13 กุมภาพันธ์ 2556 21:54 น.
เปลวเพลิง
กุหลาบสีโปรยฝากจากฟากฟ้า
บ่งบอกว่าวาเลนไทน์ได้มาถึง
อันความรักสีชมพูดูซาบซึ้ง
เป็นสิ่งซึ่งส่งผ่านจากม่านใจ
เดือนแห่งรักรมย์ละมุนอุ่นไอหวาน
แสนสำราญเริงรื่นชื่นไฉน
หนุ่มบอกรักสาวสวยด้วยดอกไม้
สาวก็รับรักไว้ด้วยไมตรี
อานุภาพมายามนตรารัก
แดอะดักหากคิดผิดวิถี
นามสงวนนวลสง่าในท่าที
อย่าผลามผลีตกเป็นข้ากามารมณ์
สุมาลีแรกแย้มอันแช่มชื่น
อาจสะอื้นดลหวานพาลเป็นขม
วาเลนไทน์เพียงสัญญาค่านิยม
จะน่าชมถ้าคิดได้ต่อไปนี้
“อันความหมายดีงามของความรัก
จงตระหนักตริตรองให้ถ้วนถี่
อนุสรณ์วันมิคสัญญี
นักบุญที่ชื่อเซนต์วาเลนไทน์
เพียงทุกผู้ตวงตักรักพิสุทธิ์
มอบเพื่อนมนุษย์ทั่วไปทั้งไกลใกล้
อีกหวังดีทั้งปวงและห่วงใย
แต่มิใช่สนุกสนานการเสียตัว”
วันแห่งรัก-วาเลนไทน์ได้ถึงแล้ว
กุหลาบแก้วสะพรั่งพรูชมพูทั่ว
ขอภาพกายกอดรัดฟัดกันนัว
อย่าเมามัวลดค่า “วาเลนไทน์”
................................................
ด้วยความปรารถนาดี
พรุ่งนี้วันแห่งความรักแล้ว
(แต่เราควรมอบความรักให้แก่กันในทุกๆวันนะ)
27 กันยายน 2556 17:22 น.
เปลวเพลิง
เสียงไม้เรียวหวดขวับลงกับก้น
แสบเสียจนแทบว่าน้ำตาไหล
ผองลูกศิษย์เห็นหน้าฉันคราใด
ต้องหนีไกลเพราะกลัว เบื่อฉันเหลือทน
บางคนตั้งสมญาว่าแม่มด
เพราะภาพพจน์ในหน้าที่ฉันขี้บ่น
หัวโบราณอย่างนี้ไม่กี่คน
ชอบเสกมนต์ดำใส่ผ่านไม้เรียว
จนดาวเคลื่อนเดือนคล้อยลอยลับฟ้า
ศิษย์ใหม่มาเก่าไปหลายสิบเที่ยว
ฉันยังคงเพาะบ่มแรงกลมเกลียว
สอนศิษย์เฮี้ยวให้รู้รับสรรพวิชา
นักเรียนยังเรียกสมญาว่าแม่มด
ไม่ละลดความเนี๊ยบระเบียบกล้า
ทั้งสั่งสอนเคี่ยวกรำธรรมจรรยา
เหมือนเข้มงวดตรวจตรามาแต่ใด
ถึงวันนี้อายุลุหกสิบ
แรงจะหยิบไม้เรียวนั้นแม้นยังไหว
แต่วิชาชีพฉันสั่นหทัย
ต้องจำใจกล่าวคำว่าอำลา
ภาพเด็กน้อยเยาว์วัยในวานวัน
คือสิ่งอันสวยซึ้งคะนึงหา
ที่ดุด่าว่าบ้างเป็นบางครา
ด้วยเพราะว่ารักสะพรั่งและหวังดี
เพื่อวันหนึ่งวันใดในอนาคต
ศิษย์แม่มดจะเพลินเจริญศรี
ครองธรรมา-ร่างไม่ไหลใรวารี
ทั้งอัคคีก็มิไหม้ประลัยลาญ
โอ้วันนี้ศิษย์มากันคลาคล่ำ
แม่มดน้ำตาไหลใจสุขศานต์
เปล่า-มิได้ทุกข์กระไรในดวงมาน
ฉันชื่นบานเพราะซึ้งค่าคำว่า "ครู"
15 มกราคม 2556 00:25 น.
