20 พฤษภาคม 2550 15:24 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ในท่ามกลางหมู่ชนช่างสับสน
วิ่งวกวนเวียนว่ายหลายความฝัน
แต่ละคนต้องแก่งแย่งแข่งขันกัน
บางรายนั้นพลาดพลั้งล้มลงไป
โดนเขาเหยียบปีนป่ายก่ายทาบทับ
ยิ่งเยินยับอ่อนใจมิไปไหน
ได้แต่เพียงลึกถลำซ้ำดวงใจ
ในใจใสเริ่มมีคราบมารหมองมัว
จากหนทางสีขาวสะอาดตา
ต้องกลับหน้าเป็นหนทางขมุกหมัว
ขอเพียงฝันที่วาดไว้ไม่ไกลตัว
มิเกรงกลัวผลกระทำย้อนตามตน
บนหนทางถนนแห่งฟากฝัน
มีใครกันฝ่าฟันไปโดยไม่สน
ไม่เคยคิดถึงจิตใจใครสักคน
แม่แต่ตนคิดแต่ฝันทอดทิ้งใจ
เหนื่อยหนักนักท้อทุกข์ยิ่งทับถม
ใจก็ตรมขมพิษซ่านปร่ากว่าไหม
สมดังฝันแล้วใจเจ็บ....เพื่ออะไร
ทอดดวงใจท้อถอยฝันพังลง
ในวันนี้แม้มิยังถึงฝั่งฝัน
อย่าแข็งขันด้วยชนะด้วยลุ่มหลง
บนหนทางไปถึงฝันต้องหัดปลง
ทำใจคงเอาไว้มิเปลี่ยนแปร
ถนนแปลกแยก By มาลีฮวนน่า
บนถนนที่ทอดทาง ว่างเปล่า
เดินเดียวดาย เหน็บหนาวว้าเหว่
ทุกข์หนักทบถม หนักจนน้ำตาล้นปรี่
มองหาเพื่อนคืนนี้ ไม่มีสักคน
มองเห็นถนน สายทางที่เปลี่ยนแปลง
ต่างคนแสดง ไปตามเวลา
ต่างหวังได้ชิด ดังที่คิดไขวคว้า
จากที่ใจศรัทธา ยิ่งหาต่างหางทาจริง
* อยากพักเมื่อท้อ นิ่งรออย่างคนสิ้นหวัง
ฝั่งฝันฉันยัง เลือนลางห่างเกิน
เพียงตัวตน เกิดสับสน
เหมือนคนอ่อนแอมากไป
จะเป็นอยู่อย่างไร สังคมเลวร้าย
โลกนี้วุ่นวาย มากมายเพียงนี้
(ซ้ำ *)
แลบนถนน ผู้คนจึงขันแข่ง
ต่างคนแสดง ให้ระแวงต่อกัน
ต่างหวังพิชิตดังดีเด่นมันต้องเป็นของฉัน
ไม่เหลือการแบ่งปัน จนเป็นสันดารของคน
อยู่บนถนน สายทางชีวิตหม่น
เบื่อหน่ายผู้คน ตัวตนคนเช่นอะไร
ซ่อนเร้นปิดบัง จนบางครั้งอยู่อย่างอ่อนไหว
ปล่อยตัณหา พาใจพาไปถึงไหนกัน
18 พฤษภาคม 2550 01:11 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
แลดูเดือนเคลื่อนคล้อยในนที
ส่องรังสีศรีผ่องแผ้วสดใส
ในธารามีจันทราล่องลอยใน
อีกฟ้าไกลยังมีไขกระจ่างตา
อีกดาราล่องลอยมาบรรจบ
ดั่งนัดพบสหายเก่าเคยกู่หา
ขยับเคลื่อนเกลื่อนฟ้าดาษดา
บนทางฟ้ากลางนภาร่วมมาเยือน
มองตัวเราอยู่เปลี่ยวเปล่าวิญญา
ไร้เงาหมาเงาแมวอยู่เป็นเพื่อน
มีเพียงเงาตัวเราทอดบนเรือน
ให้ย้ำเตือนคนที่เคยเป็นดั่งเงา
กี่เดือนแล้วที่พี่นั้นจากลา
ไปคบหากับแม่หญิงคนใหม่เขา
ลืมรังรักลืมเมียเคยแนบเนา
ลืมคนเฝ้าฟูกฟักรักดวงใจ
ความคิดถึงบอกไปคงไม่ถึง
เพราะใจตรึงติดอยู่กับสาวไหน
ได้เพียงแต่ฝากลมพัดพาไป
กระซิบให้ดัวยดวงใจที่ภักดี
แลดูเดือนเคลื่อนลับกลีบเมฆา
ปร่าใจหนาโฉมจันทร์อย่าหลีกหนี
ในตอนนี้มีเพียงจันทร์กล่อมราตรี
แทนคนที่เคยเป็นเงาเขาจากไกล
18 พฤษภาคม 2550 00:26 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
ที่รัก....
