17 ธันวาคม 2546 21:37 น.
เบนนี่
- ขอให้เราจากันด้วยดีเถอะนะ
ฉันไม่อยากตกอยู่ในความรู้สึกที่แย่ๆแบบนี้อีกเลย
17 ธันวาคม 2546 21:30 น.
เบนนี่
ทุกวันนี้ เพื่อน ก็เปลี่ยนไป ฉันไม่ได้ติดต่อกันเลย เพราะเขาคิดอยู่ตลอดเวลาว่าฉันกับเธอคบกันอยู่ เพราะเขาไม่เคยเชื่อใจฉันเลย น้อยใจมาก ฉันเลยขอไม่พูดดีกว่า พูดไปก็ไม่เชื่อ แล้วฉันจะพูดเพื่ออะไร
เราห่างกันมาตั้งนาน ตั้งแต่พวกเราเรียนจบ
เพื่อนฉันก็ยังคงอยู่ที่เดิม หางานทำที่กรุงเทพฯ
ส่วนฉันก็กลับมาอยู่บ้าน ที่ต่างจังหวัด เธอก็กลับไปทำงานที่บ้านเธอ
แต่วันนี้ ฉันคนที่ใครๆที่คิดว่าฉันเป็นคนดี ฉันไม่เหมือนเดิม จากคนที่เคยรักมั่นคงกับเขาคนนั้น ฉันเปลี่ยนไปแล้ว ( ไม่ใช่เลิกรักเขานะ ยังรัก แต่มันเป็นไปไม่ได้ เท่านั้นเอง )
ฉันมีคนมาชอบมากมายหลายคน ฉันไม่เคยตัดสินใจว่าจะคบใคร เพราะไม่มีใครที่จะรักฉันจริงๆสักคน เขาเพียงต้องการมาจีบฉันก็เท่านั้น ( เผื่อฟลุ๊กว่างั้นเถอะ )
เพราะหน้าตาของฉัน ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร จัดว่าพอใช้ได้คนหนึ่ง
ฉันขออยู่เงียบๆ แบบนี้ดีแล้ว เธอเลิกรอฉันเถอะ เพราะผู้หญิงหัวสูงคงไม่มองคนอย่างเธอหรอก เพราะเวลานี้ สังคมทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันไม่สามารถแม้แต่จะเลิกอะไรด้วยตัวเอง
แม้แต่ความรัก ฉันอาจจะต้องแต่งงานกับใครเพราะหน้าที่การงานของฉัน เพราะงานของฉันตอนนี้มันไปได้ดี ถ้ามีแฟนตอนนี้ งานฉันอาจจะหมดไปก็ได้ เพราะเวลาฉันมันหมดไปกับการทำงานซะมากกว่า
แม้แต่เวลากินนอน ฉันยังไม่มี ต้องอาศัยนอนบนรถ ดียังมีคนขับรถให้นั่ง ไม่งั้นคงแย่ เวลากินยังต้องคุยเรื่องงาน และก็งาน
ตอนนี้ก็มีคนมาชวนฉันไปเล่นการเมือง ฉันยังตัดสินใจอยู่ เพราะฉันไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าไม่ไปสายการเมือง ฉันก็ต้องเป็นนักกฎหมายเหมือนเดิม ฉันเบื่อกับชีวิตตอนนี้ มันไม่เป็นตัวเอง คงเพราะอายุฉันมันยังน้อยเกินไปที่จะมาอยู่จุดนี้
ตอนนี้เธอรู้บ้างไหม ว่าฉันอึดอัดใจมากแค่ไหน ?
จากที่เคยมีเธอเป็นที่ปรึกษา ตอนนี้ฉันต้องตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองหมดทุกอย่าง เพราะฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธออีก..
กับเพื่อนๆ ฉันก็หายหน้าไป เพราะฉันไม่สามารถถอยหลัง ไปเป็น ยายม้าดีดกระโหลก ยายม้าศึก หรือยายแก้วหน้าม้า หรืออีกอะไรหลายอย่างที่เพื่อนตั้งให้
ฉันต้องวางตัว ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ ต้องออกงานสังคมบ่อยๆ จะมาทำเป็นเล่นเหมือนเด็กๆไม่ได้อีกแล้ว.
