2 พฤษภาคม 2551 14:49 น.
"เพชรสังคีต"
"เพลงยาวใจเปลี่ยว ๑"
น้ำค้างพรมลมลิ่วมาฉิวชื่น
หอมราตรีที่บานสคราญคืน
พอให้ฝืนใฝ่หาต่างยาใจ
อยู่เอกาครานอนทอดถอนจิต
ถึงจุมพิตคิดครวญเจียนหวนไห้
นึกถึงหน้าสุดสงวนยวนฤทัย
ฤๅป่านนี้จะหลับไหลไปแล้วน้อง
ถึงยามนอนเจ้าจะวอนมาหนุนตัก
ถึงยามหยอกเจ้าจะผลักแล้วจักถอง
ถึงยามกอดเจ้าอ้อนออดแอบตระกอง
ถึงยามร้อนเจ้าร่ำร้องให้พัดวี
พอสไบเบี่ยงคล้อยลอยหลุดร่วง
กำซาบทรวงพวงพุ่มปทุมศรี
พอนางแอ่นแล่นลัดพนาลี
แทบหยาดยางโลกีย์ลงพร้อมกัน
ฉาฉาช้า การเวกจะร่ำร้อง
ไพเราะเพียงเสียงซร้องโสตสวรรค์
ครืนครืนครืน อโณดาตจะสาดจันทร์
กระฉอกชื่นคืนวันอันเริงรมย์
โอ้ว่าป่านฉะนี้เจ้าน้องน้อย
หวนละห้อยคอยชิดสนิทสนม
เพียงพ้นคืนสุขอื่นไม่ชื่นชม
เท่าสุขพี่สู่สมภิรมย์พลี
หากให้พี่คอยหาแล้วมาหาย
คงต้องตายแม้ร้างห่างยาหยี
กุญแจใจใครเล่าขังทั้งกายี
มิปล่อยพี่ก็คงตรมขื่นขมเอย ฯ
29 เมษายน 2551 16:14 น.
"เพชรสังคีต"
มอบให้จ๋า (คุณปู่) ผู้ล่วงลับ
โอ้ว่าเดือนเลื่อนฟ้าดาราดับ
สิ้นสวยสะระยำยับอับแสงสี
เมฆาเคลื่อนเดือนหลบซบเมฆี
ต่อแต่นี้มีแต่เปลี่ยวอยู่เดียวดาย
จะก้องเพียงเสียงร่ำอาลัยหา
จะรินร่ำน้ำตาพาใจหาย
จะสลดรันทดระทวยกาย
จะเศร้าโศกเสียดายแทบวายวาง
โอ้ว่าทำไฉนจะได้ชิด
มาสนิทนบแนบอางขนาง
ก่นแต่ครวญหวนไห้ไม่จืดจาง
ต้องห่างรักหักร้างหม่นหมางใจ
โอ้สิ้นแล้วเสาหลักแสงรัตนพงษ์
กุศลส่งสู่สวรรค์ชั้นสุขใส
วอนอัปสรอมรฟ้าสุราลัย
กล่อมคุณปู่ให้หลับไหลในวิมาน
จะอุตส่าห์ภาวนารักษากิจ
อวยอุทิศผลผลามหาศาล
ให้คุณปู่สุขใจไปช้านาน
ตราบชั่วกัลปาวสานนิรันดร
แม้เกิดภพชาติไหนในหล้าโลก
ขอจงพบประสบโชคมาสั่งสอน
เป็น ปู่-หลาน ผ่านภพทุกภูธร
แสนอาวรณ์ด้วยรักจ๋าอาลัยเอย ฯ
18 เมษายน 2551 23:01 น.
