29 มิถุนายน 2549 14:36 น.
เพชรพรรณราย
ภูเขาเปลี่ยวเดียวดายคล้ายเศร้าสร้อย
จันทร์เคลื่อนคล้อยดูหงอยหงอยคอยส่องแสง
ท้องสมุทรสุดอ้างว้างวางแสดง
เป็นนัยแฝงแห่งอารมณ์ตรมมิวาย
อยู่ที่ไหน.เวลาใด.ใจก็เหงา
ห้วงแห่งเศร้าเฝ้าถากถางมิห่างหาย
ยามที่จากพรากกันวันเดียวดาย
ย่อมเหงาได้ในทุกที่..ไม่มีเธอ
ผ่านถนนหนทางเคยย่างก้าว
ยิ่งปวดร้าวคราวคิดถึงตรึงเสมอ
ยินเสียงเพลงบรรเลงเพลงของเธอ
น้ำตาเอ่อเพ้อพร่ำร่ำรำพัน
กลับมาเถิดคนดี..สุดที่รัก
คืนสลักหักรักพังครั้งโศกศัลย์
อยู่ที่ไหนใจก็เหงาเศร้าจาบัลย์
ลบไหวหวั่นวันที่เหงา.ให้เบาคลาย
14 มิถุนายน 2549 22:45 น.
เพชรพรรณราย
ท้องทะเลเหว่ว้าตามองคลื่น
แอบสะอื้นกลืนน้ำตาพาใจหมอง
ห้วงอารมณ์ผสมเศร้าเหงามาครอง
ใจร่ำร้องมองนาวาน้ำตาริน
ยืนโดดเดี่ยวเปลี่ยวเปล่าเฝ้าคิดถึง
ในครั้งหนึ่งรำพึงหาพาถวิล
เคยเคียงคู่อยู่ด้วยกันวันสมจินต์
ท้ายกลับสิ้นรักผินจากฝากอาลัย
เหลือเพียงภาพอาบน้ำตาเวลาเหงา
รักเก่าเก้าเฝ้าโหยหากลับมาใหม่
สายเสียแล้วแก้วกาดาเจ้าลาไกล
คงเหลือไว้ในความหลังหลั่งน้ำตา
ทรายผืนเดิมแต่เพิ่มเติมความเหงา
ทะเลเก่ากลับต้องเศร้าเหงาหนักหนา
คลื่นซัดสาดมิขาดคำว่าอำลา
เหม่อมองฟ้าสองตาหมองร้องหานาง
สายลมแว่วดังแผ่วผ่านรีบขานรับ
เอียงหูจับกับสำเนียงเสียงไกลห่าง
คล้ายเสียงเจ้าเฝ้ามองดูอยู่ทุกทาง
หากแต่สร้างวางจิตคิดไปเอง
ยืนเหงาเปลี่ยวเดียวดายข้างชายหาด
น่าอนาถวาดรักล่มถูกข่มเหง
น้ำตาหลั่งยังผืนทรายมิหมายเกรง
แล้วบรรเลงเพลงสะอื้น......กับผืนทะเล