งานหนัก จนบางครั้งไม่สบายหนักมากๆ..
ทั้งๆที่ร่างกายฉันมันก็ไม่แข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอก็รู้ดี ในชีวิตฉันไม่เคยห่างหมอเลย
จนเพื่อนๆบอกว่าฉันน่าจะเรียนเภสัชฯมากกว่าที่จะเรียนกฎหมาย
แต่ความเป็นเพื่อนเรายังให้เธอได้เหมือนเดิม.
แต่อาจไม่เท่าเดิม.
ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้กับฉัน ทุกวันนี้เธอก็ยังคงรอฉันอยู่ ฉันไม่เคยนับเธอรวมกับพวกที่มาจีบฉัน
เวลาที่มีคนมาถาม ฉันไม่เคยนับเธอเป็นหนึ่งในตัวเลือกของฉันเลย.
ฉันไม่ต้องการให้ใครมาเป็นตัวเลือกของฉัน..
และไม่ต้องการเป็นตัวเลือกของใครเหมือนกัน ฉันต้องเป็นที่หนึ่ง..ไม่ใช่ซิ
ถ้าเรียกกันให้ถูกต้อเป็นคนเดียว ไม่ใช่ที่ 1 เพราะที่ 1 ก็ต้องมีที่ 2 ตามมา..
เธอเคยรู้บ้างไหม ???
มีผู้ชายที่เสียใจ เพราะฉันไม่รัก และไม่เลือกเขา ฉันเลือดเย็นมากใช่ไหม ??ที่ปฏิเสธทุกคนที่รักฉัน แต่กลับไปรักคนที่ ไม่รักฉัน
ฉันเหมือนคนโง่..ตอนนี้ฉันอาจจะกำลังตกเป็นตัวเลือกของใครคนหนึ่ง.
ไม่ใช่ตัวเลือกซิ.ตัวสำรองต่างหากถึงจะถูก หรืออีกอย่าง ก็คือมือที่ 3 นั่นเอง
ฉันเลวมากใช่ไหม ? ฉันตั้งใจจะถอนตัวตั้งหลายครั้ง ถ้าเขาเลิกตอแยฉัน ฉันไม่อยากทำร้ายผู้หญิงเหมือนกัน.
ฉันรู้มันผิดมาก ผิดอย่างไม่หน้าให้อภัยเลยด้วยซ้ำ..
แต่ผู้หญิงคนนั้นเขาต้องทน เพราะความรัก ฉันคบกับเขา ไม่ใช่เพราะรัก แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ??คงเพราะงานอีกนั่นเองมั้ง ??
ฉันรู้ เขาไม่ได้มีแค่ผู้หญิง 2 คน อาจจะเป็น สิบ เท่าที่รู้..ก็มากพอแล้ว
ฉันเองก็มีตัวเลือกไว้มากเหมือนกัน
แต่ฉันคงไม่มีวันรักเธอได้ ฉันมีคนอื่นแล้ว ไม่ใช่คนเดียวด้วย ฉันเปลี่ยนไปมากไม่ดีเหมือนเดิม เราเพราะเด็กคนที่เคยใสซื่อคนเดิม ตายไปนานแล้ว เหลือเพียงผู้หยิงโง่ๆ หลายใจ ไม่เลือกใครสักคนสักที
เลิกรักฉันสัก นี่คือคำร้องขอ จากผู้หญิงโง่ๆคนหนึ่ง..
อย่ารอกันเลย มันเป็นไปไม่ได้ อย่าทำดีกับฉันอีก.
รู้ทั้งรู้ฉันใจอ่อน
อย่าใจดีนัก หัดทำตัวเป็นผู้ร้ายบ้างก็ได้
อย่าเป็นสุภาพบุรุษอีกเลย
คงไม่มีใครที่จะรอกันได้ตลอดชีวิต
ถ้าเธอต้องรอฉันตลอดชีวิตฉันคงจะบาปมาก
เธอเคยพูด ว่า
17 ธันวาคม 2546 21:19 น.
เบนนี่
แล้วยิ่งตอนนี้เพื่อนฉันกลับมารู้อีกที ว่าเธอรักฉัน.
