31 มีนาคม 2553 19:17 น.
เพลง+พิม
๐ ในขณะที่เรายังหายใจ
ยังรู้การเคลื่อนไหวสรรพสิ่ง
สัมผัสความสุนทรีย์ว่ามีจริง
ใจกลับยิ่งร่อนเร่สู่เอกา
๐ บ้างเหมือนใบลอยคว้างบนทางเปลี่ยว
บ้างเผชิญรอบเทียวตามประสา
บ้างหยาดนัยน์ร่วงรินเสียชินชา
บ้างรู้สึกอ่อนล้าเกินทัดทาน
๐ ล้วนแร้นแค้นโอบอ้อมถนอมขวัญ
ไม่ปรากฏปลอบกัน สร้างปาฏิหาริย์
จักต้องเป็นเช่นนี้สักกี่นาน
ฤๅตราบสิ้นลมปราณแห่งชีวิต
๐ จะสบยิ้มหวานไหวอย่างไรเล่า
เมื่อความเศร้าคุกคามและตามติด
เดือนดาวหลบหน้าทุกสารทิศ
จึงเห็นความมืดมิดอยู่ซํ้าซํ้า
๐ ในขณะที่เรายังหายใจ
ยังรู้ความเป็นไปในก้าวยํ่า
หากได้ยินว่ารักกันสักคํา
ย่อมปลาบปลื้มจดจําจวบวันวาย
๐ จะเคาะโลงบอกรักคงไม่รู้
จะเอ็นดูผ่านธูปและรูปฉาย
กี่โมงยามโศกเศร้าก็เปล่าดาย
เถอะ วันนี้ไม่สายจะรักกัน
11 มีนาคม 2553 17:24 น.
เพลง+พิม
๐ โลกวิกฤตผิดวิสัย ใกล้วิบัติ
สารพัดความหดหู่ที่รู้เห็น
ต่างผวา แต่ตรู่,สายจวบบ่าย,เย็น
เมื่อความเป็นถูกคุกคามโดยความตาย
๐ แผ่นดินวิปโยค ล้วนโศกสบ
มหรรณพบ้าคลั่งละฝั่งหาย
ร้อนและแล้งยังกระตุ้นให้วุ่นวาย
ภูเขาทรายขึ้นคํ้าเหนือลํานํ้า
๐ ถ้วนธาตรีอุบัติ มือมัจจุราช
ผู้ชี้ขาดแห่งศกอันตกตํ่า
ผู้ชําระรอยบาปหยาบกระทํา
จึงล่วงแล้วบุญ-กรรม มวลมนุษย์
๐ เผชิญหน้าธรรมชาติ มิอาจเลี่ยง
ระงมเสียงรํ่าไห้มิได้หยุด
ชีวิต ขึ้นลงแต่ทรง-ทรุด
ธรรมชาติประทุษ ก็เกินพอ
๐ เถอะมนุษย์ อย่ารุนแรงกําแหงหาญ
อย่าเปิดศึกสองด้านให้เกิดก่อ
เฝ้าระวังเรื่อยเรื่อย คงเหนื่อย-ท้อ
คือเรา-ท่านหักงอ มิใช่ใคร
๐ จะตายวันตายพรุ่ง ก็ไม่รู้
ท่ามฤดูมารยาสาไถย
ทุกขณะพร้อมประเลงเพลงภัย
สิ้นชีพพิตักษัย แม้นิทรา
๐ เถิดใจ รู้เอื้อและเกื้อกูล
จงดับสูญจริตความอิจฉา
รวมพลังเรา-ท่าน หลอมปัญญา
ยื้อเวลาธาตรี ไม่ดีฤๅ