12 กันยายน 2548 10:51 น.
เพชรพรรณราย
นามกระเดื่องเลื่องลือชื่อกระฉ่อน
พลิ้วไหวร่อนอ่อนไหวในท่วงท่า
สะบัดกระบี่ถี่ยิบดังพริบตา
ทั่วอาณาฉายา กระบี่เดียวดาย
ทั่วทุกแดนแคว้นถิ่นไม่สิ้นหวัง
ด้วยพลังแห่งศรัทธาไม่ราหาย
พิชิตมารพลาญศัตรูอยู่ไม่วาย
เพื่อสลายดับสายใยในหมู่มาร
ท้ายที่สุดยุติธรรมนำความผาสุข
ดับความทุกข์ยากเข็ญลำเค็ญผ่าน
แล้วจอมยุทธก็เร้นกายหายจากกาล
ทิ้งนามขานฝากไว้ในเรื่องราว
หยิบกระบี่ที่หลานเล่นทำเป็นท่า
ร่ายกายาพาพลิ้วลิ่วท่วงก้าว
สะบัดกระบี่ขวาซ้ายร่ายท่ายาว
ช่างแพรวพราวราวละครในตอนเย็น
สมมุติตนเป็น กระบี่เดียวดาย
ศรัทธากายหมายมุ่งปรุงแต่งเห็น
ถือกระบี่คู่กายคลายลำเข็ญ
ดับทุกข์เข็ญเช่นดังเรื่องเฟื่องละคร
ใครพบเห็นต่างมองครรลองพิศ
ว่ามีจิตผิดเพี้ยนไปจากคราก่อน
บ้าหรือเปล่า? เขาพูดกันมันตัดรอน
ช่างยอกย้อนหลอนใจไม่ลืมเลือน
จะสนใจทำไมเล่า? ใครเขาพร่ำ
สนทำไมน้ำคำย้ำเสมือน
คำว่าบ้า! วาจาคนสับสนเตือน
แค่คำเอื้อนที่กล่าวไว้ไร้ความจริง
สุขหรือทุกข์อยู่ที่ใจใช่คนอื่น
ความขมขื่นฝืนลำพังยังทุกสิ่ง
มีเพียงเราเท่านั้นปลอบประวิง
คนอื่นยิ่งสมน้ำหน้าพาตรอมตรม
ก็แค่วาดท่วงท่าคว้ากระบี่
ให้ชีวีมีสีสรรอันสุขสม
เพื่อผ่อนคลายระบายทุกข์สุขอารมณ์
ดับความตรมด้วยกระบี่ที่เดียวดาย
11 กันยายน 2548 12:23 น.
เพชรพรรณราย
เรียบเรียงร้อยรอยความหลังเมื่อครั้งเก่า
ใจของเราเฝ้ารำลึกตรึกตรองเห็น
จากกำเนิดเกิดมาพาลำเค็ญ
ทนยากเข็ญข้นแค้นแสนกันดาร
ในยามยากลำบากสิ้นทำกินอยู่
ด้วยมิรู้ดูอดอยากมากสถาน
ชีวิตน้อยคอยความหวังตั้งดวงมาลย์
บิดามารดาคอยประสานให้ผ่านไป
แม้จะเหนื่อยเมื่อยล้าก้มหน้าสู้
ทำกินอยู่ด้วยความหวังตั้งใจไว้
ให้ลูกมีชีวิตสุขไร้ทุกข์ภัย
เหนื่อยเพียงใดไม่ท้อถอยคอยชะตา
จนเวลาพาลิขิตชีวิตเปลี่ยน
หมุนวันเวียนเลื่อนเวลาค่าค้นหา
ลูกเติมใหญ่ไร้ทุกข์ภัยในชีวา
ปรารถนามาแทนคุณหนุนนำพา
ยกสองหัตถ์จัดประนมก้มกราบบาท
แม้ความฝันไม่สมมาตรปรารถนา
แต่ก็พอหล่อเลี้ยงตนดลชีวา
ด้วยรักษาค่าสุนทรคำสอนดี
วันนี้เล่าเข้าวัยเบญจเพศ
จะแจงเหตุแทนคุณการุญนี้
บรรพชาพาพระธรรมนำชีวี
ฝังฤดีศรีรักษาค่ายืนยง
เครื่องอัฐบริขารเตรียมการพร้อม
ก้มรับน้อมค้อมวินัยใฝ่ในสงฆ์
ใต้ร่มกาสาวพัตร์อันปลดปลง
ด้วยจำนงคงศรัทธาข้าแทนคุณ
9 กันยายน 2548 17:16 น.
