11 มีนาคม 2550 12:16 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ที่ผ่านมา ฉันไม่เคย จะรับรู้
ความเป็นอยู่ ของเรา มันแบบไหน
แม้ฉันรัก เธอแล้ว จนหมดใจ
แต่เธอไซร้ ไม่รักกัน ให้หวังลม
จนคนนั้น เขามา ในชีวิต
เธอจึงถึง รักมั่น ถวัลย์สม
ไปครองคู่ กับเขา ชื่นอารมณ์
ปล่อยฉันตรม ลำพัง กับน้ำตา
ตลอดมา ฉันเป็นเพียง คนไร้เงา
เมื่อมีเขา เธอจึง ไม่เรียกหา
ไร้ตัวตน ดั่งเงาจันทร์ ที่พร่างพรา
รู้ไหมว่า แม้เป็นเงา แต่มีใจ
จะมีไหม ใครสักคน มองเห็นฉัน
จะมีวัน ที่ได้พบ วันสดใส
ในวันนั้น เกิดตัวตน สมดังใจ
จะมีไหม ใครสักคน ที่ฉันรอ
ไม่เคย [Never]
อาจจะเจอหน้าเธอ อาจจะได้คุยกัน
แต่ละวันผ่านไปดูเหมือนเธอมีใจ
แต่ไม่รู้ทำไม ว่าลึกๆ ข้างใน
มันปวดร้าวและรู้สึกได้กับความเฉยชา
ที่เธอมีให้กัน ให้กับฉันมานาน
สิ่งที่เหมือนจะหวานแต่กลายเป็นภาพลวง
เธอไม่คิดจริงจัง เหมือนที่ฉันจริงใจ
ยิ่งนานเท่าไหร่ในใจยิ่งรับรู้ความจริง
ว่าฉันไม่เคยได้อยู่ในชีวิตของเธอ
เป็นอยู่เสมอก็แค่คนที่ไม่เคยมีตัวตน
ในความฝันของเธอ แค่ผ่านมา และผ่านไป
ก็ได้แต่ช้ำเมื่อรู้ว่าสิ่งที่ฉันหวังมานาน
มันเป็นแค่จินตนาการของคนโง่งมงาย
เจ็บแทบตาย...แต่ทั้งใจก็ยังรักเธอ
10 มีนาคม 2550 18:20 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
โลหิตหลั่ง เท่าไหร่ จึงจะหมด
หมดใจคด คิดกินเมือง น่าเวียนหัว
เห็นแก่ลาภ เห็นแก่โลภ จนน่ากลัว
หลงเมามัว จมดิ่ง อำนาจพา
สิ้นชีวิต กี่ศพ กันแล้วหนอ
จึงจะพอ เซ่นสังเวย แก่ตัณหา
จิตละโมบ ไม่เคยพอ กลืนพารา
ทั่วธารา ปฐพี แดนนี้ฤา
เสียงระงม แห่งน้ำตา การร่ำไห้
แปลบในใจ คนทั้งหล้า เขาผิดหรือ
อาจจะผิด ที่ไร้เงิน ให้หารือ
สิ่งยึดถือ คือความรัก และห่วงใย
10 มีนาคม 2550 17:41 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
หลับตาลง คราใด ยังรู้สึก
ในส่วนลึก หัวใจ ยังสั่นไหว
ยังตราตรึง ติดประทับ ลงที่ใจ
ราคีไว้ จากเดนคน ลอบเชยชม
เสียงกรีดร้อง ระงมงัน พลันกลับเงียบ
เมื่อมันเลียบ ประชิดตัว หวังสู่สม
ยิ่งกรีดร้อง ยิ่งหลีกหนี มันชื่นชม
ท้องจุกลม ทุกครั้ง ที่ชกมา
มือหยาบใหญ่ กำแน่น กระแทกท้อง
เสียงร้องก้อง พลันหาย ปวดหนักหนา
เมื่อมันก้ม หวังประโลม เสพกามา
รวบแรงพา กายดิ้น โดนซ้ำรัว
เจ็บจุกจน หมดแรง เกินจะสู้
เหมือนมันรู้ ยิ้มเย้ยแสร้ง ขอเป็นผัว
กระชากสิ้น กี่ชิ้น ที่ปิดตัว
อารมณ์ชั่ว จากชายโฉด ช่างบาปกรรม
