21 พฤศจิกายน 2549 07:48 น.
เพียงพลิ้ว
ฟ้าเวิ้งว้างกว้างไกลฝากใจฝัน
กล่อมปลอบขวัญข้ามฟ้าเวหาหาว
โต้สายลมพรมพร่างน้ำค้างพราว
เพื่อถามข่าวผ่านจันทราหาคนไกล
อยู่ปลายฟ้าฝ่าด้นไปจนถึง
รักงามซึ้งผ่องผุดพิสุทธิ์ใส
คิดถึงล้อมหอมกรุ่นอุ่นละไม
ประดับใจรื่นรินกลิ่นไมตรี
มีหลายสิ่งให้เผชิญร่วมเดินคู่
มุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายวิถี
แบ่งปันทุนอุ่นไอในชีวี
เคียงฤดีมิห่างสร้างศรัทธา
มอบรอยคำน้ำผึ้งสุดซึ้งหวาน
มอบดวงมานสิ้นเล่ห์เสน่หา
มอบดวงจิตมิตรภาพอาบอุรา
มอบชีวาเคียงข้างอย่างมั่นคง
ฝากไฟฝันอันอุ่นละมุนรัก
ประณีตถักทอไว้ด้วยใจหลง
กระซิบย้ำรำพันอย่างบรรจง
จารึกลงงดงามด้วยความรัก
รินรินรื่นชื่นฉ่ำรักล้ำค่า
คล้ายบุปผาสุมามาลย์หวานประจักษ์
เย็นน้ำคำอมฤตศักดิ์สิทธิ์นัก
คลายทุกข์หนักพบโลกสวยด้วยผูกพัน
16 พฤศจิกายน 2549 07:27 น.
เพียงพลิ้ว
เสียงไพเราะเสนาะแสนลายแคนเศร้า
คล้ายวอนเว้าแว่วหวานผ่านลมไหว
กังวานยิ่งพริ้งเพราะกัดเซาะใจ
คนอยู่ไกลชื่นชมคมแคนครวญ
ลายแคนหลากทำนองล่องลมผ่าน
คนไกลบ้านฟังซ้ำซ้ำแคนกำสรวล
ลายเศร้าซึ้งถึงแก่นแสนรัญจวน
อยากกลับหวนคืนบ้านอีสานงาม
แคนร่ายมนต์กัดกร่อนอ้อนใจสาว
แคนผู้บ่าวบ้านไหนชวนไหวหวาม
แคนสะกดใจเริ่มเคลิบเคลิ้มตาม
แคนคือความภูมิใจในแดนดิน
เพลงแคนร่ายลายหวานผ่านลมดึก
ทำนองคึกเป่าเพิ่มแต่งเติมศิลป์
คมแคนล้อมหอมจรุงปรุงประทิน
อบอวลกลิ่นเพลงฟ้ามากำนัล
หลงเสียงแคนแทนใจไทยอีสาน
สืบตำนานดนตรีมีสีสัน
ศาสตร์แห่งความรื่นเริงเชิงประพันธ์
แสนสุขสันต์ยินยลมนต์เพลงแคน
14 พฤศจิกายน 2549 07:37 น.
เพียงพลิ้ว
มืดหม่นหมองเมื่อพลั้ง..................ครอบครอง
เพียงเพ่งพิศแพรทอง.................ยิ่งย้ำ
นานเนิ่นนวลนางหมอง...............มิสร่าง
ปวดปร่าแปลบปลาบซ้ำ..............ร่ำร้องคิดถึง
เพียงพลิกแพรพรรณ กลั้นสะอื้น
ค่อนคืนครวญคร่ำ คำไกลเอ่ย
ยิ่งย้อนยิ่งย้ำ คำคุ้นเคย
ล่วงเลยลางเลือน เหมือนรักบาง
เพียงเพ่งเพริดพิศ ยิ่งคิดถึง
ขัดขึ้งขุ่นข้อง น้องจึงหมาง?
ลมล่องโลมไล้ ไกลจึงจาง?
