28 ตุลาคม 2548 16:23 น.
เพชรพรรณราย
มันยอกย้อนหลอนใจไม่เคยลบ
มันยังพบประสบอยู่ให้รู้เห็น
มันยังเกาะกัดกินใจให้ลำเข็ญ
มันไม่เว้นเวลานาทีใด
ความเจ็บปวดรวดร้าวคราวท้อถอย
เฝ้าใจลอยคล้อยคิดจิตหวั่นไหว
ความหดหู่อดสูนักยากหักใจ
ความหมองไหม้ร่ำไห้ร้องนองน้ำตา
ในวันหนึ่งรำพึงคะนึงคิด
เก็บความผิดลิขิตพลาดมาตรปรารถนา
เหมือนโลกนี้มีแต่ช้ำย้ำอุรา
ร่ำไห้หาพาเศร้าแสนเหงาทรวง
ทิ้งตัวลงบนพื้นสะอื้นร้อง
น้ำตานองสองแก้มแซมห่วงหวง
วันเก่าเก่าเฝ้าร่างสร้างใจดวง
มาลาล่วงทิ้งไปให้ช้ำตรม
ความเจ็บนี้คงกรีดใจไม่หาย
จวบวันตายมิวายคลายขื่นขม
ทุกข์และท้อจะต่อสู้รู้อารมณ์
ทนระทมถมทุกข์ใจไม่โรยรา
ไยโลกนี้มีแต่ช้ำย้ำกับฉัน
ไยจาบัลย์ทุกวันคืนถวิลหา
ไยต้องเจ็บเหน็บแท้ทุกเวลา
ไยจึงมาเป็นฉันวันท้อทน
โลกเหวยโลกวิโยคนักยากหักห้าม
ฉันยอมตามความฟ้าชะตาสับสน
วันนี้เจ็บเก็บไว้ในกมล
ทุกข์และทนจนวันตายวายชีวา
28 ตุลาคม 2548 11:29 น.
เพชรพรรณราย
ฉันนั้นยอมพร้อมใจให้ทุกอย่าง
ฉันพร้อมวางเดินพันไม่หวั่นไหว
แม้จะแลกด้วยชีวิตด้วยจิตใจ
ชีวิตนี้พร้อมให้เธอทุกเวลา
กับความรักปักษ์ใจไว้แม่นมั่น
ทุกคืนวันผันไปด้วยใฝ่หา
ขอเพียงเธอมีความสุขเปรมปรีดา
ฉันจะหามาให้ในทันที
จนวันหนึ่งซึ้งใจเมื่อได้พบ
ฉันประสพพบความจริงในสิ่งที่
เธอหลอกใช้ในตัวฉันโง่สิ้นดี
รักเธอมีให้ฉันมันหลอกลวง
เธอเห็นฉันนั้นเป็นเช่นหุ่นเชิด
จะตะเพิดให้ตายไม่หมายห่วง
หลอกให้ทำด้วยคำรักปักษ์ในทรวง
ท้ายก็กลวงลวงหลอกให้ชอกใจ
เธอได้สิ่งที่ตั้งใจผลักไสฉัน
บอกเลิกกันเรามันต่างแยกทางไหม
อ้างเหตุผลวกวนด้วยกลไก
เพื่อจะได้จบความรักให้หักพัง
โง่สิ้นดีที่มัวเมาเขลาในรัก
ใจที่ภักษ์ปักคำหวานผ่านความหวัง
ถูกเย้ยเยาะหัวเราะหยามตามประดัง
ฝากและฝังยังใจเจ็บเจ็บเจียนตาย
27 ตุลาคม 2548 16:04 น.
เพชรพรรณราย
..ขึ้นสิบห้าค่ำ..
จันทร์วันเพ็ญเด่นฟ้านภาส่อง
คิดถึงน้องมองฟ้าพาอ่อนไหว
เมื่อพบพักตร์สลักจิตพิศมองไป
เหงาหัวใจเพียงใบหน้ากลางจันทรา
คิดถึงรำพึงพร่ำด้วยย้ำหนัก
ใจนี้ภักรักเพียงเจ้าเฝ้าโหยหา
หนึ่งคำมั่นตรึงอยู่คู่สัญญา
ขึ้นสิบห้าค่ำนั้นรำพันความ
มองท้องฟ้าคราจันเพ็ญลอยเด่นอยู่
เราทั้งคู่ต่างอยู่ไกลใจเฝ้าถาม
รักมันคงตรงสัญญาราโรยตาม
วันที่ข้ามตามคืนผ่านกาลที่แปร
ขึ้นแปดค่ำ แรมแปดค่ำ.
