30 กันยายน 2548 08:55 น.
เพชรพรรณราย
อนุสรณ์แห่งความหวังเมื่อครั้งเก่า
ในใจเราเฝ้าอุทิศลิขิตประสาน
เก็บความหวังฝังใจในวันวาน
ล่วงเลยผ่านเมื่อกาลหมุนหนุนนำไป
นำมาสร้างวางไว้เป็นเห็นอนุสรณ์
ยามเดือนร้อนอ่อนแรงฝันหมองไหม้
อีกความรักหักอกวิตกนัย
ความอ่อนไหวท้อแท้แพ้ชะตา
มาสร้างปรางค์วางฐานไว้ให้จำจด
เกียรติยศปรากฏอยู่รู้คุณค่า
ความท้อแท้แก่ใจในเวลา
เก็บรักษาเป็นค่าตั้งฝังชีวี
รอบองค์ปรางค์สร้างกำแพงแห่งเข็มแข็ง
ซ่อนแสดงแฝงอารมณ์ตรมใจนี้
เพื่อปกปิดจิตเหงาเศร้าฤดี
เพื่อหลบลี้ความชี้ช้ำร่ำน้ำตา
ปรางค์องค์แรกแตกแยกในความรัก
จึงสลักปักษ์อักษรกลอนภาษา
ความเจ็บปวดรวดร้าวคราวรักรา
คราบน้ำตามาก่อต่อองค์ปรางค์
ปรางค์ที่สองอนุสรณ์ตอนผิดหวัง
หลายพันครั้งที่พลั้งพลาดมาตรความต่าง
ความท้อแท้แก่ใจคราวฝันร้าง
คราวอับปางสร้างคิดที่จิตตรม
ปรางค์ที่สามอนุสรณ์อ่อนใจเหงา
หลายความเศร้าเฝ้าหาพาขื่นขม
ความอ้างว่างอย่างท้อต่ออารมณ์
ความระบมจมเดียวดายไร้คู่ครอง
เป็นสถานสมานใจไว้รำลึก
เฝ้าตรองนึกยามนึกท้อยามใจหมอง
เป็นบนเรียนเตือนตนค้นประคอง
ยามที่ร้องร่ำไห้ใจอ่อนแอ
16 กันยายน 2548 11:29 น.
เพชรพรรณราย
หนึ่งบวกหนึ่งซึ้งใจยังได้หนึ่ง
คูณความซึ้งตรึงใจย้ำยกกำลังสอง
หารความไกลใจสัมพันธ์ร่วมใฝ่ปอง
ลบความหมองคล้องหัวใจในสัมพันธ์
diff. ระยะพารักมาพักไว้
Integrate หัวใจให้คงมั่น
Square Root พูดพร่ำรักปักษ์ชีวัน
วงเล็บกั้นมั่นจำนวนครวญรักจริง
เปลี่ยมมุม..cosเป็น. .sin..ในใจมั่น
tan..กลับผันความหวั่นไหวในทุกสิ่ง
ร้อยแปดสิบองศาค่ารักยิ่ง
รักนั้นจริงในสิ่งตรงคงมุมมอง
รวมทุกสูตรเป็นความรักปักใจไว้
ทุกห้วงใจไร้ความเศร้าราเหงาหมอง
รักจริงมั่นสัมพันธ์คงตรงครรลอง
ร่วมใจคล้องครองมั่นไม่ผันแปร
16 กันยายน 2548 11:04 น.
