12 พฤษภาคม 2548 22:17 น.
เบญจามิณ
คุณเคยไหม?.....รักใครสักคน รักซะจนคิดว่า คน ๆ นี้ เป็นคนที่เราฝากชีวิตไว้ได้ รักซะจนยอมให้ได้ทุกอย่าง.....รัก...จนเกิดคำว่าผูกพัน อยากเจอ อยากที่จะอยู่ด้วยตลอด ไปดูหนังด้วยกันทุกอาทิตย์ ไปกินข้าวด้วยกันเกือบทุกมือ ช่วยกันติว ช่วยกันเรืยน ช่วยกันทำงาน (ช่วยกันใช้เงินด้วยหรือเปล่า)
คุณเคยไหม?.....ถูกคนที่คุณรัก(ในข้อแรก)หักหลัง มีคนอื่น.....นอกใจ และทำให้เราเจ็บใจเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ หรือคำพูด เขาหายจากคุณไปเฉย ๆเป็นเดือน ๆ โดยไม่ติดต่อกลับมาเลย และติดต่อไม่ได้ (หรือติดต่อไม่แต่ไม่อยากติดต่อ) ไม่บอกอะไรเลย ว่าไปไหน ไปทำอะ แต่....ที่ได้รู้มาคือเขามีคนใหม่
แล้วคุณเคยไหม?....ให้อภัยคนที่ทำให้คุณเจ็บใจ(ในข้อที่สอง) นับครั้งไม่ถ้วน โดยการที่เขากลับมาเฉย ๆ....ทำดีกับเรา เหมือนอย่างเคย เหมือนวกันเก่า ๆ ที่เขายังไม่มีใคร ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีคำบอกรัก ไม่มีคำอธิบายกับเรื่องที่เกิดขึ้น.....และคุณก็ยังยอมให้เขากลับมา
คุณเคยไหม?....ที่นึกอยากจะหนีหายไปจากเขาเฉย ๆ (คนที่เขากลับมาขอคืนดีนั่นแหละ) ไม่อยากติดต่อ เปลี่ยนเบอร์ (แต่เขาก็รู้ได้ทุกที ไม่รู้ทำไม) ไม่อยากเจอ ไม่อยากเห็นหน้า เผารูป ร้องไห้ บ้า อาละวาด อยู่คนเดียว ตัดใจอยู่คนเดียว ตั้งใจอยู่คนเดียว...เราต้องเลิกกับเขาให้ได้......แต่สุดท้ายก็ทำไม้ได้ ต้องโทรกลับไปหาเขา และโดยที่ไม่มีคำถามใด ๆ จากเขาว่า...เราหายไปไหนเป็นเดือน ๆ ไม่มีคำรัก ไม่มีคำคิดถึง ไม่มีคำห่วงใย แต่...คุณก็กลับไป(รักกับเขา)เหมือนเดิม
คุณเคยไหม?....คบกับใครเหมืนอไม่ได้รักกัน (คนที่คุณเคยรักมากในข้อแรกนั่นแหละ)....เดือน..2 เดือน..โทรคุยกันครั้งนึง เจอกัน ครั้งนึง ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างมีชีวิตของตัวเอง ต่างคนต่างเรียน (คนละจังหวัด) ต่างคนต่างมีความฝันและอนาคตของตัวเอง คุณไม่มีความคิดที่จะฝากชีวิตไว้กับใครอีกแล้ว นอกจากตัวเองและทำชีวิตของตัวเองให้ดีที่สุด