เหินห่างโหยไห้ รักไม่คืน
พรมพิณเพลงแพร ใจแม่หวั่น
ฝากฝันฝากฟ้า คราสะอื้น
เชิญชวนเชยชม แพรขมกลืน
ดึกดื่นดาวเดือน เลือนยิ่งตรม
พลิ้วพัดเพลงแพร แม่ฝากพี่
มิมีมิหมาย ได้แพรอื่น
ยิ่งยากยิ่งยื้อ จะถือคืน
ขมขื่นขุ่นข้อง จองแพรพรรณ
คลอเคล้าคู่เคียง เพียงแพรผืน
ระรื่นริ้วรัก มาปักฝัน
ปรวนแปรแปลบปลาบ วาบชีวัน
แพรพรรณพบพราก แล้วจากลา
เพลงแพรเพลงพิณ ระรินรื่น
ไออื่นอวลอบ ลบเสน่หา
ลมล่องลูบไล้ ได้น้ำตา
เหว่ว้าวังเวง หลงเพลงแพร
11 พฤศจิกายน 2549 08:00 น.
เพียงพลิ้ว
สงสารคนตัวเล็กเด็กบ้านนอก
ต้องช้ำชอกอกหักเพราะรักขม
ถูกสาวสวยฉีกสัญญาล้าระบม
สวรรค์ล่มสาวตีห่างจบกลางครัน
คนตัวน้อยรำพึงมาน่าเป็นห่วง
พบรักลวงไม่งามตามเคยฝัน
คงห่วงหาอาลัยใจจาบัลย์
พ้อรำพันถึงความหลังที่ฝังใจ
คนไม่สูงอย่าน้อยใจในวาสนา
อย่าอ่อนล้ารักพลาดอย่าหวาดไหว
เจ็บระกำน้ำตากระเด็นไม่เป็นไร
มีรักใหม่อยู่เบื้องหน้าอย่าอาวรณ์
คนตัวดำอย่างน้องยังมองอยู่
อยากเคียงคู่เคียงใจไม่ถ่ายถอน
อยากปลอบโยนคนดีที่ร้าวรอน
ลบภาพหลอนจากใจในวันนี้
แม้นไม่สวยงามเด่นเช่นคนเก่า
หวังคลอเคล้าร่วมทางกลางวิถี
ยิ้มไม่หวานอย่างใครแต่ใจดี
วอนให้พี่คนตัวเล็กอย่าหมางเมิน
เรื่องฐานะไม่สำคัญใช่ปัญหา
เพียงใจกล้าจะร่วมใจไม่ขัดเขิน
เพียงสองใจสู้ถากถางเส้นทางเดิน
ร่วมเผชิญฟันฝ่าอย่างท้าทาย
ลืมเสียเถิดความหลังที่ฝังจิต
สร้างชีวิตให้งดงามมากความหมาย
หากรักน้องหัวใจไม่เดียวดาย
จะเคียงกายเคียงกมลคนตัวเล็ก
7 พฤศจิกายน 2549 07:27 น.
เพียงพลิ้ว
สายลมชื่นคืนหวานไม่ผ่านหวน
สายลมด่วนพัดรักไกลไม่ให้สม
สายลมหนาว..ร้าว..ล้า อุราตรม
สายลมลมแล้งแล้งเหมือนแกล้งใคร
นิ่งพินิจคิดตามความคนฝาก
นิ่งเฉยยากถูกปัดรักทั้งผลักไส
นิ่งวิเคราะห์รักเร้นที่เป็นไป
นิ่งอาลัย....ลึกภวังค์ยังหลงรอ
ลมหายใจไออุ่นยิ่งครุ่นคิด
ลมสะกิดว่ารักหวานยากสานต่อ
ลมหนาว...ปีนี้ใจไม่ลออ
ลมล่องล้อคนถูกเมินเจ็บเกินทน
แม้พบกันเมื่อสายไม่อายรัก
แม้เจ็บหนักดวงฤดีเปื้อนสีหม่น
แม้หนาวเหน็บเจ็บช้ำเพราะคำคน
แม้อดทนยากนักจักกล้ำกลืน
คำนึงคำคนไกลในปลายฟ้า
คำฝากว่า”รักเพียงใดไม่อาจฝืน”
คำคมใครทำใจตรมล้มทั้งยืน
คำรักรื่นกลับไม่งามตามที่ควร
ไหวคารมคมคำเคยพร่ำบอก
ไหวอกยอกรักชื่นไม่คืนหวน
ไหวอารมณ์อ่อนล้าน้ำตานวล
ไหวจนครวญฝากลมพรมฝากมา
หนาวน้ำตาเอ่อลามท่วมความคิด
หนาวชีวิตรักเขวสิ้นเสน่หา
หนาวหัวใจใครห่างรักร้างลา
หนาวเกินกว่านิ่งเฉย..คนเคยรัก