16 กันยายน 2548 06:24 น.
เพชรพรรณราย
ยินเสียงแผ่วแว่วสำเนียงเสียงสะอื้น
หลับครึ่งตื่นคืนค่อนก่อนรุ่งสาง
รำพันรักคราวหักพังครั้งอับปาง
ใยจึงร้างห่างสัมพันธ์จาบัลย์ตรม
ความเหน็บหนาวราวสะบั้นใจหวั่นไหว
กลอนอาลัยใจห่วงหาว่าขื่นขม
ความเจ็บปวดรวดร้าวนักปักษ์อารมณ์
เจ็บระบมจมความเหงาเฝ้ารอคอย
ทั้งแสนแค้นแน่นสลักด้วยรักมั่น
ผูกสัมพันธ์แม้สิ้นใจไม่เคลื่อนคล้อย
วิญญาณตามถามสัญญาค่าหนึ่งน้อย
ที่ร่วมร้อยคอยคนรักด้วยภักดี
เหมือนเราตื่นคืนฝันอันเหน็บหนาว
ปรากฏสาวราวนางฟ้าลาวัลย์ศรี
งามชดช้อยอ้อยอิ่งพริ้งนารี
แนบนวลนี้ที่อกอุ่นละมุ่นทรวง
เสียงแว่วหวานผ่านถ้อยร้อยคำเอื้อน
ว่าย้ำเตือนสัญญาพาใจห่วง
ก่อนพลัดพรากจากกันไปใจสองดวง
เวลาล่วงยังห่วงหาด้วยอาลัย
ยังจดจำคำมั่นสัญญาซึ้ง
ความคิดถึงตรึงจิตพิสมัย
ถึงเวลาค่าเปลี่ยนหมุนหนุนการณ์ใด
คงรักไว้ด้วยใจมั่นคำสัญญา
น้องมาทวงสัญญาค่าความรัก
แค้นพี่นักทิ้งรักคอยให้น้อยค่า
ไปกับน้องครองคู่กันมั่นอุรา
จวบเวลาฟ้าสิ้นดินมลาย
แขนเราสองคล้องกันไปในเส้นทาง
หยุดระหว่างทางสามแยกแปลกใจหมาย
หยุดใคร่คิดพิจารณาพาใจกาย
เหมือนเส้นทางคนตายวายชีวัน
ถอยหลังกลับปลดแขนน้องคล้องกันอยู่
ถามความดูให้รู้จริงในสิ่งสรร
ว่านี่คือที่ไหนทำไมกัน
ความจริงนั้นมันเป็นเช่นใด
หญิงสาวพร่ำพร้อมน้ำตาร้องร่ำไห้
ว่าละโลกจากไปด้วยอาสัญ
แต่ปางก่อนตอนอดีตเคียงคู่กัน
การณ์ครานั้นผันเราสองต้องแยกทาง
มิได้เกิดกำเนิดใหม่อาลัยรัก
คอยคนรักสลักใจไม่หายห่าง
รอคอยพี่ฤดีเหงาเศร้าไม่วาง
ทนอ้างว้างต่างภพแผ่นห่างแดนดิน
เที่ยวตามหาจนมาพบประสบพี่
ในวันนี้จะมีเราเฝ้าผกผิน
สองเราคู่อยู่ด้วยกันมั่นชีวิน
ตราบจนสิ้นดินมลายวายโลกา
จึงเอื้อยเอ่ยเผยถ้อยร้อยวจี
ว่าพี่นี้ยังไม่ตายวายสิ้นค่า
คนละภพยากบรรจบประสบชีวา
ปรารถนาค่านั้นมันผันแปร
สองเรานั้นมิอาจอยู่เป็นคู่ได้
มีเพียงใจไว้มั่นสัญญาแน่
ส่งดวงใจของสองเราเฝ้าดูแล
สองเราแม้ห่างภพไม่ลบรา
ให้เจ้ารู้ว่าพี่มีเจ้าเสมอ
แม้มิอาจพบเจอเพียงเพ้อหา
แต่ก็รักปักษ์ไม่หายคลายอุรา
เก็บรักษาค่ารักนั้นด้วยมั่นคง
เสียงไก่ก้องร้องกู่รู้ใกล้รุ่ง
แต่งเติมปรุงสัญญาใหม่ในประสงค์
ก่อนลาจากพรากกันมั่นใจจง
ความซื่อตรงคงไว้ด้วยดวงใจ
กรวดน้ำลงตรงแผ่นรองปองอุทิศ
บุญนำจิตคิดคำสวดกรวดน้ำให้
ด้วยผลบุญคงหนุนนำรักอาลัย
มั่นคงไว้ในรักแท้แม้ห่างกัน
บุญกุศลผลให้จงไปสู่
แต่นางผู้อยู่ห่างไกลให้สุขสันต์
ทั้งคิดถึงตรึงใจอยู่คู่สัมพันธ์
ฝากรักมั่นตราบนิรันดร์นานแสนนาน
15 กันยายน 2548 19:53 น.