เปลวเพลิง
มาทักทายมารู้จักกันสักหน่อย
วันละน้อยวันละนิดจิตแจ่มใส
ฉันคอยเฝ้าเสาะค้นคนรู้ใจ
มาแบ่งปันฝันใฝ่ในชีวิต
ยามร่างกายอ่อนแอเหมือนแพ้พ่าย
ฉันย่อมช่วยคลี่คลายหายวิกฤต
ฉันรักเธออย่างยิ่งนะมิ่งมิตร
แถมไม่มีภัยพิษปลิดชีพใคร
อัน “กีฬา” มีมากมายให้เลือกเล่น
ข้อดีเด่นเกินแจ้งแถลงไข
สร้างสุขภาพแข็งแรงและแกร่งไกร
ทั้งเรียนรู้น้ำใจนักกีฬา
วอลเลย์บอล ฟุตบอล แบดมินตัน
บาสเก็ตบอล เทนนิสนั้นก็หรรษา
ตะกร้อ บริดจ์ รักบี้ วิ่งกรีฑา
อีกนานาชนิดให้ได้เลือกลอง
มาทักทายมารู้จักกันสักหน่อย
เธอจะไม่เหงาหงอยเลยเพื่อนผอง
เริ่มวันนี้ เพื่อชีพชื่นรื่นเรืองรอง
หน้าไม่หมอง โรคไม่กล้ามากล้ำกราย
15 มกราคม 2556 00:24 น.
เปลวเพลิง
เขียนกลอนนี้ถึงเพื่อนเพื่อนที่น่ารัก
เรารู้จักกันมาแล้วนานเท่าไหร่?
ถ้าถามผมผมจะตามไปถามใคร
ไม่ได้จดสมุดใส่เอาไว้นิ
ใจเย็นครับ...เพื่อนเพื่อนอย่าเพิ่งโมโห
ผมไม่ได้หมายโชว์ความอุตริ
ขอหายใจเข้าท้องสักสองวิ
จะอธิบายให้เข้าใจกัน
ที่ผมถาม “รู้จักมานานเท่าไหร่?”
ผมไม่ได้ยวนยั่วให้หัวปั่น
มันมิใช่สาระอันสำมะคัญ
ก็ถามไปเท่านั้นไม่มีอะไร
ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้ครับ
อยากให้รับรู้ถ้วนกันส่วนใหญ่
อนาคตที่ต้องก้าวยังยาวไกล
ขอจดจำกันไว้ไม่ลืมเลือน
ณ วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันโน้น
ใจจะโชนฉายนิยามความเป็นเพื่อน
มิตรภาพแนบชิดอย่าบิดเบือน
คอยตักเตือน ปลอบใจให้ชื่นบาน
แค่นี้แหละครับเพื่อนเพื่อนที่น่ารัก
ผมเขียนกลอนหลายวรรคมาให้อ่าน
อย่าถามผมนานเท่าไหร่? ไม่เชี่ยวชาญ
ยังเป็นเพื่อนกันอีกนานแสนนานครับ
15 มกราคม 2556 00:16 น.
เปลวเพลิง
อันว่าความสุขล้นของคนนั้น
จะอยู่มั่นชั่วชีวาก็หาไม่
เช่นเดียวกับทุกข์เศร้าที่เผาใจ
จะอยู่ชั่วอมรรตัยก็ไม่มี
แม้เกิดเป็นยาจกผู้ตกยาก
ต้องลำบากตรากตรำทำหน้าที่
อาจเหมือนว่าตกอับทับทวี
ยังสุขีสถิตอยู่ควบคู่กัน
แม้เกิดเป็นเศรษฐีมากมีทรัพย์
ทุกวันรับศฤงคารบันดาลฝัน
ยังมีคราสุขสลายกลายเป็นควัน
เพราะทุกข์ดั้นมาเยือนเป็นเพื่อนใจ
“แล้วนี่คนต้องทำอย่างไรเล่า
ไม่อยากเศร้าเพราะทุกข์-อยากสุกใส?”
ถ้าถามเราจะเปรียบเปรยเอ่ยออกไป
“ถึงเกิดใหม่ก็เจอสุข-ทุกข์อยู่ดี
คงได้แต่ทำใจเอาไว้มั่ง
ว่าชีพยังย่อมยังทุกข์-สุขราศี
ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไปในชีวี
เป็นฉะนี้แม่นมั่นนิรันดร์กาล
จะพบสุขเมื่อเข้าใจในความสุข
จะไม่ทุกข์เมื่อปล่อยให้ทุกข์ไหลผ่าน
ไม่ต้องขอพรใดในจักรวาล
ชีวิตก็ชื่นบานอย่างแน่นอน”