"เพชรสังคีต"
บรรจงจารกานท์กลอนสุนทรว่า
คิดถึงนุชสุดสวาทที่คลาดคลา
เพียงชีวาจะสิ้นสมประดี
สะท้อนจิตสะท้านใจพิไรรัก
อกจะหักเพราะคำร่ำเสียดสี
เหมือนหยั่งรู้ดูใจอยู่ในที
คมวจียิ่งเคียวเกี่ยววิญญาห์
เสียดายเอ๋ยเคยพรอดอ้อนออดพร่ำ
เสนาะคำฉ่ำใจไหนจะหา
รักเพียงรองบิดรแลมารดา
เจ้าวอนว่าฉอเลาะออเซาะความ
แสนเสียดายชาติชายไม่เจ้าชู้
จึงไม่รู้รสเผ็ดน่าเข็ดขาม
รสรักน้องขื่นขมระทมลาม
พี่หักห้ามหัวใจไม่ได้เลย
แสนเสียดายผิวพม่านัยน์ตาหวาน
ผ่องสคราญเนื้ออ่อนเจ้ามอญเอ๋ย
กระไรเลยช้ำใจด้วยไม่เคย
ชื่นชิดเชยแล้วมาพรากจากกันไป
แสนเสียดายรอยยิ้มเจ้าพริ้มพักตร์
ศรกามเทพยังปักรอยรักใคร่
เทพลาจรแต่ศรยังตรึงใจ
เป็นลูกศรพระกาฬไท้ให้มรณา
แสนเสียดายแบบบางเจ้าร่างน้อย
ช่างอ่อนช้อยน่ารักเป็นหนักหนา
อรชรอ้อนแอ้นแม้นเทวา
ยากจะหาโฉมเทียบมาเปรียบนาง
แสนเสียดายความหลังยังเห็นชัด
สุดจะรักสารพัดไม่ขัดขวาง
ยังอ้อนพี่ให้คะนึงถึงนวลปราง
มาหมองหมางไปได้อย่างไรกัน
แสนเสียดายกายห่างยังคิดห่วง
ไร้สิทธิ์หวงช่วงชิงจริงเจียวฉัน
ไร้สิทธิ์เอ่ยวาจาสารพัน
ไร้สิทธิ์ฝันใฝ่หายามราตรี
แสนเสียดายเกิดเป็นชายไม่เช้าชู้
จริงตรึงตรูแต่ยาใจกระไรนี่
หากเจ้าชู้สักนิดคงคิดมี
รักซ้อนซ่อนรักพี่กี่สำรอง
จะได้ไม่เจ็บปวดไม่รวดร้าว
อยู่แดนดาวลืมไพรไม่หม่นหมอง
เสียดายแต่หัวใจไม่ไตร่ตรอง
จึงร่ำร้องแสนเสียดายไม่วายเอย ฯ
4 เมษายน 2551 13:57 น.
"เพชรสังคีต"
....คิดถึงนุช
....เสียงใดเสียงเร่าเร้า รมยา
เสียงนิ่มขนิษฐา แน่น้อง
เสียงใดกู่โศกา ครวญคร่ำ
เสียงพี่เองก่นก้อง พร่ำเพ้อถึงนาง ฯ
....คิดถึงนวลนิ่มเนื้อ นพคุณ
โฉมแม่จงการุณย์ พี่บ้าง
ปางใดร่วมทำบุญ กับแม่ มานา
บุญจุ่งคืนส่วนสร้าง คู่แท้เคียงกัน ฯ
....จรการักแต่เจ้า บุษบา
เรียมใฝ่รักนงพงา ยิ่งนั้น
พระรามคู่สีดา ตามฆ่า ยักษ์เฮย
ดุจพี่ถึงฟ้ากั้น บ่กั้นใจเรียม ฯ
....เพียรจารพออ่านเหล้น เพียรจาร
พอกรุ่นสุมามาลย์ แห่งถ้อย
เพียงเพียรเพื่อสืบสาน โคลงเก่า ไทยเฮย
จงสืบไปอีกร้อย กัลป์โพ้นอย่าสูญ ฯ
28 มีนาคม 2551 14:10 น.
"เพชรสังคีต"
บรรยายตามวิสัยคนใจเปลี่ยว๗
ศศิธรจรแจ่มกระจ่างจับ
ดาราดับลับแฝงแอบแสงสี
พระพายพัดบุปผาในราตรี
มาลินีแย้มเกสรขจรขจาย
คิดถึงทุ้มพุ่มพวงแสนห่วงหา
คิดถึงโทนรำมะนาพาใจหาย
คิดถึงฉิ่งฉาบนุชสุดภิปราย
คิดถึงซอสามสายเคยได้ชม
คิดถึงขิมรักเล่ห์เสน่หา
คิดถึงน้องต้องตาพาขื่นขม
คิดถึงฆ้องวงใหญ่ให้ตรอมตรม
คิดถึงกรับขยับชมมิเว้นวัน
โอ้เหินห่างร้างไปอย่างไรหนอ
หรือเพียงล้อหัวใจให้ใฝ่ฝัน
นับวันรอร้อนใจไม่เว้นวัน
หวังน้องนั้นคืนมาหาดังเคย ฯ