เพชรพรรณราย
เส้นทางใจเดินไปใกล้จุดหมาย
มอบใจชายกายมั่นไม่หวั่นไหว
ใกล้จะถึงเป็นหนึ่งซึ่งเส้นชัย
ถ้วยดวงใจใฝ่รักร่วมถักทอ
เริ่มจากเพื่อนเตือนจิตคิดต่อค่า
กาลเวลาพารักปักษ์ใจก่อ
เติมรักกันวันละน้อยร้อยใจรอ
เฝ้าเติมต่อก่อสัมพันธ์มั่นอุรา
จนเวลาพาประสบบรรจบชัย
คว้าถ้วยใจไว้ครองปองปรารถนา
ความสุขล้นกมลอิ่มพิมพ์ชีวา
ปริ่มน้ำตาด้วยค่ารักพิทักษ์ใจ
สุขใดเล่าเจ้าจะเหมือนเตือนใจสอง
สุขแห่งการครองคู่ดูสดใส
สุขแห่งรักสมัครมั่นสัมพันธ์ฤทัย
เอมอิ่มในใจมั่นทุกวันคืน
วันเวลาคลาเคลื่อนเลื่อนคล้อยผ่าน
หลายวันวานประสานใจให้เป็นอื่น
เมื่อเวลาพาเราสองต้องกล้ำกลืน
ความสดชื่นคืนฝันมันอับปาง
จากที่หนึ่งซึ่งครองถ้วยด้วยใจภักดิ์
แต่ความรักสลักเปลี่ยนหมุนเวียนห่าง
แม้ถือถ้วยอำนวยไว้ในเส้นทาง
ก็ยังร้างห่างสัมพันธ์ฉันเศร้าตรม
ถูกมือไร้ในอันดับนับไม่ได้
แย่งหัวใจไปครองหมองขื่นขม
แม้ยังเป็นที่หนึ่งก็ระบม
ทุกข์ระทมจมความเหงาเศร้าสุดทรวง
เจ็บใจแค้นแสนหนักรักที่หนึ่ง
แม้จะถึงซึ่งเส้นชัยถ้วยใจดวง
ความรักผันสะบั้นหักรักหลอกหลวง
ถูกมือไร้อันดับล้วงรักร่วงตรม
16 กันยายน 2548 06:24 น.
เพชรพรรณราย
ยินเสียงแผ่วแว่วสำเนียงเสียงสะอื้น
หลับครึ่งตื่นคืนค่อนก่อนรุ่งสาง
รำพันรักคราวหักพังครั้งอับปาง
ใยจึงร้างห่างสัมพันธ์จาบัลย์ตรม
ความเหน็บหนาวราวสะบั้นใจหวั่นไหว
กลอนอาลัยใจห่วงหาว่าขื่นขม
ความเจ็บปวดรวดร้าวนักปักษ์อารมณ์
เจ็บระบมจมความเหงาเฝ้ารอคอย
ทั้งแสนแค้นแน่นสลักด้วยรักมั่น
ผูกสัมพันธ์แม้สิ้นใจไม่เคลื่อนคล้อย
วิญญาณตามถามสัญญาค่าหนึ่งน้อย
ที่ร่วมร้อยคอยคนรักด้วยภักดี
เหมือนเราตื่นคืนฝันอันเหน็บหนาว
ปรากฏสาวราวนางฟ้าลาวัลย์ศรี
งามชดช้อยอ้อยอิ่งพริ้งนารี
แนบนวลนี้ที่อกอุ่นละมุ่นทรวง
เสียงแว่วหวานผ่านถ้อยร้อยคำเอื้อน
ว่าย้ำเตือนสัญญาพาใจห่วง
ก่อนพลัดพรากจากกันไปใจสองดวง
เวลาล่วงยังห่วงหาด้วยอาลัย
ยังจดจำคำมั่นสัญญาซึ้ง
ความคิดถึงตรึงจิตพิสมัย
ถึงเวลาค่าเปลี่ยนหมุนหนุนการณ์ใด
คงรักไว้ด้วยใจมั่นคำสัญญา
น้องมาทวงสัญญาค่าความรัก
แค้นพี่นักทิ้งรักคอยให้น้อยค่า
ไปกับน้องครองคู่กันมั่นอุรา
จวบเวลาฟ้าสิ้นดินมลาย
แขนเราสองคล้องกันไปในเส้นทาง
หยุดระหว่างทางสามแยกแปลกใจหมาย
หยุดใคร่คิดพิจารณาพาใจกาย
เหมือนเส้นทางคนตายวายชีวัน
ถอยหลังกลับปลดแขนน้องคล้องกันอยู่
ถามความดูให้รู้จริงในสิ่งสรร
ว่านี่คือที่ไหนทำไมกัน
ความจริงนั้นมันเป็นเช่นใด
หญิงสาวพร่ำพร้อมน้ำตาร้องร่ำไห้
ว่าละโลกจากไปด้วยอาสัญ
แต่ปางก่อนตอนอดีตเคียงคู่กัน
การณ์ครานั้นผันเราสองต้องแยกทาง
มิได้เกิดกำเนิดใหม่อาลัยรัก
คอยคนรักสลักใจไม่หายห่าง
รอคอยพี่ฤดีเหงาเศร้าไม่วาง