แล้วเคยไหม?.....เวลาโทรคุยกัน หรือเจอกันกับเขา (คนที่ไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกันทีเป็นเดือน ๆ นั่นแหละ) ไม่เคยมีคำรัก ไม่เคยมีคำหวาน ไม่เคยมีคำว่าคิดถึง และไม่เคยมีคำถาม ว่าเป็นยังไงสบายดีไหม โทร...คุยกัน (เปล่ามั้ง....ถือสายไว้เฉย ๆ ได้เป็นชั่วโมง ๆ ไม่พูดอะไรนอกจากฮัลโหล) ก็เหมือนว่าไม่ได้คุยกัน...พูดแต่เรื่องจิปาถะไร้สาระ ดินฟ้าอากาศ การเมือง (เกี่ยวกันไหมเนี่ยการเมืองเนี่ย) เจอกัน....ไปดูหนังด้วยกัน (หลับในโรงหนังมากกว่ามั้ง) ต่างคนต่างดู ต่างคนต่างกินปอร์ปคอร์น ต่างคนต่างนั่ง (ไม่มีพิง ไม่มีซบ ขนาดหนังผีสยองขวัญ ยังต้องใช้มือตัวเองปิดเลย แถมยังโดนแกล้งถูกดึงมือออกอีกต่างหาก) กินข้าว....ต่างคนต่างกิน (แย่งกันกินมากกว่ามั้ง กุ้งทั้งหมด 5 ตัว คุณจะกินหรือยังไม่รู้ แต่เขากินไปหมดแล้ว) ช๊อปปิ้ง ต่างคนต่างเดิน คุณอยากดูเสื่อผ้าก็ดู แต่เขาอยากดูเครื่องเสียงก็ไป (แล้วก็ต้องกลับมานั่งรอที่รถเป็นชั่วโมง ๆ ) เฮ้อ
คุณเคยไหม?......เคยเป็นอย่างนี้บ้างไหมในชีวิต (ลองสิ ได้รสชาติแปลกใหม่ของชีวิต) แต่ทุกวันนี้คุณก็ยัง...คบ...กับเขาอยู่ เพราะความรัก ( 10% ) และความผูกพัน ( 90% ) แต่จะว่าไปแล้ว เขาคนนั้นของคุณก็ เป็นคนดีขึ้นนะ (คือเลิกพฤติกรรมในข้อสอง ไม่นอกใจ ไม่มีใคร)
ถ้าคุณเคย....ณ วันนี้คุณจะยังอยู่กับเขาไหม? (ลองตอบเล่น ๆ ดู)
แต่ฉันเคย และ ณ วันนี้ฉันก็ยังอยู่กับเขา(คิดถูกหรือผิดว่ะเนี่ย) เฮ้อ.........เหนื่อยนะ จะบอกให้
1 กุมภาพันธ์ 2548 11:49 น.
เบญจามิณ
ตัวฉันเองคบผู้ชายมาหลายคน แต่ละคนก็แตกต่างกันไป ต่างวันเวลา และสถานที่
ระยะเวลาก็ต่างกัน 3 เดือน 9 เดือน หรือ 1 ปี อย่างน้อยที่สุด ก็ 3 วัน
(ไม่ได้ใจง่ายนะ ที่คบกัน 3 วันเนี่ย เขาขอคบดูใจ แต่ในเมื่อไม่ได้ชอบก็ปฏิเสธไป)
แต่ในระยะเวลา 3 ปีมานี้ ฉันได้....รัก....ผู้ชายคนหนึ่ง (ใช่คำว่ารักนะ ถูกแล้ว เพราะที่ผ่าน ๆ มาแค่คบ ไม่ได้รัก อย่างมากก็แค่ชอบ แรก ๆ ก็ยุ่ง ๆ วุ่น ๆ กันอยู่อ่ะนะ เพราะเขาชอบเพื่อนฉัน และฉันก็ชอบเพื่อนของเขา เราก็เลย เป็น พ่อสื่อ แม่สื่อของกันและกัน แต่แล้วสุดท้าย พ่อสื่อ แม่สื่ออย่างเราก็ได้เอง เฮ้อ เพื่อน ๆ ของฉันและเพื่อน ๆ ของเขาก็งง ไปตาม ๆ กัน
