5 กรกฎาคม 2549 07:40 น.
เพียงพลิ้ว
. วันนี้ท้อทรมานอาการหนัก
ทุกข์เพราะรักไม่งามตามประสงค์
เมื่อรักไม่หวานฉ่ำดั่งจำนง
คงต้องปลงยอมร้างลาห่างกัน
. ถ้ารักจริงนั้นหรือคือการให้
ฉันเต็มใจเลิกครอบครองเป็นของขวัญ
เตรียมใจพร้อมยอมแยกทางเป็นรางวัล
ที่เคยปันสิ่งดีดีมีให้มา
. สิ่งที่เคยกวนใจให้เคืองขุ่น
อ้อนวอนคุณยกโทษอย่าโกรธหนา
คำตัดพ้อต่อเธอตลอดเวลา
ทั้งวาจาเลาะร้ายอย่าหมายจำ
. ขอบคุณมากจากใจแม้ไกลห่าง
อาจเคว้งคว้างหม่นหมองต้องกลืนกล้ำ
อยู่ด้วยใจที่มีรอยของถ้อยคำ
เธอเคยพร่ำพูดไว้ในวันวาน
.ขอให้คุณพบคนดีมีรักแท้
พร้อมดูแลมอบรักสมัครสมาน
ฉันเต็มใจเจ็บเพราะรักอย่างดักดาน
ขอร้าวรานขมขื่นทุกคืนวัน
. ต่อแต่นี้มีสิทธิ์แค่คิดถึง
หากหวงหึงเพียงแค่แต่ในฝัน
รักลุ่มหลงบังตาพาจาบัลย์
จึงโศกศัลย์ซ้ำซากลำบากเอง
4 กรกฎาคม 2549 08:03 น.
เพียงพลิ้ว
คืนฝนพรำอยู่ลำพังนั่งครวญคิด
คำนึงสิทธ์ของตนคนด้อยค่า
จริงหรือเล่นเซ่นอารมณ์คมวาจา
รักหรือว่าลวงล่อพอให้สุข
น้อยใจ...เพียงน้อยใจได้เท่านั้น
ได้แค่ฝันและเหงาเศร้าเจ่าจุก
นอนไม่หลับกังวลจนเป็นทุกข์
นั่งและลุกทั้งคืนขมขื่นทรวง
หลากเรื่องกลุ้มรุมเร้าคนเขลาคลั่ง
สุมประดังใจขึ้งแอบหึงหวง
ป่านนี้คงมีใครอยู่เป็นคู่ควง
น้ำตาร่วงเมื่อรู้เห็นตนเป็นรอง
สุดท้ายรู้มีสิทธ์แค่คิดถึง
ได้เพียงหึงลมลมระทมหมอง
ฉันคนนี้น้อยค่ากว่าครอบครอง
เป็นเจ้าของดวงจิตมิตรเรือนใจ
เตือนตนเองบ่อยครั้งอย่าหวังมาก
ยามรักจากชอกช้ำน้ำตาไหล
เฝ้าบอกขวัญที่เตลิดเพริดไปไกล
เราไม่ใช่ตัวจริง..นิ่งปล่อยวาง
27 มิถุนายน 2549 07:54 น.
เพียงพลิ้ว
คืนฝนพรำฉันนั่งฟังเสียงฝน
ร่ายเวทมนตร์อ่อนช้อยอ้อยสร้อยเสียง
คล้ายไห้หวนครวญคร่ำในสำเนียง
ฝนร้อยเรียงเพลงฝันกล่อมบรรเลง
พายุหนักฉันนั่งฟังฟ้าร้อง
ฟ้าคะนองคลุ้มคลั่งหวังข่มเหง
ฝนกระทบหลังคาน่ากลัวเกรง
เล่นบทเพลงเร่าร้อนตอนราตรี
คือทำนองเพลงฝนปนเพลงฝัน
คือสวรรค์น่าชมสมศักดิ์ศรี
คือความงามฝันฝนบนเวที
คือดนตรีไพเราะเสนาะใจ
เพียงลำพังนั่งรำพึงถึงสายฝน
คำนึงคนห่างกันแอบหวั่นไหว
ป่านนี้นั่งฟังฝนพร่างอยู่ข้างใคร
จะรู้ไหมคนหนึ่งคิดถึงคุณ
ทั้งทั้งรู้คุณไม่สนจะทนฝืน
เฝ้ารอคืนคนไกลให้แขนหนุน
ร่วมฟังฝนรินไหลละไมละมุน
ไอรักกรุ่นหวานชื่นคืนฝนโปรย
21 มิถุนายน 2549 07:50 น.
เพียงพลิ้ว
เห็นเธอแล้วรู้สึกแปลกเมื่อแรกเห็น
ฝืนซ่อนเร้นกลัวหมองจำต้องฝืน
กลืนความไหวใจกลัวช้ำทนกล้ำกลืน
กลัวสะอื้นหากหลงคงน่ากลัว
เจ็บลึกลึกผนึกในหทัยเจ็บ
หัวใจเก็บรักไม่ไหวไม่เจียมหัว
มัวแต่คิดถึงเธอเพ้อเมามัว
ล้ำพันพัวคบไปจนใจล้ำ
รักหมดใจได้คุยกันฉันเผลอรัก
ขำยิ่งนักคุยแล้วสุขมุขเธอขำ
คำเอื้อนเอ่ยเหมือนปราชญ์ตอบนึกชอบคำ
พลิ้วใจถลำตามลมที่พรมพลิ้ว
เผลอปล่อยรักออดอ้อนตอนใจเผลอ
ผิวใจเพ้อตามบรรเลงบทเพลงผิว
ปลิวละล่องใจน้องปล่อยลอยฟ่องปลิว
ทรวงละลิ่วตามคำรักจนหนักทรวง
ไหนลองทวนให้ประจักษ์รักตรงไหน
หวงแหนใครจึงเขลาเฝ้าห่วงหวง
ลวงให้กันฝันเก้อเพ้อภาพลวง
ใจตกบ่วงรักมารร้าวรานใจ
หวานน้ำคำแรกสบตาวาจาหวาน
ไหวดวงมานจนสะบั้นอกหวั่นไหว
ไกลมาลวงให้รักแล้วแก้วจากไกล
ทนหมองไหม้เลือกจะช้ำต้องจำทน
กลบทครอบจักรวาล
15 มิถุนายน 2549 09:38 น.
เพียงพลิ้ว
นึกนึกมาน่าใจหายเสียดายนัก
เคยเคยรักดูแลกลับแปรผัน
หลงหลงคิดว่างามความสัมพันธ์
ถูกถูกบั่นเจ็บซ่อนหน้าน้ำตานอง
แรกแรกพบสบตามิกล้าทัก
หลังหลังชักปลาบปลื้มลืมเรื่องหมอง
เผลอเผลอใจไปชอบคิดครอบครอง
เรียกเรียกร้องจะคว้าลมตรมน้ำตา
เจ็บเจ็บจริงนิ่งไม่ไหวในคราวหม่น
ฝืนฝืนทนบอกใจหยุดไขว่หา
ลืมลืมเถิดรักลวงดวงชีวา
หยุดหยุดคว้าสิ่งน่ากลัวไร้ตัวตน
ใจใจเอยเคยกลัวช้ำเพราะคำรัก
แปลบแปลบหนักยามรักคุดสุดสับสน
ร้าวร้าวรานปานไหนใจจะทน
เพราะเพราะคนทำเจ็บนั้นฉันคนเดียว