จันทร์เพียงครึ่งคะนึงหวนครวญเพลงเหงา
ร้องเพลงเศร้าเฝ้ารอไม่ท้อแท้
หนึ่งคำรักสลักใจไร้คนแล
รอเพียงแต่แค่เธอมารักษาใจ
จันทร์เพียงครึ่งรำพึงคิดจิตไหวหวั่น
ใจเธอนั้นมันจะเหมือนเช่นเดือนไหม
จันทร์เจ้าเอยไฉนเลยเว้าแหว่งไป
วอนเพียงใจเจ้าไม่เลือนเหมือนเช่นจันทร์
อย่าโลเลหักเหทางร้างรักนี้
อย่าได้มีใจเป็นอื่นคืนหาฉัน
อย่าให้เป็นเช่นดังจันทร์ฉันรำพัน
เพียงรักมั่นเท่านั้นฉันและเธอ
.แรมสิบห้าค่ำ
มีเพียงดาวพราวนภาคราไร้เดือน
ดั่งคอยเดือนเหมือนให้เศร้าใจเหงาเพ้อ
ดาวระยิบกระพริบส่องจับจ้องเจอ
คล้ายละเมอเพ้อหาจันทร์ที่ผันไป
โอ้น้องเจ้าเฝ้ารอข่าวด้วยร้าวหนอ
เฝ้าตัดพ้อต่อสัญญาพาหมองไหม้
ฟ้ามืดหม่นดั่งคนรักมาหักใจ
สัญญาไว้ไร้ความหมายวายดังจันทร์
มืดมิดหมองร้องเรียกใจเพรียกพร่ำ
ช่างใจดำทำกันได้ให้โศกศัลย์
ไม่ส่งข่าวราวเรื่องไยทิ้งกัน
หลอกให้ฉันนั้นรอต่อสัญญา
27 ตุลาคม 2548 06:21 น.
เพชรพรรณราย
สวัสดีพี่น้องผองหมู่เฮา
อยากสิเว้าป้อยคำนำอีสาน
ให้หมู่เพิ่นเอิ่นกล่าวเลาไปบ้าน
ให้แตกฉานขานฮู้ผู้มากราย
เป็นจั่งใด๋ให้ฮู้ผู้เพิ่นเว้า
ให้ตอบเขาซำบายดีมีแฮงหลาย
บ่เจ็บไข่ได่ป่วยข่อยซำบาย
พี่น้องอ้ายชายหญิงอยู่พร้อมหน่า
เอิ่นกินเข่านำกันมันแซบอีหลี
อย่าซ้าติ้มีอิหยังหนอผู้ข่า
ข่อยกะคนคือกันกะยังหว่า
ฟ่าวเข้ามาอย่าอายให้ฟ้าวต้อย
เฮาเป็นหมู่อยู่นำกันจั่งเอิ่นเสี่ยว
บ่หักเลี้ยวเที่ยวหนีภัยใหญ่น้อย
ตายกะตายนำกันเด้อหมู่ข้อย
เขาจึงป้อยว่าหมู่ตายแม่นหมายไว้
ก่อนสิหนีจากกันอันคำเว้า
ขอหมู่เฮาเขาพาว่ากล่าวให้
แล้วพ้อกันมื้อสันในวันใหม่
พ้ออยู่ใดให้ทายทักกันเด้อท่าน
จบถ่อหนี้ที่ว่าไว้ให้ได้ฮู้
เป็นความฮู้สูเจ้าเข้าอีสาน
มีอีกหลายบรรยายไปมันสินาน
ท่าอยู่บ้านเชิญท่านมาเยี่ยมเยียน
..บางคนอ่านแล้วอาจจะไม่เข้าใจ
เพชรพรรณรายขอแปลความหมายบางคำ..
ให้รู้เพื่อที่จะได้เข้าใจมากขึ้น
หมู่เฮา แปลว่า พวกเรา
เว้า,ป้อย แปลว่า พูด
เพิ่น แปลว่า ท่าน
เอิ่น แปลว่า เรียก
เลา แปลว่า เขาผู้นั้น
ฮู้ แปลว่า รู้
เป็นจั่งใด๋ แปลว่า เป็นอย่างไรบ้าง
พร้อมหน่า แปลว่า พร้อมหน้า
ผู้มากราย แปลว่า ผู้ผ่านมา
ซำบายดี แปลว่า สบายดี
มีแฮงหลาย แปลว่า มีความสุข
ข้อย แปลว่า ข้า, ฉัน. ตัวเรา
อ้าย แปลว่า พี่ชาย
กะยังว่า แปลว่า ก็คือว่า , ว่าไว้
ฟ้าว , ฟ้าวต้อย แปลว่า เร็วไว, ไว
อย่าซ้าติ้ แปลว่า อย่าชักช้า
เสี่ยว แปลว่า เพื่อนตาย
คำเว้า แปลว่า คำพูด
ถ่อหนี้ แปลว่า เท่านี้
อาจจะแปลไม่ตรงซะทีเดียว..
แต่ก็คงจะพอเข้าใจนะครับ
26 ตุลาคม 2548 16:55 น.
เพชรพรรณราย
ใต้แสงจันทร์วันวิปโยคด้วยโศกรัก
คราวอกรักรักสลายมลายค่า
เหม่อมองจันทร์จาบัลย์เหงาเศร้าอุรา
ทุกทิวาราตรีกาลที่ผ่านไป
จันทร์เจ้าเอยจันทร์งามขอถามไถ่
เพราะอะไรทำไมรักมาผลักไส
จันทร์เจ้าเอ๋ยรู้ไหมเพราะอะไร
เธอจึงได้ตัดสัมพันธ์ให้ฉันตรม
จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยอกหักรักไกลไหม
เคยปวดใจเมื่อรักแท้แปรให้ขม
เคยเหว่ว้าล้าใจให้ระบม
เคยบ้างไหมระทมรักที่หักพัง
เจ้าเคยร้องร่ำไห้บ้างไหมหนอ
เจ้าเคยท้อต่อความจริงสิ่งที่หวัง
เคยอ่อนแอแก่ใจไร้กำลัง
เคยสักครั้งบ้างไหมจันทร์วันช้ำทรวง
ฝากคำถามตามย้ำพร่ำรำพัน
ใต้แสงจันทร์วันอกหักรักลาล่วง
ด้วยความเงาเศร้าใจในทุกดวง
เฝ้าถามทวงดวงจันทร์วันรักตรม