ในครั้งแรก ฉันชอบเขานะ เขาเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน เมื่อเทียบกับวัยรุ่นสมัยนี้ก็ ดีอยู่มากเลยแหละ ชอบเล่นกีฬาเป็นที่สุด (ลืมบอกไปที่เราเจอกันได้ก็เพราะกีฬาเนี่ยแหละ)
และฉันก็เริ่มที่จะรักเขาเพียงระยะเวลาไม่นาน เพราะเขาเอาใจเก่ง อารมณ์ดี ขี้งอน ขี้อ้อนนิด ๆ และอีกหลาย ๆ อย่าง เอาเป็นว่า ตรงสเป็กแหละ เราต่างรู้จักญาติของกันและกัน ทั้งพ่อแม่พี่น้องเขาและฉันก็รู้จักกัน (เป็นผู้หญิงเจออย่างนี้ ก็คิดแหละว่าเขารักเราจริง ๆ )
แต่พอไม่นาน เขาก็ออกลาย มีคนอื่น (เปลี่ยนเกือบทุกอาทิตย์ จริง ๆ นะ ไม่ได้โม้) ฉันจับได้ครั้งนึง เขาก็หยุดไปพักนึง แล้วก็มีใหม่ จนฉัน ท้อ ขอเลิกกับเขา แต่เขาไม่เคยยอมให้ฉันไปจากเขาเลยสักครั้ง เขาทำทุกวิถีทางให้ฉันอยู่ และฉัน ก็จำเป็นต้องอยู่ (แต่หัวใจบอกให้อยู่แหละ เพราะยังรัก)
คำสัญญาเขามีให้ฉันมาครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าจะไม่มีใคร ไม่เจ้าชู้ ไม่โกหก แต่รู้ไหม คำสัญญาก็ยังเป็นลมปากที่พูดออกมา เขาไม่เคยทำไม่เคยคิดจริงจังไม่เคยเลย
จนถึงตอนนี้ ก็เป็นเวลา 3 ปีแล้วแหละ ที่ฉันคบกับเขามา มันก็ยังซ้ำรอยเดิมอยู่อย่างนี้ บ่อย ๆ รักกัน ทะเลาะกัน เลิกกัน และ กลับมาคืนดีกัน
แต่ฉันก็ไม่เคยเข้าใจเขานะ ทุกครั้งที่ฉันขอเลิกกับเขา หายไปจากชีวิตเขาเป็นเดือน ๆ ที่บ้านเขาไม่เคยรู้ และมันเป็นเรื่องประหลาดมาก ที่ที่บ้านฉันรู้ว่าฉันเลิกกับเขามา เกือบ สองปีแล้ว แต่ที่บ้านของเขารู้ว่าฉันคบกับ เขามาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว
ตอนนี้ก็ทะเลาะกันอยู่ อาทิตย์นึงแล้วมั้งที่ไม่ได้คุยไม่ได้เจอกัน วาเลนไทน์นี้เขาจะไปเดทกับใคร ก็ไม่รู้แต่คงไม่ใช่ฉัน แต่ก็ช่างเถอะ ถึงเขาจะเจ้าชู้ ควงใครไม่ซ้ำหน้า แต่ก็มีแค่ฉันที่ซ้ำหน้าอยู่คนเดียว
จนทุกวันนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจเลยว่า ตกลงแล้วเขารักฉัน หรือเปล่า งง แต่อย่างน้อย ๆ ฉันก็รักเขาน่า
19 ตุลาคม 2547 17:05 น.