เธอรู้ไหม ฉันไม่ได้รู้สึกดีเลย จากความรู้สึกเฉยๆกลับเกลียดเธอขึ้นมาทันที ฉันไม่รู้ว่าเธอต้องการอะไร ฉันสับสนมาก
ตอนแรกที่ฉันรู้ว่าเธอคบกับเพื่อนฉัน ฉันทั้งดีใจ และเสียใจไปพร้อมกัน
1 ที่ดีใจเพราะ..คนที่ฉัน 2คนรักกัน ฉันดีใจด้วย ที่เพื่อนรักของฉัน 2 คนรักกันฉันดีใจด้วย..
2 ที่เสียใจเพราะ ฉันกลายเป็นคนโง่ๆที่ไม่รู้ ว่าเธอคบกัน ทั้งๆที่ฉันอยู่กับเพื่อนของฉันเกือบตลอดเวลา แต่ไม่เคยเฉลียวใจเลยว่าเธอ 2คนรักกัน
เพื่อฉันเคยถามฉันเสมอนะ ว่าฉันคิดยังไงกับเธอ ฉันก็ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า
ก็ชอบนะ แต่ไม่ใช่แบบนั้น!!!
แต่การตีความของคนมันไม่เหมือนกันฉันเข้าใจ ที่ไม่อธิบายเลย ว่ามันเป็นยังไงจนเพื่อนๆแซวว่าฉันกับเธอรักกัน ฉันก็เลยนึกสนุก ปล่อยให้เพื่อนๆล้อกันไป ฉันยิ่งสนุกใหญ่โดยไม่เคยคิดถึงคนข้างๆว่าเขาก็รักเธอ จนกระทั่ง มารู้ว่าคนใกล้ 2 คนรักกันนับแต่นั้น ฉันตัดสินใจเลิกเกี่ยวข้องกับเธอ เพราะใครๆกลับคิดว่าฉันอกหัก
เปล่าเลย ฉันไม่เคยรักเธอ แล้วฉันจะอกหักได้ยังไง หน้าตาก็งั้นๆ
ฉันมันพวกผู้หญิงหัวสูง ไม่ได้มองที่นิสัย คนที่ฉันจะรักได้ ต้องดูดี
ยอมรับนะว่าฉันก็ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เธอคิดหรอก เลิกรักฉันเถอะ อย่ารอฉันอีกเลย
นี่มันก็นานมากแล้ว ที่เราไม่ได้ติดต่อกัน
ฉันเคยแกล้งเธอต้องหลายครั้ง ใช้งานเธอทุกอย่าง ให้ช่วยทำนู่นทำนี่ มีแต่เรื่องให้เธอช่วยอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน เรื่องงาน ฉันมักจะใช้เธอให้ทำแทนโดยไม่คิดเลย ว่าเธอเต็มใจไหม ??
17 ธันวาคม 2546 21:05 น.
เบนนี่
เธอออกไปจากชีวิตฉันสักที.
นี่คือคำพูดที่ฉันมักพูดกับเธอเสมอๆ ไม่รู้เพราะอะไร ทั้งๆที่เธอทั้งรักและดีกับฉัน
มันอาจเป็นเพราะฉันมันโง่เกินไปก็เป็นได้..
ฉันอยากบอกกับเธอ ว่าฉันไม่เคยสักนิด ที่คิดจะรักเธอ เธอไม่เคยมีความสำคัญกับฉันเลยแม้สักนิดเดียว ขอโทษนะ ที่ต้องพูดความจริง เพราะฉันไม่ต้องการทำร้ายใครอีกต่อไป
เรื่องของเรา 2 คนมันเป็นไปไม่ได้ เพราะอะไรเธอน่าจะรู้แก่ใจ ฉันไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรของเธออีก ไม่อยากแม้กระทั่งได้ยินเสียง หรือใครพูดถึงเรื่องของเธอ ฉันเสียใจมามากแล้ว.