เจ้ารู้ไหม...ในความเงียบงันที่พี่นั้นได้พานพบ
ที่พี่สบแลประจักษ์ในตอนนี้
เปรียบดุจดังตัวพี่นั้น....ได้ดำดิ่งแทรชำแรกกลางหว่างนที
ในเวิ้งนั้นมีแต่...ความเดียวดาย
มองทิศใด...ก็เห็นเพียงสายธาราอันวกวน
ในสายชลที่ดูนิ่ง........แต่มิใช่
กระแสธารเวียนวน....ดั่งมีใจ
คล้ายกับใครในสังคมที่ก่อกวน
ส่วนความวังเวงเหว่าว้าที่บรรจบ
มันได้สบหลบประทับกลางใจฤทัยหวล
ดั่งตัวพี่...อยู่กลางเกลียวคลื่นวนอันก่อกวน
ยากผันผวน...ความเดียวดายแลอาลัย
เจ้าจากไปไกลเหลือเกิน....นะดวงแก้ว
ใจเคยแผ้วผ่อง....หมองลงได้
เพราะเจ้าทิ้งรอยรักรอยอาลัย
ฝังฤทัยไว้ตระกองกอดแทน....แม่น้องนาง
ที่รัก....
ที่พี่จารจารึกถึงเจ้าในครานี้...
เพราะฤดีพี่นั้นมัน....หวั่นไหวแลหวาดหวั่น
กลัวดวงใจพี่จักขาด....นะจอมจันทร์
แม่ยอดขวัญปล่อยพี่ตรมรมทุกข์ด้วยเดียวดาย
พี่ไม่โกรธ....ไม่โทษ...คนรักเจ้า
ทีเขาเฝ้าครอบครองทั้งกายาและดวงใจมิให้หาย
ต่างกับพี่....มิอาจมอบความสุข..ทั้งใจกาย
ทำเจ้าหน่าย...มิปรีเปรม....จึงจากลา
พี่นี้ผิด....ทุกสิ่ง...ทุกอย่าง...ทุกข้อหา...
สมน้ำหน้า...มีโอกาส....แต่...มิอาจยื้อเจ้าได้
มิอาจหนี..จองจองจำตรวนหัวใจ
หาสิ่งใด...มาเบาโทษให้พี่นั้นได้...ล่ะกัลยา
แต่โปรดเถอะ...โปรดรับฟังวจีของคนคุก
ที่มันจุกล้นปรี่มิอาจห้าม
โปรดเมตตา....ตัวพี่ที่ถูกตรา...
