11 ตุลาคม 2549 09:22 น.
เพียงพลิ้ว
มิได้เป็นเพ็ญงามอร่ามฟ้า
ยามไกลตาห่างกันกลัวหวั่นไหว
ความกลัดกลุ้มสุมหนักคนรักไกล
กลัวมีใหม่น่ารักปักอุรา
รู้ตัวเองอยู่เต็มใจไม่น่ารัก
และตระหนักตัวดีไม่มีค่า
แต่มอบรักให้เธอเสมอมา
ยังห่วงหาคิดถึงคะนึงมิวาย
ใจเธอยากคาดเดาเข้าใจยาก
คงลำบากค้นคว้าหาความหมาย
คืนฝนดึกนึกเศร้าเหงาเดียวดาย
รักที่ปลายฟ้าฟากยากพบเจอ
รักคือรักมอบไว้ไม่แปรผัน
ฝากใจฝันเต็มใจใคร่เสนอ
รักหวานซึ้งมีเธอเคียงเพียงละเมอ
ขอเพียงเพ้อพบในฝันเท่านั้นพอ
ฝากรักไปไถ่ถามข้ามโค้งฟ้า
ไกลสุดตาส่งจิตติดตามต่อ
ท่องเอาไว้เธอคนดีมีคนรอ
บางคราวท้อกลัวช้ำถูกย่ำยี
ก้มหน้ารับชะตากรรมคนช้ำหม่น
เจ็บก็ทนเพื่อรักแท้แม้หมองศรี
รักหนึ่งเดียวเท่านั้นในชีวี
ไม่ขอมีคนใหม่ให้ซ้ำรอย
ขอเรียนรู้ยอมภักดิ์แด่รักนี้
รักเต็มที่หมดใจจะไม่ถอย
รักปลายฟ้าต่างล้นจะทนคอย
ช้ำบ่อยบ่อยสักวันฉันคงชิน......
10 ตุลาคม 2549 07:25 น.
เพียงพลิ้ว
ฝากความรักทักทายคนปลายฟ้า
ฝากลมพาไปชิดบอกคิดถึง
สองสายใจถูกมัดสุดรัดรึง
รักสุดซึ้งอยู่ไกลไม่เคยเลือน
มีเพียงเราเท่านี้มีสุขล้น
คุณคือคนรู้ใจหาใครเหมือน
ค่อนดึกนิ่งอิงรอยคำยิ่งย้ำเตือน
คุณคือเพื่อนสนิทมิตรเรือนใจ
ฝากแสงโสมโลมไล้ย้ำไกลด้วย
มีสาวสวยพบเจออย่าเผลอไผล
ยังมีคนเฝ้าดูแม้อยู่ไกล
วาดฝันไว้เป็นคู่บุญคุณคนดี
สายฝนฉ่ำบรรเลงเพลงยามดึก
ยิ่งระลึกถึงพี่ชายมิหน่ายหนี
ฝนกระซิบเบาเบาบอกเขาที
ณ ตรงนี้น้องน้อยคอยพบเจอ
ฝากสายใยความรักภักดีมั่น
ฝากใจฝันข้ามฟ้ามาเสนอ
มีเพียงใจมั่นรักจักบำเรอ
ฝากคำเพ้อจากใจไม่เสื่อมคลาย
มอบความรักรสละมุนให้คุณชื่น
รอวันคืนงดงามมากความหมาย
สารพันปัญหาร่วมท้าทาย
จะเคียงกายเคียงใจไม่เปลี่ยนแปร
6 ตุลาคม 2549 16:19 น.