เพชรพรรณราย
ความรู้สึกเก็บในหัวใจฉัน
มันอัดอั้นตันใจอยู่ไม่รู้หาย
คำว่ารักสลักไว้ไม่เคยหาย
ค่าความหมายเพียงแอบรักปักษ์อุรา
ได้แค่เพียงเมียงมองจับจ้องอยู่
เธอไม่รู้ว่าผู้หนึ่งซึ่งโหยหา
คำว่ารักไม่กล้าเอ่ยเผยวาจา
กลัวเธอลาพาใจขมให้ตรมตรอม
จึงฝากเพลงบรรเลงไปด้วยใจมั่น
ส่งเพลงนั้นด้วยมั่นใจว่าดีพร้อม
แม้ผิดพลาดมาตรประสงค์คงจำยอม
จะขอน้อมยอมแพ้แก่หัวใจ
แทนถ้อยคำย้ำเพียงหนึ่งซึ่งรู้สึก
ในส่วนลึกของใจนี้ที่มีให้
ความรู้สึกลึกซึ้งถึงข้างใน
จากหัวใจให้คิดพิจารณา
....ขอมอบเพลงนี้..ให้เขาคนนั้น...
ชื่อเพลง: ได้ไหม
ศิลปินโต๋: ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร
อัลบั้ม: Love is Vol.1
กำลังนั่งฟังเพลงนี้อยู่ใช่รึเปล่า
จะรังเกียจไหมถ้าใครสักคนมีเรื่องที่จะเล่า
ตั้งแต่เขาได้เจอกับเธอ วันและคืนหัวใจเขามองเหม่อ
โดยที่ไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไร
บทเพลงเพลงนี้ถ่ายทอดจากความรู้สึก
ส่วนลึกข้างในจิตใจที่เขามีให้
และเขานั้นไม่เคยให้ใคร ความจริงที่เก็บซ่อนภายใน
วันนี้เขาขอได้ไหมสักครั้ง
ได้ไหม ให้เขานั้นระบายความรักเป็นเพลงให้ฟัง
ให้หัวใจของเขาอย่างน้อยได้มีความหวัง
ว่าคนที่เขานั้นแอบรักจะได้ฟังสักที
ถึงแม้จะฟังแล้วไม่สนใจ ก็ยังดี
ได้ไหม ให้เขานั้นระบายความรักเป็นเพลงให้ฟัง
ให้หัวใจของเขาอย่างน้อยได้มีความหวัง
ว่าคนที่เขานั้นแอบรักจะได้ฟังสักที
ได้ไหม ให้ความจริงข้างในหัวใจของคนๆนี้
ได้ระบายให้เธอได้รับได้รู้สักที รับรู้ใจเขาที
และถ้าเธอฟังแล้วไม่สนใจ ก็ขอให้มันเป็นๆเหมือนเพลงๆทั่วๆไป
ที่ฟังแล้วก็แค่ผ่านไป เหมือนทุกที
..ถ้าฟังแล้วโปรดพิจารณา....
15 กันยายน 2548 06:49 น.
เพชรพรรณราย
รำพันเหงาเศร้าอุราพาโศกศัลย์
ห้วงจาบัลย์กลั้นน้ำตาชีวาหมอง
ด้วยความรักปักษ์ไว้ไม่สมปอง
จึงมานั่งร้องไห้ใต้แสงจันทร์
ลมหนาวพลิ้วผ่านผิวกายข้างชายป่า
ไม่หนาวกว่าหัวใจที่ไหวหวั่น
ความเจ็บปวดรวดร้าวราวสะบั้น
กรีดใจฉันให้มันเจ็บเหน็บอุรา
เสียงใบไม้ไหวลู่สู้ลมหวน
ดังเสียงครวญรัญจวนใจให้โหยหา
ความคิดถึงตรึงอยู่ไม่รู้รา
สะอื้นหาน้ำตาร่ำพร่ำวาจา
นั่งกอดเข่าเฝ้ามองดูท้องฟ้า
เปลี่ยวกายาพาใจหม่นอับจนค่า
ท้อกับโศกวิโยครักหักอุรา
มองเวหาน้ำตาร่วงทรวงอกตรม
ใยพระจันทร์วันนี้ที่ฉายส่อง
เฝ้าเมียงมองต้องจันทร์เสี้ยวเปลี่ยวสุขสม
เหมือนเจ้ารู้ว่าผู้หนึ่งซึ่งระบม
นั่งตรอมตรมระทมรักที่ถักทอ
แม้แต่จันทร์วันนี้ยังบิดเบี้ยว
เหลือแค่เสี้ยวดังเคียวคราดอนาถหนอ
นั่งเศร้าสร้อยละห้อยหาน้ำตาคลอ
ใจฉันท้อต่อความรักหักมลาย
ความรักฉันมันคงเหมือนกับเดือนเสี้ยว
มันห่อเหี่ยวเลี้ยวลดหมดความหมาย
จากรักมั่นสันพันธ์ซึ้งหนึ่งหญิงชาย
มาสลายมลายเลี้ยวดุจเสี้ยวจันทร์
14 กันยายน 2548 14:45 น.
