9 ตุลาคม 2550 04:06 น.
เบรฟฮาร์ท
แสนสุขจริง กิ่งทอง นวลน้องเอ๋ย
เขาเป็นเขย หน้ามล คนเศรษฐี
ช่างเหมาะสม กันหนา เข้าท่าดี
ชายมั่งมี หญิงสวย ต้องด้วยกัน
ใช่นี่จะ อิจฉา หรอกหนาเจ้า
เพียงแต่เศร้า โศกนัก รักแปรผัน
ด้วยว่าบุญ ขาดไป ไม่เทียมทัน
นับแต่วัน นี้หนอ ต้องขอลา
เสียงขันหมาก เศรษฐี คนมีมั่ง
แทบบ้าคลั่ง หัวใจ ไร้หรรษา
เขามีสุข ทุกข์คือเรา เคล้าน้ำตา
วันวิวาห์ น้ำสังข์ รดหลั่งริน
ได้แต่มอง ดูเขา เดินเข้าหอ
ก็หวังขอ อย่าให้ ใครติฉิน
รักของเรา เขานั้น มันชาชิน
จึงต้องกิน น้ำตา แสนอาลัย
เพราะไม่มี เงินทอง จะลองแข่ง
เขาชิงแต่ง เศรษฐี ดีไฉน
ขอขมา ที่ล่วงเกิน จงเดินไป
สู่ห้วงใน แดนสวรรค์ ทุกวันคืน
ส่วนเรานี้ ขออยู่ อย่างผู้แพ้
ด้วยรักแท้ ปี้ป่น สุดทนฝืน
อยากจะลืม ความช้ำ แสนกล้ำกลืน
คงยั่งยืน อยู่ใน หัวใจเรา
2 ตุลาคม 2550 09:03 น.
เบรฟฮาร์ท
เดือนเจ้าเอ๋ย เคยอยู่ เป็นคู่ขวัญ
ไยทิ้งฉัน ให้ตรม ระทมหมอง
ลืมบ้านไร่ ปลายนา ปูปลาคลอง
ยามน้ำนอง ว่ายเล่น ชื่นเย็นทรวง
จำได้ไหม คืนวัน อันแสนหวาน
เปรียบน้ำตาล ปานว่า มาจากสรวง
ลืมสิ้นรส หมดแล้ว แคล้วทั้งปวง
แม่พุ่มพวง ปราถนา หนีหน้าเทียว
ก่อนเจ้าไป บางกอก ยังบอกว่า
จงรอท่า แต่ไฉน ไม่แลเหลียว
ปล่อยฉันคอย แลหา หน้าซีดเซียว
เหมือนดั่งเคียว คอยข้าว ปวดร้าวใจ
ลืมแล้วหรือ เพลงบอก บางกอกเล่า
จะทำเจ้า โศกา น้ำตาไหล
ด้วยหลอกลวง ดวงตา จนอาลัย
เพราะหลงไป เพลิดเพลิน จนเกินพอ
จงกลับมา หาฉัน นั้นดีกว่า
คนบ้านป่า น่าไร่ ฤทัยหนอ
มิเคยหลอน หลอกเจ้า ยังเฝ้ารอ
มาร่วมหอ สร้างสรรค์ กับฉันเอย