ทนอ้างว้างต่างภพแผ่นห่างแดนดิน
เที่ยวตามหาจนมาพบประสบพี่
ในวันนี้จะมีเราเฝ้าผกผิน
สองเราคู่อยู่ด้วยกันมั่นชีวิน
ตราบจนสิ้นดินมลายวายโลกา
จึงเอื้อยเอ่ยเผยถ้อยร้อยวจี
ว่าพี่นี้ยังไม่ตายวายสิ้นค่า
คนละภพยากบรรจบประสบชีวา
ปรารถนาค่านั้นมันผันแปร
สองเรานั้นมิอาจอยู่เป็นคู่ได้
มีเพียงใจไว้มั่นสัญญาแน่
ส่งดวงใจของสองเราเฝ้าดูแล
สองเราแม้ห่างภพไม่ลบรา
ให้เจ้ารู้ว่าพี่มีเจ้าเสมอ
แม้มิอาจพบเจอเพียงเพ้อหา
แต่ก็รักปักษ์ไม่หายคลายอุรา
เก็บรักษาค่ารักนั้นด้วยมั่นคง
เสียงไก่ก้องร้องกู่รู้ใกล้รุ่ง
แต่งเติมปรุงสัญญาใหม่ในประสงค์
ก่อนลาจากพรากกันมั่นใจจง
ความซื่อตรงคงไว้ด้วยดวงใจ
กรวดน้ำลงตรงแผ่นรองปองอุทิศ
บุญนำจิตคิดคำสวดกรวดน้ำให้
ด้วยผลบุญคงหนุนนำรักอาลัย
มั่นคงไว้ในรักแท้แม้ห่างกัน
บุญกุศลผลให้จงไปสู่
แต่นางผู้อยู่ห่างไกลให้สุขสันต์
ทั้งคิดถึงตรึงใจอยู่คู่สัมพันธ์
ฝากรักมั่นตราบนิรันดร์นานแสนนาน
15 กันยายน 2548 19:53 น.
เพชรพรรณราย
ความรู้สึกเก็บในหัวใจฉัน
มันอัดอั้นตันใจอยู่ไม่รู้หาย
คำว่ารักสลักไว้ไม่เคยหาย
ค่าความหมายเพียงแอบรักปักษ์อุรา
ได้แค่เพียงเมียงมองจับจ้องอยู่
เธอไม่รู้ว่าผู้หนึ่งซึ่งโหยหา
คำว่ารักไม่กล้าเอ่ยเผยวาจา
กลัวเธอลาพาใจขมให้ตรมตรอม
จึงฝากเพลงบรรเลงไปด้วยใจมั่น
ส่งเพลงนั้นด้วยมั่นใจว่าดีพร้อม
แม้ผิดพลาดมาตรประสงค์คงจำยอม
จะขอน้อมยอมแพ้แก่หัวใจ
แทนถ้อยคำย้ำเพียงหนึ่งซึ่งรู้สึก
ในส่วนลึกของใจนี้ที่มีให้
ความรู้สึกลึกซึ้งถึงข้างใน
จากหัวใจให้คิดพิจารณา
....ขอมอบเพลงนี้..ให้เขาคนนั้น...
ชื่อเพลง: ได้ไหม
ศิลปินโต๋: ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร
อัลบั้ม: Love is Vol.1
กำลังนั่งฟังเพลงนี้อยู่ใช่รึเปล่า
จะรังเกียจไหมถ้าใครสักคนมีเรื่องที่จะเล่า
ตั้งแต่เขาได้เจอกับเธอ วันและคืนหัวใจเขามองเหม่อ
โดยที่ไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไร
บทเพลงเพลงนี้ถ่ายทอดจากความรู้สึก
ส่วนลึกข้างในจิตใจที่เขามีให้
และเขานั้นไม่เคยให้ใคร ความจริงที่เก็บซ่อนภายใน
วันนี้เขาขอได้ไหมสักครั้ง
ได้ไหม ให้เขานั้นระบายความรักเป็นเพลงให้ฟัง
ให้หัวใจของเขาอย่างน้อยได้มีความหวัง
ว่าคนที่เขานั้นแอบรักจะได้ฟังสักที
ถึงแม้จะฟังแล้วไม่สนใจ ก็ยังดี
ได้ไหม ให้เขานั้นระบายความรักเป็นเพลงให้ฟัง
ให้หัวใจของเขาอย่างน้อยได้มีความหวัง
ว่าคนที่เขานั้นแอบรักจะได้ฟังสักที
ได้ไหม ให้ความจริงข้างในหัวใจของคนๆนี้
ได้ระบายให้เธอได้รับได้รู้สักที รับรู้ใจเขาที
และถ้าเธอฟังแล้วไม่สนใจ ก็ขอให้มันเป็นๆเหมือนเพลงๆทั่วๆไป
ที่ฟังแล้วก็แค่ผ่านไป เหมือนทุกที
..ถ้าฟังแล้วโปรดพิจารณา....