หัวใจหญิง ร่ำไห้ อาลัยนัก
สิ่งสุดรัก จะสูญสิ้น ยากขันขำ
แม้ยกมือ วิงวอน ให้หยุดทำ
อย่าก้าวล้ำ พรหมจรรย์ โปรดเห็นใจ
คนอุบาทว์ ชาติสัตย์ ไม่ยั้งคิด
บอกขอนิด หน่อยนั้น จะได้ไหม
ขอเป็นผัว เธอสักครั้ง จะเป็นไร
เดี๋ยวชินไป จะร้องบอก ต่ออีกที
ว่าแล้วพลาง ลุกล้ำ กล้ำกายา
อ่อนแรงล้า เกินกว่า จะดิ้นหนี
จากรอยช้ำ ที่โดนชก และตบตี
ไอ้ใจผี มันยีย่ำ แสนปร่าใจ
กี่สัมผัส กี่ครั้ง ที่ชำแรก
ที่มันแทรก ตัวล้ำ เจ็บแค่ไหน
เจ็บทั้งตัว ปวดไปหมด แลหัวใจ
กรีดร่ำไห้ เพราะสัตว์ป่า ในคราบคน
แม้เหตุการณ์ จะผ่าน ลุล่วงแล้ว
โอใจแก้ว ยังแตกยับ นับพันหน
ภาพและเสียง ยังติดตรึง อลวน
ในใจตน ยังปวดแปลบ ดั่งถูกทำ
8 มีนาคม 2550 03:33 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
จักหาเหตุอันใดให้หายเศร้า
แลความเหงาที่เข้าเร้ารุมจิต
รักสุดแสนกลับกลายไม่นึกคิด
รักคนผิดใจสลายพ่ายในทรวง
ตั้งสติ เริ่มต้น ชีวิตใหม่
ลืมคนให้ ความหวัง เคยแหนหวง
ทิ้งมันไป แค่รัก ที่กลวงกลวง
ทำใจล่วง ผ่านวิกฤติ แห่งชะตา
7 มีนาคม 2550 19:02 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
รักแค่ไหน คุณน่า จะรู้บ้าง
เคยร่วมสร้าง บุกบั่น มาแค่ไหน
เคยร่วมทุกข์ ร่วมสุข ร่วมดวงใจ
แต่ทำไม คุณนั้น ไม่ใยดี
หรือว่านี่ คือรางวัล ของใจมั่น
เป็นความฝัน ที่ฉัน อยากหลีกหนี
ผิดอะไร ก็บอก กันดีดี
กระไรนี่ พาเมียน้อย มาเหยียบทรวง
คุณเอามา ออดอ้อน ทำฉอเลาะ
ทำใจเสาะ กลัวนั่นนี่ แกล้งหึงหวง
ฤารักแท้ คู่ทุกข์ยาก เป็นสิ่งลวง
เปลี่ยนคู่ควง เปลี่ยนใจ หรือไรกัน
คุณรู้ไหม ใจฉัน มันบอบช้ำ
การกระทำ ของคุณ ช่างผกผัน
บอกว่ารัก แล้วพาใคร ที่ไหนกัน
เคยบอกฉัน ก็เพื่อนกัน อย่าหวั่นไป
นี่เหรอเพื่อน ช่างน่า ระอานัก
เพื่อนที่ลัก เล่นชู้ อยู่ใช่ไหม
อย่าแก้ตัว เพราะฉันเห็น จากสองนัยต์
อย่าทำให้ ทุกข์ระทม เพราะคำลวง
นี่กระไร หัวใจ เธอเยี่ยงสัตว์
กายมันกลัด กามอารมณ์ อันใหญ่หลวง
จึงไม่สน บาปบุญกรรม ใดทั้งปวง
ใช้คลวง หลอกรัก พาระทม
ผู้หญิงนั้น ก็ช่าง แสนร้ายเหลือ
เปรียบมีดเถือ หัวใจฉัน พาขื่นขม
ลูกผู้หญิง เหมือนเหมือนกัน หน่ายกมล
เจ็บคารม ของเธอ บอกผัวกู
คุณกับเธอ ทำไม ทำอย่างนี้
กระสันถี่ อยากมัวเมา ใช้คำหรู
บอกว่าเพื่อน แต่อีกคน บอกผัวกู
ไม่เคยรู้ ว่าเราโง่ หลงงมงาย
ว่าความรัก ดีล้วน ทุกสิ่งสรรพ์
ใจไม่กลับ เป็นอื่น ยากหักหาย
ใจต่อใจ ซื่อตรง มิรู้คลาย
เชื่อคนง่าย หน่ายคนลวง ช้ำอกเมีย