26 มกราคม 2554 14:49 น.
เปลวเพลิง
ถึงเกลอแก้ว
เราเลิกแล้วเลิกหวังสิ้นทั้งหมด
เรายอมแพ้ยอมพ่ายให้คนคด
ที่คอยซดเลือดเนื้อเถือหนังเรา
เราบ้านนอกคอกนามาแต่เกิด
ใครจะเทิดศักดิ์ศรีเรานี้เล่า
เราไร้ซึ่งเงินตรามาบรรเทา
เพื่อรับเอาการศึกษายกค่าตน
เราไม่มีเส้นสายที่ใดหรอก
มีแต่ดอกแต่หนี้มีเงินต้น
เราได้ชื่อลือชาว่าคนจน
จึงต้องทนรับกรรมทำกันไป
เขาทำงานบนตึกสูงละลิ่วฟ้า
เราแบกหามทำนาเยี่ยงข้าไพร่
หยาดเหงื่อเราหมดสิ้นที่รินไป
คงจะใช้อาบแทนน้ำได้สามปี
เราเลี้ยงชีพไม่ร่ำรวยด้วยสุจริต
เขายังคิดอำนวยช่วยกดขี่
เราอดอยากตลอดมาทั้งตาปี
เขาเร็วรี่กอบกินบินขึ้นฟ้า
เกลอแก้วเหอ
น้ำตาเราล้นเอ่อแล้วเกลอจ๋า
แม้เรารู้เราเห็นเป็นธรรมดา
ด้วยโลกบ้าเราจึงอยากมาระบาย
แต่ไม่ว่าเกิดชาติหน้ากี่คราหน
เราขอเกิดเป็นคนจนอีก, สหาย
ดีกว่ารวยเพราะโกงเมืองที่เรืองราย
คงอับอายขายหน้ายิ่งกว่าจน
24 มกราคม 2554 01:52 น.
เปลวเพลิง
สงคราม
สายน้ำแดงสดรดหล้า
เกลื่อนศพทบคราบน้ำตา
หลั่งมาระเรื่อยเอื่อยริน
หวังสันติภาพสีขาว
พร่างพราวกัปกัลป์ไป่สิ้น
แต่นี่ถิ่นทั่วธานินทร์
สุขบินเปี่ยมทุกข์ขุกใจ
ยินไหมเล่าเสียงสะอื้น
แห่งพื้นพิภพหมกไหม้
ดูนั่น!...ปราการสูงไกล
ร่างใครพะเนินเกินกอง
เราหวังมีสุขทุกสถาน
ใช่บ้านแหลกลาญมานหมอง
หวังสามัคคีปรองดอง
ใช่ต้องเข่นฆาตฟาดฟัน
ชาตินี้หรือว่าชาติไหน
คงไร้บันไดสู่สวรรค์
มีแต่นรกโลกันต์
ลงทัณฑ์เราทุกนาที
แด่ผู้ที่ต้องสูญสิ้น
ผู้อยู่แผ่นดินภูตผี
บ้านท่านปราศโศกโชคดี
บ้านเรามากมีสงคราม!
17 มกราคม 2554 00:50 น.
เปลวเพลิง
ที่ผ่านมา
เราทำหน้าที่เราทุกเช้าสาย
เหนื่อยสายตัวแทบขาดออกจากกาย
ด้วยกำลังทั้งหลายที่เรามี
ที่ผ่านมา
เราคิดว่าเมื่อเราทำหน้าที่
มีความรับผิดชอบกอปรกรรมดี
เราคงมีความสุขในทุกวัน
ที่ผ่านมา
เราตั้งหน้าตั้งตาขมีขมัน
จะยากเย็นเพียงใดไม่พรึงพรั่น
พร้อมบากบั่นบุกพงหรือดงดอน
แต่วันนี้
เมื่อหน้าที่ทำเราให้เหนื่อยอ่อน
เราจะต้านลมแรงแสงแรงร้อน
และไม่ท้อย่อหย่อนได้อย่างไร?
เราเคยคิดว่า
ไม่ทำหน้าที่นี้จะดีไหม
ไม่ต้องเหนื่อยไม่ต้องทนไม่สนใคร
ไม่ต้องอึดอัดใจในบางครั้ง
ทำไม? ทำไม?
ถึงบางใครไม่เคยจะไหลหลั่ง
หลั่งน้ำจิตน้ำใจในสักครั้ง
คอยแต่รั้งยื้อยุดเรามุดดิน
ฉะนั้นนับจากนี้
เราจะวางหน้าที่เราให้สิ้น
เราเหนื่อยหนักเหนื่อยหนาเกินชาชิน
เชิญท่านดิ้นรนต่อเราขอลา
ปล.แด่ความรับผิดชอบที่ไร้ประโยชน์
13 มกราคม 2554 01:46 น.
เปลวเพลิง
ฤาผืนแผ่นดินนั้นจะสั่นไหว
เพียงเพราะลมปากใครที่ไหนนั่น
ถ้าเรารักจริงแท้แน่นิรันดร์
ไม่มีวันหรอกที่มีห่างไกล
ฤาว่าผืนน้ำนั้นจักแห้งเหือด
มีรอยเลือดรอยน้ำตาโถมบ่าไหล
มาชะล้างรักสกาวของเราไป
เหลือแต่ความหมองไหม้ในดวงตา
ฤาว่าผืนฟ้านี้ไร้ที่รัก
เจ้าจึงผลักไสส่งลงใต้หล้า
หรือไม่รักข้าแล้วแก้วชีวา
จึงตัดสร้อยเสน่หาข้าเช่นนี้
เมื่อเรายิ่งห่างเหินเมินหน้ากัน
รักเรานั้นก็ยิ่งออกวิ่งหนี
เมื่อใกล้กันแต่ไม่เคยเอ่ยวจี
ก็เหมือนมีกำแพงกั้นเรานั้นไกล
หันหน้ามาพูดกันสักครั้งเถิด
เรื่องที่เกิดหากเพราะว่าข้าหวั่นไหว
ทำให้เจ้าปวดร้าวเศร้าดวงใจ
ข้าขอโทษเจ้าโปรดให้อภัยกัน
เห็นแก่รักเราเถิดหนายอดยาหยี
จะไม่มีอีกแล้วแก้วจอมขวัญ
ข้ามั่นรักเจ้านี้เท่าชีวัน
โปรดยกโทษให้กันนะที่รัก!