เพชรพรรณราย
สายฝนปรอยลอยไหลรินสู่ดินพื้น
กลิ่นฝนคืนหวนมาใหม่ให้ความหวัง
เหล่าชาวนาทำอาชีพประทีปตั้ง
ด้วยปลูกฝังครั้งโบราณสานสืบไทย
ย่างเดือนหกฝนตกพร่ำฉ่ำทุ่งท้อง
น้ำไหลนองทั่วท้องนาพาหว่านไถ
ฟื้นชะตาชาวนาหวังด้วยตั้งใจ
ฝังรอยไถในแผ่นพื้นคืนชีวี
หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินเหงื่อรินไหล
ด้วยหัวใจไม่ท้อต่อวิถี
ด้วยอาชีพแห่งศรัทธาค่าความดี
คอยบ่งชี้วิถีแท้แต่โบราณ
แม้ไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์
แต่ด้วยรักปักหัวใจให้สืบสาน
บรรพชนค้นประกอบชอบด้วยการ
วางรากฐานผสานไว้ในวิชา
จากรุ่นหนึ่งถึงรุ่นหนึ่งซึ่งสานต่อ
จากแม่พ่อสู่บุตรหลานประสานค่า
ประยุกต์ใช้พลิกแพลงแปลงกันมา
สั่งสมไว้ในเวลาค่าความจำ
ยังจดจำคำสั่งสอนอาวรณ์ถึง
ยังรำพึงถึงความหลังฝังใจย้ำ
ลูกชาวนาค่าสุจริตลิขิตทำ
คือน้ำคำย้ำเสมอบุพการี
สายฝนปรอยคล้อยคิดพิศตรองตรึก
ด้วยสำนึกในคุณหนุนความดี
จะรักษาอาชีพสุจริตนี้
จวบชีวีนี้หายวายชีวา
8 กันยายน 2548 10:06 น.
เพชรพรรณราย
ฉันขอเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า
เก็บรักษาค่าแห่งรักสมัครหมาย
นำรักแท้แต่เพียงหนึ่งซึ่งใจชาย
ทอดถวายไว้ในหัวใจเธอ
ในพื้นที่สี่ห้องของใจนั้น
ได้จัดวางสร้างสรรมั่นเสมอ
ศาลารักที่พักใจไว้พบเจอ
ด้วยพร่ำเพ้อละเมอถึงทุกเวลา
มีหอธรรมประจำใจในคำสัตย์
กุฏิวัดไว้ใจนอนยามอ่อนล้า
อุโบสถกำหนดวัตรจัดชีวา
อุทิศค่าพาความรักปักษ์หัวใจ
ด้วยศรัทธาค่าความหวังที่ตั้งจิต
ทีละนิดคิดเพิ่มเติมต่อได้
สะสมรักถักทอต่อฤทัย
รวมรักไว้ให้เป็นหนึ่งซึ่งสัมพันธ์
ทอดผ้าป่าค่ารักนั้นวันละครั้ง
เติมพลังแห่งความรักสลักมั่น
สื่อใจสองของเราเข้าด้วยกัน
คงสุขสันต์ทุกวันคืนชื่นชีวี
7 กันยายน 2548 11:30 น.
เพชรพรรณราย
เรื่องของเรื่องเบื้องลึกตรึงตรองจิต
ร้อยความคิดพิจารณาพาสงสัย
ใครทำอะไรเมื่อไรหรืออย่างไร
อยู่ที่ไหนทำไมกันฉันงุนงง
เวลานี้เวลาไหนไปตรงไหน
ต้องพบใครไกลหรือใกล้ในประสงค์
จะเลี้ยวขวาเวียนซ้ายหรือทางตรง
ดวงใจนั้นมันสงสัยไม่โรยรา
แล้วไอ้เรื่องเบื้องหลังครั้งก่อนเก่า
เรื่องของเราเศร้าสุขใจให้ค้นหา
แล้วทำไมใยต้องค้นดลปัญญา
เราจะหาพาให้รู้อยู่ทำไม
ก็ไอ้เรื่องของเรื่องไม่เป็นเรื่อง
มันขุ่นเคืองเป็นเรื่องโตโอ้อวดได้
ทั้งแต่งแต้มแสมสีวจีไป
ส่งเรื่องให้ใหญ่ขึ้นดังไฟลาม
จากเปล่าว่างต่างแตกแยกมูลเหตุ
แล้วใส่เจตจำนงประสงค์ความ
จากผู้หนึ่งถึงผู้หนึ่งทุกชั่วยาม
ต่างไต่ถามตามค้นหาค่าสิ่งนั้น
ท้ายที่สุดยุติดำริเห็น
มิวายเว้นเป็นประโยชน์โทษมหันต์
เสียเวลาปัญญาคิดจิตจาบัลย์
ก็ไอ้เรื่องเบื้องหลังนั้นมันไม่มี