เพียงพลิ้ว
เสียงลมเตือนเดือนตุลาได้มาถึง
อีกครั้งหนึ่งครบวันออกพรรษา
เตรียมชำระจิตใจได้เวลา
หนุนศาสนาตักบาตรร่วมชาติกัน
เตรียมถวายอาหารท่านพระสงฆ์
แต่งบรรจงชีวิตงามตามไฟฝัน
รับฟังธรรมนำมาเติมเสริมชีวัน
ร่วมสร้างสรรค์ปรุงใจให้งดงาม
วันมหาปวารณามาถึงแล้ว
สายลมแผ่วย้ำว่าอย่ามองข้าม
ทำความดีละความชั่วทั่วเขตคราม
เดินทางตามถนนหนทางบุญ
กายวาจาตั้งมั่นในวันนี้
สร้างความดีเอาไว้ให้เกื้อหนุน
สร้างกุศลผลบุญไว้ให้เป็นทุน
ต่อเติมคุณงามแท้ให้แก่ตน
รักษาศีลบำเพ็ญทานบริหารจิต
เพื่อชีวิตประเสริฐบังเกิดผล
ทำความดีได้ดีเป็นศรีคน
สุขท่วมท้นวันพระปฏิบัติธรรม
5 ตุลาคม 2549 14:34 น.
เพียงพลิ้ว
กรุ่นกลิ่นกลมกล่อมหอมดอกโมก
โชยโชคชมชื่นระรื่นหวิว
โบกโบยเบิกบานดวงมานปลิว
ละลิ่วลอยล่องฟ่องตามลม
รื่นรมย์รวยรินกลิ่นโมกสาย
เรียงรายร้อยรักสมัครสม
หวนหอมโหยหาแต่คารม
พร่างพรมเพียงเพ้อว่าเผลอรัก
อบอวลอุ่นไอในปลายฝัน
ของขวัญข้ามแขได้ประจักษ์
หวามไหววูบวาบซาบซึ้งนัก
พรมภักดิ์พร่างพรายคล้ายจริงจัง
เพียงเพ้อพร่ำเพริดเตลิดรัก
หาญหักโหยไห้ไม่สมหวัง
จากจรจบจริงแล้วชิงชัง
นวลนั่งนึกนิ่งยิ่งอ่อนแอ
มนต์โมกมิ่งไม้เหมือนใครย้ำ
คมคำใครเคยเอ่ยรักแน่
มอบหมอนหมายเหมือนเตือนดวงแด
ท้อแท้ทักท้วงทวงรักจริง
4 ตุลาคม 2549 07:17 น.
เพียงพลิ้ว
พรมเพลงพิณผ่านฟ้า................ถึงนวล
รมย์รื่นรินรัญจวน....................แผ่วพลิ้ว
คืนค่ำคีตใครครวญ..................หวานแว่ว
ปรับเปลี่ยนปักปลายนิ้ว............ร่ายร้อยปลอบขวัญ
กลมกลืนไกลกล่อมน้อง.............กังวาน
ดื่มด่ำดิ่งดวงมาน.......................พ่างแก้ว
ออดอ้อนอ่อนเอื้อยหวาน............ใครเล่น พิณหนอ
นวลนิ่งนึกนานแล้ว...................เพื่อค้นคนบรรเลง
ร้อยรักเรียงร่ายพลิ้ว.................เพลงพรหม
ละลิ่วล่องลอยลม........................อุ่นเอื้อ
โศกสร่างเศร้าสูญตรม..............พิณซับ ไปเอย
เอิบอิ่มอวลอาบเนื้อ...................ซาบซึ้งดวงฤดี
ดีดดึงดีดดั่งร้อง.........................ฝากจันทร์
เสียงส่งสู่สวนสวรรค์..................หล่อเลี้ยง
เคียงคู่คลอเคลียขวัญ................พรมกล่อม
ไหวหวั่นหวามหวิวเพี้ยง............อยู่ใกล้ในความจริง
เพลินเพลงพิณพี่ร้อย.................ตรึงใจ
ซึมซ่านซึ้งทรวงใน.....................ลึกล้ำ
อยากอยู่เหย้าเยือนไกล.............ถึงถิ่น
ยากยิ่งยิ่งอยากย้ำ......................เพริศแพร้วเพลงพิณ