เพชรพรรณราย
ปลูกความรักปักษ์สัมพันธ์มั่นเราสอง
ร่วมใฝ่ปองประคองคู่ดูสดใส
ก่อความรักเฝ้าถักทอต่อหัวใจ
หลอมฤทัยไว้เพียงหนึ่งตรึงสัญญา
เราเคียงข้างร่างความฝันด้วยมั่นจิต
สองชีวิตคิดต่อเติมเพิ่มคุณค่า
หลายปัญหาร่วมกันคิดพิศปัญญา
ให้ได้มาพาความฝันอันมั่นคง
แต่เส้นทางร่างไว้มันไม่ง่าย
ช่างโชคร้ายหายห่างร้างประสงค์
ด้วยความรักปักษ์ชีวันอันซื่อตรง
มิอาจส่งรักไปถึงซึ่งปลายทาง
ด้วยศักดิ์ศรีที่มันด้อยน้อยใจนัก
เหลือจะหักห้ามใจยามไกลห่าง
ความสูงต่ำย้ำอยู่คู่อับปาง
เหมือนถูกร่างสร้างไว้ให้พบพา
เธออยู่สูงเกินใจจะใฝ่ฝัน
ความรักนั้นมันแค่เพียงเสียงร่ำหา
กอดกับรูปจูปกระดาษทั้งน้ำตา
เพียงไขว่คว้าหาเพียงลมขื่นขมใจ
ขอจำนนจนหนทางอย่างที่หวัง
ขอพบเธอเพียงสักครั้งฝังใจใฝ่
จะเอื้อยเอ่ยเผยน้ำคำย้ำอาลัย
นานเพียงใดไม่รารักปักษ์นิรันดร์
ยอมจำนนต่อฟ้าดินฉันสิ้นรัก
มิอาจหักปักใจคืนฝืนโศกศัลย์
ความรักนี้ฤดียอมตรอมจาบัลย์
แต่รักนั้นมั่นคงไว้ตราบชั่วกาล
13 กันยายน 2548 08:30 น.
เพชรพรรณราย
หยิบบทกลอนสุนทรเก่ามาเฝ้าอ่าน
กลอนวันวานผ่านมาพาสุขสันต์
กำลังใจไม่มีหายวายชีวัน
เพราะเรานั้นสัมพันธ์มั่นด้วยใจ
ทุกความหวังตั้งต่อก่อลิขิต
บ้างพลาดผิดจิตหมองร้องร่ำไห้
เขียนบทกลอนผ่อนคลายระบายฤทัย
ส่งมาให้เป็นแรงใจไม่เสื่อมคลาย
ขอบขอบคุณทุกข้อความตามบทกลอน
ช่วยปลุกใจยามอ่อนล้าพาห่างหาย
ให้แง่คิดพิจารณาพาใจกาย
เพื่อสลายวายความช้ำระกำตรม
แม้ความทุกข์ความท้อต่ออดีต
ยังคงกรีดหัวใจให้ขื่นขม
มีบทกลอนผ่อนคลายสบายอารมณ์
ดับปวดร้าวคราวระบมระทมทรวง
ทุกความหวังยังมีเพื่อนเตือนใจเสมอ
แม้มิอาจพบเจออยู่เพื่อนผู้ห่วง
ส่งความหวังกำลังใจในทุกดวง
ให้ผ่านห้วงแห่งความเหงาเศร้าชีวี
ขอขอบคุณเหล่าเพื่อนพ้องพี่น้องกวี
ที่คอยชี้คอยช่วยอำนวยศรี
ให้กำลังปลุกความหวังยังฤดี
คืนวิถีแห่งความฝันนั้นกลับคืน