ฉันเสียเพื่อนที่ฉันรักมากที่สุดไปแล้วฉันไม่อยากโทษเธอนะ ว่าเป็นความผิดของเธอ แต่มันเป็นความผิดของฉันคนเดียวที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นแบบนี้
ฉันเคยชอบเธอนะแต่มันไม่ใช่ความรักแบบชู้สาว แต่มันเป็นความรักแบบเพื่อนที่มอบให้กันเท่านั้นเอง
เพราะความผิดของฉัน ที่ทำให้เธอคิดว่าฉันรักเธอ ฉันไม่เคยแม้แต่จะพูดว่ารักเธอ หรือคิดที่จะรักเธอ
ฉันแค่นึกสนุกเท่านั้นเองที่ใครๆก็คิดว่าฉันชอบเธอ จนปล่อยให้เรื่องทุกอย่างมันแย่ลง
ตั้งแต่เรารู้จักกัน ฉันรู้สึกดีมากๆที่ได้พูดคุยกับเธอ เพราะเราสองคนมีอะไรๆที่คล้ายๆกัน จนฉันเลยคิดไป ว่าฉันก็รักเธอ ทั้งๆที่ฉัน รักคนอื่นอยู่ เธอก็รู้ แต่เธอคิดว่าฉันไม่ได้รักเขาจริงๆ มันเป็นแค่ความรัก ลวงๆ แต่เปล่าเลย ฉันยังคงรักเขาอยู่จนทุกวันนี้ ฉันไม่เคยลืม ไม่รู้เหมือนกันเพราะอะไร
เธอทำให้ใครๆคิดว่าเรารักกัน แม้กระทั่งตัวฉัน ก็คิดไปว่าเธอรักฉัน
จนกระทั่ง.
ฉันมารู้เป็นคนสุดท้าย ว่าเธอกำลังคบกับเพื่อน คนที่ฉันรักมากที่สุด เพื่อนคนเดียวที่ฉันไม่เคยแม้แต่จะโกหก ไม่แม้แต่จะทำร้ายเขา
แต่ฉันเหมือนคนโง่ โง่ที่สุด ที่คนที่เรารัก 2 คน ไม่มีแม้แต่ความจะไว้ใจ ที่จะบอกกับฉัน จนกระทั่งฉันมารู้เอง..แถมเพื่อนๆทุกคนมาปิดบังฉัน
ฉันเหมือนโดนหรอก เธอรู้บ้างไหม ?
ไม่มีใครเคยทำให้ฉันต้องเสียหน้ามากเท่านี้มาก่อน
ไม่ใช่เพราะฉันรักเธอนะ
แล้วเพื่อนคนที่ฉันรักมากที่สุด ก็มาทำกันแบบนี้ เธอ 2 คนเคยรู้บ้างไหมว่าฉันเสียใจมากแค่ไหน ที่เสียเธอ 2 คนไปพร้อมกัน
ความไว้ใจที่ฉันเคยมีให้เพื่อนถูกเปลี่ยนแปลงไป แต่ฉันก็ยินดีด้วยที่เธอสองคนรักกันและคบกัน และฉันก็ไม่เคยเขาไปยุ่มย่ามเรื่องของเธออีกเลย.เพราะว่าฉันยังมีคนที่ฉันรักเขามาเสมอๆ
จนกระทั่งเธอเลิกกับเพื่อนฉัน..
ฉันไม่อยากรับรู้ ไม่อยากใส่ใจ เพราะฉันคิดว่า ฉันไม่ได้มีความหมายอะไรกับเธอ 2 คนอีก เพราะเธอ 2 คนมองข้ามฉันไปแล้ว
แล้วมาในวันนี้ เธอกับบอกใครต่อใครว่าเธอรักฉัน..
เธอเคยรู้บ้างไหม?
เธอกำลังทำร้ายผู้หญิง 2 คนอยู่ !!!!
เพื่อนของฉัน เขายังลืมเธอไม่ลง ปากอาจบอกว่า เธอไม่ได้มีความสำคัญกับเพื่อนฉันอีกแล้ว ปากพูดแบบนั้น แต่สายตา มันโกหกฉันไม่ได้หรอก
เขาอาจโกหกคนทั้งโลกว่าลืมเธอได้แล้ว.
