเสียดาย
ผลสุดท้ายของตน.....ไม่พ้นดิน
20 มิถุนายน 2548 10:20 น.
เพียงพลิ้ว
รักคนแก่แค่เห็นใจเต้นตึก
ความรู้สึกบอกใช่คนใฝ่หา
อกอบอุ่นคราวพ่อที่รอมา
อยากผวาเข้าซบยามพบพาน
รักคนแก่แม้ใครบอกไม่ดี
ชีพยอมพลีเพื่อตามความรักหวาน
นี่แหลาเขาที่เราสนคนเกิดนาน
มาดภูมิฐานสูงวัยถูกใจจริง
รักคนแก่แม่ว่าอย่าไปหลง
ตัวเขาคงมีคาวถูกสาวทิ้ง
อ้อมอกนี้คงมีใครได้พักพิง
แต่ยังนิ่งยังรั้นรักต่อไป
รักคนแก่แค่ไหนบอกไม่ถูก
รากรักปลูกไชชอนถอนไม่ไหว
สีดอกเลาอยู่ทั่วเต็มหัวใจ
หวังเพียงได้เคียงข้างทุกย่างเดิน
รักคนแก่เพราะแคร์เราเฝ้าถนอม
ใจจึงพร้อมร่วมชีวิตมิคิดเขิน
อยากฟังเพลงโบรณหวานเพลิดเพลิน
รักเหลือเกินชายหนุ่มแก่แพ้ใจเธอ
รักคนแก่แน่ใจไม่ได้หลง
รักยืนยงมิผันมั่นเสมอ
จากวันแรกถึงวันที่ได้เจอ
ยังพร่ำเพ้อรักล้นคนชรา
9 มิถุนายน 2548 12:47 น.
เพียงพลิ้ว
มิใช่คนควรค่าเธอมารัก
แต่ขอปักใจหลงพะวงหา
ใช่นางเอกเลขหนึ่งงามตรึงตรา
ยังมีหน้าเสนอตัวมาพัวพัน
ดันทุรังหวังอยู่คู่เคียงใจ
รอต่อไปเผื่อเข้าทางคนอย่างฉัน
ฟ้าดินคงเห็นใจในสักวัน
มิยอมแพ้แม้ฝันนั้นเลือนลาง
ฝนกระหน่ำฟ้าร้องกึกก้องจิต
ฟังและพิศสายฝนจนฟ้าสาง
กระแสน้ำขุ่นเข้มเป็นหนทาง
ไม่อาจล้างเธอออกจากซอกใจ
คืนหนาวเหน็บนอนหลับตาใต้ผ้าห่ม
มิอาจข่มความคิดถึงสักครึ่งได้
เฝ้าห่วงหากังวลถึงคนไกล
แอบหวังไว้นั่งพิงอิงอกชาย
เดือนเมษาร้อนจริงใจยิ่งพล่าน
คิดรนรานหวั่นคนไกลไร้ความหมาย
หวาดรักซึมตามเหงื่อออกมานอกกาย
แอบใจหายกลัวรักร้างห่างฤดี
ขอยืนยันสัญญาว่ามั่นรัก
ขอสลักใจกายไม่หน่ายหนี
จะรักเธอยั่งยืนนักหมื่นปี
รักฉันนี้ฤดูไหนไม่ต่างกัน