เบญจามิณ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีกบวิเศษตนหนึ่ง
อาศัยอยู่ในป่าซึ่งเป็นป่าดงดิบลึกลับ
ยากที่จะมีมนุษย์หรือสัตวชนิดใดเดินทางไปถึง
แต่แล้ววันหนึ่งกบวิเศษได้ยินเสียงสัตว์สองชนิดวิ่งไล่กวดกันมาอย่างเอาเป็น
เอาตาย
ที่แท้มันคือหมีตัวใหญ่กำลังไล่ล่ากระต่ายเจ้าเล่ห์เพื่อนำไปทำดินเนอร์ื้มื้อ
เย็น
กบวิเศษเรียกให้สัตว์ทั้งสองหยุดตอบข้อซักถามเพราะตลอดชีวิตของมันไม่เคยพบ
หมี
และกระต่ายวิ่งไล่กันมาก่อน
เจ้าทั้งสองวิ่งกวดกันแทบเป็นแทบตายเพราะเหตุใดหรือ' กบถาม
'มันจะจับข้าทำอาหาร' กระต่ายตอบลิ้นห้อยด้วยความเหนื่อย
'อ๋อเป็นเช่นนี้เอง เอาเถอะ อย่าทำร้ายซึ่งกันและกันเลย
เราจะให้พรวิเศษเจ้าตัวละ 3 ข้อ
หวังว่าคงจะช่วยลดความขัดแย้งลงได้
ทั้งหมีและกระต่ายรับคำด้วยความยินดี
เจ้าหมีเป็นฝ่ายขอพรก่อน
มันคิดอยู่เป็นนาที จึงกล่าวว่า
'ข้าอยากให้หมีทั้งหมดป่าแห่งนี้ยกเว้นตัวข! ้าเป็นตัวเมียทั้งสิ้น'
กล่าวเสร็จมันพลันตัวสั่นขนพองด้วยความสยิว
กลิ่นสาบสาวจากหมีตัวเมียฟุ้งไปทั่วป่า
กระต่ายผู้น่าสงสารของเพียงหมวกกันน็อกหนึ่งใบ
'เจ้ากระต่ายปัญญาอ่อนหน้าโง่'
ถ้ามันขอเงินสักพันล้านมันสามารถซื้อหมวกกันน็อกได้หลายล้านใบ
แต่ช่างเถอะ ไม่ใช่ธุระอะไรของเรา'
เจ้าหมีบ้าเซ็กซ์ขอพรข้อสองมันคิดอยู่นานสามนาทีก่อนจะกล่าวว่า
'ข้าปรารถนาให้หมีทุกตัวในป่าถัดไปกลายเป็นตัวเมียทั้งสิ้น'
กล่าวเสร็จตัวมันพลันน้ำลายไหลด้วยความสยิว
หมีตัวเมียเพิ่มอีกนับร้อยตัว
มันจะตั้งฮาเร็มหมี กระต่ายน้อยขอมอเตอร์ไซต์หนึ่งคัน
เมื่อได้สมปรารถนามันก็สวมหมวกกันน็อก
ขึ้นคร่อมและสตาร์รถทันที
หมีใหญ่ขอพรข้อสุดท้าย 'ข้าปรารถนาให้หมีทุกตัวในโลก
ยกเว้นตัวข้า กลายเป็นหมีตัวเมียทั้งสิ้น' โอ .. มันแทบจะรอไม่ไหวแล้ว
แต่แล้วมันถึงกับช็อค! เมื่อได้ยินกระต่ายน้อยขอพรข้อที่สาม
ก่อนบึ่งรถหนีไป
ข้าขอให้เจ้าหมีตัวนี้
เป็น................! ............................เกย์
15 ตุลาคม 2547 23:30 น.
เบญจามิณ
ไอ้ทิ หรือพ่อกะทิ
ชายหนุ่มโผงผางผู้กำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว พูดจริงทำจริง
ขยันขันแข็งเอางานเอาการ
เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควายส่งคนเข้าซอย
ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง
เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน
แม่แป้ง
ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่งสาวสวยประจำหมู่บ้าน
นางเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป
แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง
ซึ่งผู้ใหญ่ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอม
กลับไปบ้านนอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่จะใจอ่อน
ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรักของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
ไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมายจะมาทำลายพิธี
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้
แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์
ได้แต่ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้านแบบปากต่อปากว่า
... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
ของผู้ใหญ่ปลั่งต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที
อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ
อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6
นายของผู้ใหญ่ปลั่งรีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ
เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียงไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น
... รุ่งเช้า
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผล
ภาพเบื้องล่างพบไอ้ทิตระกองกอดทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข
เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรักที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี
ทุกแรมหกค่ำเดือนหก
ชาวบ้านที่ศัรทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้งจะตื่นตั้งแต่มืด
เข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ
บรรจงแคะจากพิมพ์ แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก
(ขนมของ "คนรักกัน" )
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."