แต่เขาไม่สามารถโกหกตัวเองได้
บ่อยครั้งฉันสังเกตว่าเพื่อนของฉันดูเหงาๆไป ที่ขาดเธอ.ตั้งแต่วันที่เธอย้ายออกไปอยู่ที่อื่น
3 ตุลาคม 2546 00:47 น.
เบนนี่
ฉันจำได้อย่างหนึ่ง เหตุผลที่ฉัน อคติกับผู้ชายและตั้งข้อรังเกียจ คิดว่าโลกใบนี้หาผู้ชายดีๆไม่ได้ ก็คือมีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งของฉัน ฌะอชื่อจูน จูนเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่าง มีคนมารักมากมาย แต่กลับไปรักผู้ชายอยู่คนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งรู้จักไม่นาน ตอนแรกจูนแค่เพียงจะหรอกเล่นๆ ไม่จริงจังเพราะเขาไม่หล่อ ไม่ใช่เสป็ค ก็คบกันอยู่พักหนึ่ง จูนเริ่มเปลี่ยนไป แล้วมาวันหนึ่งจูนก็บอกกับฉันว่าเขารักผู้ชายคนนั้น เพราะเขาดูแลห่วงใยเอาใจใส่ และเข้ากับผู้ใหญ่ที่บ้านของจูนได้ดี คงเป็นเพราะว่าเขาอายุห่างกับจูนมาก เลยดูเป็นคนอบอุ่น จนกระทั่งจูนปฏิเสธผู้ชายทุกคนที่มาชอบ ปิดกั้นตัวเองรักแต่ผู้ชายคนนั้น จนฉันเองแอบยังอิจฉาผู้ชายคนนั้นเลย เพราะเขาสามารถเอาหัวใจของเพื่อนฉันไปครอบครองได้ ฉันก็หมดห่วงไป
จนกระทั้งวันหนึ่ง...ฉันเห็นจูนมาหาฉันในสภาพที่ไม่น่าดูเลย ดูโทรมมากจนฉันจำแทบไม่ได้ ขอบตาเขียวคล้ำ ดูผอมไปถนัดตา ดูไม่สวยสมกับที่เป็นดาวโรงเรียนเลย เขามาหาฉันพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าใบหนึ่ง เขาก็เริ่มเล่าเรื่องให้ฉันฟัง.....
เราาจะทำไงดี ? ไม่รู้จะปรึกษาใคร เราก็เลยนึกถึงตัวเป็นคนแรก น้ำตาของจูนก็เริ่มไหล ฉันก็เลยหยิบกระดาษทิชชู่ ที่วางอยู่ข้างๆแล้วส่งให้เขา เขาก็เริ่มเล่าเรื่องให้ฟัง
เราจะเลิกกับพี่บอลแล้วนะ เราไม่อยากถลำตัวถลำใจมากไปกว่านี้ฉันก็เลยถามเหตุผลว่าทำไม
เราเพิ่งรู้ว่าพี่บอลมีเมียอยู่แล้ว มีลูกแล้วด้วยคนหนึ่ง ในท้องยังมีอีกคน 5 เดือนแล้วฉันถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูก จูนก็เริ่มร้องไห้
อย่าเพิ่งร้องสิ ถ้ามัวแต่ร้องแล้วเมื่อไหร่จะรู้เรื่องกันหล่ะ เค้าไม่เคยเห็นตัวเองเป็นแบบนี้เลยนะฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี ฉันก็เลยจับมือของจูนไว้อย่างหลอมๆ แล้วฉันก็จูงมือของจูนแล้วพาออกกันออกมานั่งคุยกันที่ซุ้มดอกเฟื้องฟ้าหลังบ้าน
เราไม่อยากกลับบ้าน ขออยู่ที่นี่สักพักนะ ถ้ากลับบ้านไป พี่บอลเขาต้องไปหาที่บ้านแน่เลย เราไม่อยากเจอเขาเราทำใจไม่ได้ เรารักเขามาก มากกว่าตัวเราเองด้วยซ้ำฉันได้แต่พยักหน้า จูนก็เริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง...
อย่าเพิ่งเบื่อ เรื่องของจูนยังมีต่อ เป็นอุทาหรณ์ไว้สอนใจผู้หญิงหลายๆคนนะคะ