อีกสักครา.....ขอพบหน้าเจ้าดวงใจ
13 พฤษภาคม 2550 02:50 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
อยู่ที่ไหน...คนที่ฉันเฝ้ารอคอย
อยู่ที่ไหน...คนร้อยใจดั่งใจฝัน
อยู่ที่ไหน...คนที่จะอยู่ด้วยกัน
อยู่ที่ไหน...คนรักฉันด้วยใจจริง
ไม่ต้องการ...คนลอเลิศเหนือกว่าใคร
ไม่ต้องการ...ของสิ่งใดทุกทุกสิ่ง
ไม่ต้องการ...เจ้าชายมาแอบอิง
ไม่ต้องการ...ถูกทอดทิ้งไว้คนเดียว
ขอเพียงแค่...เข้าใจในตัวฉัน
ขอเพียงแค่...ใจผูกพันตาแลเหลียว
ขอเพียงแค่...ให้เกียรติมีรักเดียว
ขอเพียงแค่...ไม่เทียวแจกบอกรักใคร
จะตอบแทน...ด้วยถ้อยคำที่หวานหู
จะตอบแทน...ด้วยแลดูยามป่วยไข้
จะตอบแทน...ด้วยใจภักดิ์สุดดวงใจ
จะตอบแทน...ด้วยดวงใจและวิญญาณ
12 พฤษภาคม 2550 03:47 น.
เปเป้ซังแม่มู๋ผู้เดียวดาย
เดินตามทางบนถนนมากผู้คน
ดูสับสนวุ่นวายใคร่ค้นหา
จะมีไหมใครสักคนให้พึ่งพา
ช่วยเยียวยาหัวใจคนอ่อนแรง
อยู่คนเดียวเพียงลำพังมานานอยู่
ไร้คนคู่เคียงใจให้เข้มแข็ง
ได้เพียงมองใครเขาต่างแสดง
กุหลาบแดงแทนรักจากดวงใจ
อีกลิลลี่สีพราวบริสุทธิ์
เหมือนใจผุดผ่องแผ้วดั่งแก้วใส
รักสีขาวพราวความรักจักส่งไป
มอบให้ใครคนนั้นที่คู่ควร
คาร์เนชั่นสีแดงแฝงออดอ้อน
อรชรโปรดรักผมแลคืนหวน
คาร์เนชั่นดอกชมพูก็นิ่มนวล
เหมือนยิ้มสรวลของสาวหวานทรวงใน
ทานตะวันนั่นเล่าก็ร้อนแรง
ไร้ความแฝงอันมั่นคงอันเชื่อได้
เยอร์บีร่าคือตะวันในดวงใจ
แต่ดอกไหนจะเหมือนเราคนเดียวดาย
คงดอกนี้คงจะเหมือนดั่งใจเรา
หาใครเฝ้าแลมองก็มิได้
เป็นดอกหญ้าแบบนี้ไปจนตาย
ทนงมงายอดทนรอรักจริง
ซื้อกุหลาบให้ตัวเอง
ศิลปิน : Voice Male
กุหลาบแดงยังไงก็ดูสวยดี
สื่อความหมายเป็นคำเอ่ยแทนหัวใจ
กุหลาบขาวก็ดูคู่ควรกับรักยิ่งใหญ่
เลือกดอกใดให้ตรงกับใจของฉัน
*แต่(และ)ถ้าใครถามว่าฉัน จะมอบให้กับใคร
คงได้แค่แอบยิ้ม และแกล้งทำเป็นเขิน
แต่ในใจของฉันนั้นมันเศร้าเหลือเกิน
ถ้าใครบังเอิญได้รู้ความจริง
**ว่าซื้อกุหลาบให้ตัวเอง ฉันซื้อกุหลาบให้ตัวเอง
ต้องทนเดียวดายวังเวง อย่างนี้
จะส่งความรักไปให้ใคร เมื่อคนคนนั้นไม่เคยมี
บอกรักตัวเองอีกทีนะเรา
เก็บดอกไม้รอคอยเพื่อใครสักคน
ที่ไม่รู้ว่าฉันจะเจอเมื่อไร
กลีบดอกไม้รอวันเวลาจะโรยร่วงไป
ต่างอะไรกับใจที่มันยิ่งเหงา
*,**
เก็บดอกไม้รอคอยเพื่อใครสักคน
**