7 ตุลาคม 2547 16:02 น.
เบญจามิณ
ลมหนาวผ่านไปแล้วนะ จบ ม. 6 แล้วไปต่อไหนดีนะ
เฮ้อ ! ปรางค์ทิพย์ถอนหายใจ แล้วปิดไดอารีข้างหน้าลง
แม่คะ ปิดเทอมหนูไปอยู่บ้านออมนะคะ หนูจะไปทำงานด้วย
จ้า แต่จะไปอยู่บ้านเค้าต้องเกรงใจเค้านะลูก
ค้า.. ปรางค์ทิพย์ลากเสียงยาว ด้วยความที่รู้ว่าปิดเทอมนี้จะไม่เบื่ออีกแล้ว
♪♪♫ รู้ความจริงบ้างไหม ว่าฉันแบบรักเธอมาเนิ่นนาน ♪♪♫
หยุดเลย ๆ ยางปรางค์ ร้องอยู่ได้เพลงนี้ เพื่อบปีแล้วนะแล้วร้องไม่เคยจบเลย
วนไปวนมาแต่ไอ้ท่อนแรกนี่แหละ
ออมสินบ่นด้วยความเบื่อหน่าย ก็ตั้งแต่ปรางค์ทิพย์มาอยู่บ้านเธอเป็นเวลา 3 อาทิตย์เขาฟังเพลงนี้เป็นร้อยรอบแล้ว
นี่จ๊ะ ต้มยำ โต๊ะ 5
เจ้าค่ะ คุณหญิงออม ปรางค์ทิพย์เดินไปเชิดไป ส่ายก้นไป ทำทีแหย่ออมสินเล่น
----- แต่แล้ว
ปรางค์ข้าง.
@@ โครม !
นี่คุณเดินให้มันดูตาม้าตาเรือบ้างซี่ เสียงทุ้ม ๆ แตกพร่า แต่มีเสน่ห์ ดังมาจากข้างหน้าปรางค์ทิพย์
ขอโทษค่ะ ทีหลังจะระวังให้มากกว่านี้ ปรางค์ทิพย์เริ่มหน้าเสียกับการทำผิดพลาดครั้งใหญ่ของเธอเอง และพยายามช่วยชายหนุ่มเช็ดรอบเปื้อนอย่างลุกลี้ลุกลน
ขอโทษน่ะมันหายไหม ! ผมน่ะคนนะไม่ใช่มดไม่ใช่ปลวก ถึงจะมองไม่เห็น เสียงทุ้มนั้นตอบกลับมาอย่างหัวเสียและมีอารมณ์เมื่อเสื้อผ้าของตนเปียกโชกไปด้วยน้ำต้มยำ
ก็บอกขอโทษ ก็คือขอโทษสิ ไม่เข้าใจหรือไง ไม่ได้ตั้งใจนะผิดด้วยเหรอ แล้วคนที่ไม่รู้จักคำว่าขอโทษนี่นะ เขาว่าไม่มีความรู้สึกไม่มีหัวใจ เรียกว่าคนเถื่อน รู้ตัวบ้างสิ
ปรางค์ทิพย์เหวใส่ทันที เมื่อเธอพยายามขอโทษและทำดีแล้ว พูดไม่รู้เรื่องก็ควรจะปล่อยให้มันตามอารมณ์อยากจะหาเรื่องของชายหนุ่มข้างหน้าต่อไป
พอเลยพอทั้งสองคนนั่นแหละ ไปหลังร้านเลยไปยายปรางค์
ออมสินเห็นท่าไม่ดีจึงต้องเข้าไปเคลียสถานะการขอโทษขอโพยชายหนุ่มเป็นการใหญ่ และก็ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยดี
@@@@@@____________________________________@@@@@@
ผู้ชายอะไรปากจัดชะมัด นี่ยายออมแกรู้จักนายนั่นด้วยเหรอ เห็นคุยกันต้องนาน
หญิงสาวบ่นอย่างไม่วายอารมณ์เสียกับเหตุการณ์การที่เพิ่งเจอไปหมาด ๆ
เขาชื่อวุธย่ะ ไม่ได้ชื่อนายนั่น แล้วแกก็เลิกบ่นได้แล้ว บ่นตั้งแต่เช้ายันบายระวังจะแก่นะโว้ย
เพื่อนของหญิงสาว บอกด้วยความหวังดีปนยวนโทสะของเธอ แต่ออมก็หารู้ไม่ว่าปรางค์ทิพย์ก็ยังบ่น พึมพำ ๆ อยู่ตลอดเวลา
@@@@@@____________________________________@@@@@@
เฮ้ย ! ไอ้อ๋ำ แกไม่ได้เข้าบ้านบ้างเลยหรือไงวะ เมื่อ 2-3 วันก่อนเด็กที่ร้านเอ็ง เดินเอาต้มยำมาชนข้า มิหนำซ้ำยังด่าข้าอีก
ชายหนุ่มได้แต่มาโวยวายกับเพื่อนตัวดีพี่ชายของออมสินอย่างหัวเสีย
เพื่อนยายออมมันโว้ย เห็นว่าชื่อมะปรางค์อะไรเนี่ยมั้ง อย่าไปใส่ใจเลยว่ะ
ทั้งคู่เริ่มพูดถึงใครบางคนทั้งที่หารู้ไม่ว่า เจ้าหล่อนยืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เขาเริ่มคุยกันแล้ว และไม่วายอีกนั่นแหละที่ เจ้าหล่อนจะโมโห
ขอโทษนะเจ้าคะ คุณทั้งสอง ถ้าจะนินทาคนอื่นกรุณาเบา ๆ หน่อยก็ได้ ไม่ต้องกลัวเขาไม่ได้ยินหรอก พ่อคนเถื่อน
แล้วคุณมาทำอะไรแถวนี้ล่ะ แม่ปากกรรไกร หรือว่าติดใจในความหล่อของผม เจ้าของฉายาคนเถื่อน โวยกลับมาแต่ทำท่าเป็นทีเล่นทีจริง แกมจะหยอกหญิงสาวที่ยืนอารมณ์เสียอยู่ข้างหน้าเสียมากกว่า
นี่เวลาพักของฉันย่ะ แล้วนี่ก็สวนสาธารณะ คุณคงไม่ได้ซื้อที่นี่ไว้นั่งเล่นคนเดียวล่ะมั้ง แล้วฉันก็ชื่อปรางค์ทิพย์ย่ะไม่ใช่ปากกรรไกร ออกเสียงเป็นหรือเปล่า ปราง ทิพย์น่ะ พ่อคนเถื่อน
หญิงสาวลากเสียงยาวเผื่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าไม่เข้าใจความหมาย แล้วเจ้าหล่อนก็เดินจากเขาไป โดยทิ้งให้ชายหนุ่มทั้งสองนั่งงุนงงกับสิ่งที่เธอทิ้งไว้
วุธ วุธ เฮ้ย ! ไอ้วุธ
เรียกทำไมวะ คนกำลังคิดหาวิธีแก้แค้นอยู่
แก้แค้นหรือจีบวะ ตางี้หวานเชียว โอ้ย!
