20 กรกฎาคม 2550 13:22 น.
"เพชรสังคีต"
"เรือจ้างอันยิ่งใหญ่"
ชีวิตครูเขาเห็นเป็นเรือจ้าง
ลอยอยู่หว่างฝั่งฝันที่สรรหา
คอยรับส่งศิษย์ลูกทุกเวลา
จะเร็วช้าถึงฝันกันทุกคน
แรกก้าวขึ้นเรือน้อยแล้วลอยล่อง
ไปตามคลองแห่งวิชาที่พาผล
แม้เหน็บหนาวร้าวสั่นหวั่นวกวน
ซุกกายตนจนอุ่นเพราะคุณเรือ
ครั้นยามถึงแนวไพรใกล้ใกล้ฝั่ง
บ้างโดดพลั้งรั้งไปด้วยใจเสือ
ถีบสุดเท้าก้าวตนพ้นจากเรือ
ลืมคุณเมื่อเจ้าหนาวร้าววิญญาห์
พิโธ่เอ๋ยพระคุณครูเจ้ารู้แจ้ง
ใยกำแหงลืมตนคนใจหนา
จงระลึกถึงครูผู้กรุณา
ยิ่งใหญ่กว่าฟากฟ้าสุราลัย
จวบวันนี้ใจฉันนั้นตระหนัก
จิตประจักษ์ถึงผู้ท่านสานฝันใฝ่
คำน้อยเนื้อ "เรือจ้าง" จงลางไป
สมควรใช้สมัญญา "เภตราทอง"
*****
ด้วยระลึกถึงพระคุณ "เภตราทอง" ทุกลำที่ได้ส่งข้าพเจ้ามาไกลเท่านี้
19 กรกฎาคม 2550 19:06 น.
"เพชรสังคีต"
"ใบ้คลั่ง"
ฉันมิกล้าเอื้อนเอ่ยเผยคำรัก
ที่ประจักษ์อยู่ในฤทัยนี้
เขาว่าครวญเพราะรักมักราคี
จึงไม่มีความกล้าอ้าโอษฐ์พลอย
มันอัดอั้นอกเอ๋ยไม่เคยคิด
มาโดนพิษแห่งสวาทบาดคอหอย
อยากจะพร่ำวาจาน้ำตาปรอย
ไม่ใช่น้อยแสนรักปักดวงใจ
เปรียบคนใบ้ใจคลั่งหวนยั้งคิด
สักน้อยนิดอยากเผยเอ่ยไม่ได้
มั่นคลุ้มคลั่งครางครวญหวนร่ำไป
น้ำตาไหลนองเนตรเทวษตน
รักก็รักอยากให้รู้อยู่ว่ารัก
มันยากนักที่จะเอ่ยเลยสับสน
มันเปรียบเหมือนคนใบ้ใจวกวน
คลั่งรักล้นท่วมปากยากพรรณา ฯ
*****
เขียนไปพลางอึดอัดไป
เขียนไปหายใจไม่ออก...เฮ้อ
18 กรกฎาคม 2550 17:17 น.
"เพชรสังคีต"
เสน่ห์สาวเหนือ
...โอ้กรรมใดมาหนุนให้ครุ่นคิด
พาดวงจิตใฝ่ฝันกระสันหา
หลงรอคอยน้องเจ้าทุกเวลา
เจียนเป็นบ้าเสียเพราะรักให้หนักใจ
หอมเจ้าเอยแพรดำหล่อนร่ำอบ
กลิ่นตรลบทั้งเคหาที่อาศัย
ไม่เท่ากลิ่นโศกรักสลักใน
ดวงฤทัยพี่ยาในครานี้
ลำดวนเอ๋ยเคยบานประสานกลิ่น
ยามยุพินนวลละอองประคองที่
ใยโรยร้างห่างสิ้นกลิ่นมาลี
สุคนธีเคยหอมกลับตรอมไป
โอ้กรรมใดมาซ้ำให้จำจาก
ต้องพลัดพรากจากดวงจิตพิศมัย
กาเหว่าครวญแว่วดังวังเวงใจ
คนึงใครมิเท่าสาวสารภี
สิเหน่หาสาวเหนือต้องเชื่อแล้ว
โอ้ดวงแก้วแม่งามนงรามศรี
จะอิ่มองค์ก็คงอิ่มโศกโศกี
จะอดนี้ก็อดเชยสังเวยกรรม ฯ
18 กรกฎาคม 2550 16:25 น.
"เพชรสังคีต"
"ไร้เดียงสา"
ทีละหน่อยทีละหน่อยค่อยค่อยชิด
ทีละนิดทีละนิดเข้าชิดหน่อย
เจ้ากิ้งกือไร้เดียงสาขาน้อยน้อย
จะพาเจ้าค่อยคล้อยสู่พงไพร
ให้กอหญ้าเป็นป่าพนาชัฎ
กระทัดรัดพรางตาใต้ฟ้าใหญ่
ใบเรียวนั่นคือร่มน้อยคอยคุ้มภัย
รอแสงทองวันใหม่ได้ส่องมา
ขาของเจ้า ขานั้น นั้น นั้น นั้น
สิบ ร้อย พัน ปั่นมะงุมมะงาหรา
เดี๋ยวยืดออก...ชิดเข้า...ทุกเวลา
ไร้เดียงสา ใต้ฟ้าใส คงใจลอย
ขยับอีก ทีละหน่อยค่อยค่อยชิด
ขยับเข้า ทีละนิดเข้าชิดหน่อย
เจ้ากิ้งกือไร้เดียงสาขาน้อยน้อย
คงเดินย่ำซ้ำซอยตามรอยบรรพ์ ฯ
14 กรกฎาคม 2550 13:22 น.
"เพชรสังคีต"
"ครวญ ณ คืนนั้น"
เมฆวิปผุชชิตา ฉันท์ ๑๙
...ระเมียรจันทราผ่องพินิศฺพฺสุซ้อง
เมฆฺลำยอง พิมลไป
...ศิธรจรแจ่มรัตฺนฺจฺรุญฺใส
ดาษฺดาวไกล สโมสร
...สิพาหวนไห้หวั่นกฺมฺลฺจะนิวรณ์
ด้วยบ่หลับนอน ณ ราตรี
...คนึงถึงนวลนางศศิวิมฺลฺศรี
อยู่วนาลี จะจรตาม
...มโหรีบรรเลงรฺสฺดุริยหวาม
พี่และนงราม บ่เคยตรม
...ละอองแป้งร่ำฟุ้งทิพฺยฺรฺสฺฉม
แสงชวาลารมย์ สะท้อนใจ
...พระพายโชยเกสรกุสุมฺรฺติไซร้
ดุจจะทรามวัย สนิทครัน
...ฤทัยรำพึงถึงวฺรฺนุชฺกระสัน
ครวญ ณ คืนวัน นิราศนาง ฯ