25 มีนาคม 2552 08:08 น.
เพียงพลิ้ว
เหงาไหม
ฝากหัวใจข้ามฟ้ามาทักถาม
เหนื่อยหนักหนามารับซับคลื่นความ
คำไหวหวามฝากถึงหนึ่งคนไกล
ค่อนดึก
รับรู้สึกอาทรก่อนหลับไหล
เพลงขับขานกานท์อุ่นละมุนละไม
เขียนจากใจหวังใครหนึ่งจะซึ้งคำ
ห่วงหา
รจนาพะนอตามยามฟ้าค่ำ
ฝากเพียงพจน์จรดไว้หัวใจจำ
โปรดดื่มด่ำสักหน่อยค่อยนิทรา
หลับฝัน
ชั่วกับกัลป์เฝ้าเห่เสน่หา
สายใยงามความหมายส่งคลายล้า
มีรักมาส่งสุขทุกราตรี
หอมร่ำ
กระแสคำตราตรึงส่งถึงที่
ฝากกลอนกานต์หวานหอมกล่อมคนดี
ดึกคืนนี้ฝันละมุนด้วยอุ่นคำ
19 มีนาคม 2552 12:10 น.
เพียงพลิ้ว
คือความจริงสิ่งที่ดีที่สุด
คือการหยุดหัวใจดับไฟฝัน
คือเลิกครวญซ้ำซากฝากสัมพันธ์
คือเริ่มหันหลังลาปวดปร่าเกิน
ถึงเวลาเจ็บช้ำทำรักหาย
ยอมเดียวดายถึงปางใครห่างเหิน
เคยรักซึ้งพึงชังใช่บังเอิญ
ด้วยถูกเมินบ่อยไปใจกระเจิง
คีตกานต์หวานเศร้าเคล้าเพลงฝน
น้ำตาหล่นเอ่อนองสองแก้มเจิ่ง
หวานสนิทคิดห่างสุดว้างเวิ้ง
ฝันค้างเติ่งบอกใจเจ็บให้พอ
เปล่งสีสันวันรักถักทอแสง
หมดเรี่ยวแรงรักไร้หัวใจฝ่อ
แม้นวันนี้ไม่มีความหวังมิรั้งรอ
ไม่ร้องขอแม้นคนนี้มีน้ำตา
รักไม่งามความหมายคลายมนต์ขลัง
ทุกข์โถมถั่งใครไม่ซึ้งถึงคุณค่า
เรี่ยวแรงถดหมดสิ้นจินตนา
มิอาจคว้ารักใครไว้ครอบครอง
หนาวฝนร้ายปลายมีนาผวาเจ็บ
หนาวคำเหน็บทุกข์ท้นสุดหม่นหมอง
รักงดงามแค่ความฝันตามครรลอง
บอกใจต้องไม่ดื้อยื้อคืนดี
11 มีนาคม 2552 14:46 น.
เพียงพลิ้ว
หอมระรื่นคืนวันสายฝันสวย
พันใจด้วยรักละไมใครห่อห่ม
เพียงคิดถึงซึ้งค่าอิฏฐารมย์
โมกน้อยพรมกลิ่นอ่อนคล้ายซ่อนนัย
มอบของฝากจากปลายฟ้ามาเคียงขวัญ
ขอผูกพันเสน่หาอย่าสงสัย
มอบความหวังทั้งปวงพร้อมห่วงใย
เติมหัวใจเรื่อยมาอย่าหมางเมิน
ร้อยความรักปักวางกลางใบหมอน
ส่งอาทรผูกมัดสิ้นขัดเขิน
ขอคนดีมีสุขทุกก้าวเดิน
ใช่ผิวเผินสัมพันธ์ฉันกับเธอ
ฝากเดือนดาวพราวพริบกระซิบถึง
มีใครหนึ่งเคียงคู่อยู่เสมอ
ดึกดื่นหวนครวญคร่ำรำพันเพ้อ
อยากพบเจอคนของใจใต้แสงดาว
อธิษฐานผ่านฟ้าหาไออุ่น
เพียงประจักษ์รักละมุนใจอุ่นผ่าว
เพียงรู้สึกลึกล้ำน้ำตาวาว
เพียงสืบก้าวเข้าหาคล้ายคว้าลม
26 กุมภาพันธ์ 2552 09:45 น.
เพียงพลิ้ว
เมื่อได้เห็นความเป็นไปในรู้สึก
ร้าวลึกเจ็บเกินใครเหินห่าง
เฝ้าเพ้อครวญหวนละห้อยยากปล่อยวาง
เพียงแตกต่างองศาเดียวสิ้นเกี่ยวพัน
สิ้นน้ำใจใยเยื่อเมื่อวันก่อน
เหลือคำย้อนช้ำชอกยอกถูกหยัน
วจีหวานผ่านเลยเคยบอกกัน
วันนี้หันหลังลา...น้ำตาริน
คนไร้ค่าคว้าลมมาชมกอด
หัวใจบอดหมดสิทธิใดให้ถวิล
อยู่กับช้ำน้ำตาให้ชาชิน
ต่ำเพียงดินหมายฟ้าไกลไม่พ้นอาย
เกิดสนิมกลางเนื้อในหัวใจหนึ่ง
คำเคยซึ้งเคยงามสิ้นความหมาย
รอยอดีตพิษซ่านเจ็บบานปลาย
มิเคยคลายใยหวานเคยผ่านมา
สุขได้นึกรู้สึกขมผสมผสาน
จินตนาการรำลึกเล่ห์เสน่หา
ดอกรักเฉาเศร้าใจได้น้ำตา
เจ็บซ่อนหน้าทุกข์ท้อเกินพอดี
ค่อนคืนดึกรู้สึกไหวอกไพล่โหย
ร้องโอดโอยรู้แก่ใจมิใช่ที่
วาสนาของเราก็เท่านี้
สุขได้มีไม่นานก็ผ่านทาง
จมดักดานกับกาลเก่าเฝ้าฝันหา
ยังค้างคาเหตุใดรักไกลห่าง
จมความคิดพินิจนิ่งสิ่งตกค้าง
เหลืออ้างว้างให้กอด....ตลอดกาล
12 กุมภาพันธ์ 2552 10:41 น.
เพียงพลิ้ว
รู้นะ....ว่ากลุ้มสุ้มเสียงบอก
อยากซับยอกลบช้ำด้วยคำหวาน
กี่คำวาทจึงปราศทุกข์จุกดวงมาน
อยากสื่อสารความนั้นกำนัลใจ
รู้นะ...เหนื่อยหน่ายความหมายสื่อ
อยากแย่งยื้อแบ่งปันความหวั่นไหว
ภาระผ่านลุล่วงด้วยห่วงใย
ขอคนไกลอย่าท้อต่อชะตา
รู้ไหม....ใครหนึ่งคำนึงเสมอ
ยามใดเธอโศกศัลย์พบปัญหา
อยากปลอบโยนยิ้มอ้อนคลายอ่อนล้า
จนแกร่งกล้าเริ่มใหม่ไปพร้อมกัน
รู้ไหม...เธอเหงาฉันศร้าด้วย
โลกหมดสวยเมื่อใจสิ้นไฟฝัน
ทุกข์สุขล้อมยอมรับซับแบ่งปัน
ด้วยผูกพันเกินตีห่างและหมางเมิน
รู้จัก...รักสวยด้วยรู้สึก
รู้ลึก...รู้ใจใช่ผิวเผิน
รู้เห็น...รู้จริงสิ่งเผชิญ
รู้อยากเดินเคียงข้างใครในชีวา