อ๋ำร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือที่ทำเป็นมะเหงกเขกหัวเขาเข้าอย่างจัง ด้วยความมือไวของวุธ ที่เพื่อนตัวแสบของเขารู้ทันไปเสียทุกเรื่อง
@@@@@@____________________________________@@@@@@
โอ้ย สายแล้ว ๆ แม่คะ ทำไมไม่ปลุกปรางค์ละคะ
ปรางค์ทิพย์ ตะโกนลั่นบ้าน และรีบแต่งตัวอย่างพายุทอร์นาโด เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองสายในวันแรกของการเรียน ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ ปี 1 ทุกคนต้องทำความรู้จักกับพี่เทค หรือพี่ที่ต้องคอยเทคแคร์ปี 1 นั่นเอง
@@@@@@____________________________________@@@@@@
ปรางค์ ๆ ทำไมวันนี้มาสายล่ะ เสียงตะโกนเรียกมาแต่ไกล จะเป็นใครที่ไหนก็ออมสินนั่แหละเป็นคนเรียกหญิงสาว
ก็ฉันตื่นสายน่ะสิ
ยายปรางค์ ฉันมีข่าวดี และก็ข่าวร้ายจะบอก จะเลือกฟังอย่างไหนก่อนดีล่ะ
แน่นอน ก็ต้องข่าวดีก่อนน่ะสิ ปรางค์ทิพย์ตอบอย่างกระตือรือร้นอยากที่จะฟังข่าวดีจากเพื่อนของหล่อน
เราอยู่ห้องเดียวกัน ปรางค์ทิพย์ ดีใจจนลืมตัวกรี๊ดออกมาและกระโดดกอดเพื่อนของเธออย่างแรง
แต่ ! อย่างเพิ่งดีใจไป ข่าวร้ายน่ะจะฟังไหม
ก็รีบ ๆ บอกมาสิ รอฟังอยู่
คือว่า พี่เทคของเแกน่ะ ยังไม่ทันที่ออมสินจะพูดจบประโยค ก็ทำท่าเหล่สายตาเป็นนัย ๆ ให้ปรางค์ทิพย์ดูข้างหน้า โน่นไง มาพอดีเลย
ออมอย่าบอกนะว่า น้ำเสียงที่ดีใจและท่าทางกระตือรือร้นของหญิงสาวหมดไปทันทีที่เห็นว่าเป็นใครเดินมา
ใช่ มาเลยเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้รู้จัก คนขวาน่ะชื่ออ๋ำ พี่ชายฉันเอง เธอคงจะคุ้น ๆ หน้า แต่เขาไม่ค่อยได้เข้าไปที่บ้านเท่าไหร่ พี่คะนี่ปรางค์ค่ะ
สวัสดีค่ะ ปรางค์ทักทายด้วยเสียงใส ๆ แต่ไม่ค่อยจะราบรื่นนักของเธอ
สวัสดีครับ น้องปรางค์
ส่วนคนซ้ายเนี่ย.ชื่อวุธ. หรือ วรวุธ เสียงของออมสิน ขาด ๆ หาย ๆไปเมื่อเห็นเพื่อนสาวของเธอ ขว้างฆ้อนใส่เพื่อนพี่ชายของเธอจังเบอเร่อ
สวัสดีครับน้องปรางค์ รู้หรือยังครับผมเป็นพี่เทคของน้องปรางค์
สวัสดีค่ะ พี่เถื่อน ปางค์พูดทักทายเขาอย่างสะบัด ๆ และมองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยชอบพอเท่าไหร่นักที่เธอต้องอยู่ในความดูแลของเขา
@@@@@@____________________________________@@@@@@
หลังจากวันนั้น ทุก ๆ วันวุธจะมีของฝากมาให้ปรางค์เสมอ ทุก ๆ เช้า ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ ช็อกโกแลต ขนม ลูกอม และอื่น ๆ อีกหลายอย่างเท่าที่เขาจะสรรหามาให้ได้ แต่สิ่งที่ปรางค์ทิพย์ให้วรวุธคืนเพื่อแทนคำขอบคุณทุกวัน คือ หนู แมลงสาบ ไส้เดือน จิ้งจก หรือสัตย์ต่าง ๆ เท่าที่เธอจะหามาได้เช่นกัน ห่อและใส่กล่องอย่างดี ทำเอาเพื่อนของชายหนุ่มเข็ดขยาดไปตาม ๆ กัน
เฮ้ย ! วุธ ถ้าข้ามีน้องเทคอย่างเอ็ง ข้าว่าข้าคงโชคร้ายตลอดชาติแน่ ๆ ว่ะ นายโยเพื่อนของเขาโวยเมื่อเห็นแมลงสาบในกล่องของขวัญวันนี้ที่เขาเพื่งได้มา
เอ็งจะทนได้สักกี่น้ำวะ
ข้ากำลังสร้างความประทับใจอยู่โว้ย เดี๋ยวคอยดูวันที่ 14 กุมภาซะก่อนพวกเอ็ง ชายหนุ่มตอบเพื่อนของเขาอย่างมีเลศนัย กับรอยยิ้มที่มุมปาก
ไหนแกบอกข้าว่าจะแก้แค้นไง แล้ววันนี้จะเอจริง ๆ เหรอไงวะ แต่ดูจากแมลงสาบที่ยังเดินยั้วเยี้ยอยู่เนี่ยบอกได้เลยนะโว้ยว่ายายปรางค์อะไรของแกเนี่ย ขาโหดแหงเลยวะ อ๋ำพูดออกมาอย่างที่เล่นทีจริงพร้อมทำท่าขยะแขยงแมลงสาบที่เห็น ๆ กันอยู่ในกล่อง
ขาหง ขาโหด แก้แค้นอะไรข้าไม่สนว่ะ คนเนี้ยข้าจริงใจโว้ย
แล้วชายหนุ่มก็เดินจาก ไปทิ้ง ระเบิดความแปลกใจลูกใหญ่ให้เพื่อนของเขานั่งงงเป็นไก่ตาแตก
แล้วนี่มันจะไปหา ยายปรางค์อีกเหรอวะเนี่ย ข้าไม่เชื่อจริง ๆ เลยว่ะว่า จอมเจ้าชู้อย่างมันจะมาหยุดอยู่ที่ยายเด็กพิเรนนั่น
@@@@@@____________________________________@@@@@@
เมื่อ 14 กุมภา เวียนมาถึง
เช้านี้ของปรางค์ทิพย์ ทำให้เจ้าหล่อนแปลกใจอย่างยิ่งกับกุหลาบช่อใหญ่ที่วางไว้อยู่บนโต๊ะอาหารที่บ้าน พร้อมการ์ดซึ่งมีข้อความ ว่า ให้แด่คนที่รัก แต่ไม่มีชื่อผู้ส่ง เมื่อมาถึง มหาวิทยาลัยปรางค์ทิพย์ก็เข้ามาขอบอกขอบใจทันที เรื่องดอกไม้ที่ออมส่งให้เธอ
เฮ้ยไม่ใช่ของฉันซะหน่อย คบกันมาตั้งกี่ปีฉันเคยทำอะไรบ้า ๆ อย่างนั้นเมื่อไหร่ล่ะ เสียงออมสินรีบปฎิเสธแทบจะทันทีทันใด
ใช่ครับไม่ใช่ของ ออมหรอก เสียงหนึ่งดังมาข้างหลังไม่ต้องหันกลับไปดูก็รูว่าเป็นใคร และก็ทำให้เธอทั้งสองแปลกใจอย่างมากเมื่อ เจ้าของเสียงนั้นบอกว่าช่อกุหลาบนั้นเป็นของเขาเอง
พี่น่ะ ชอบปรางค์มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เดินชนปรางค์ที่ร้านของออมนั่นแหละ แต่ไม่กล้าบอกหรอก เกิดพี่บอกไปแล้วปรางค์ไม่สนใจพี่ พี่ก็คงไม่รู้จะทำหน้ายังไงน่ะสิ
นี่นายคนเถื่อน อย่ามาพูดอะไรพล่อย ๆ ล้อฉันเล่นนะ ถ้าจริงจังก็พิสูจน์กันหน่อยไหมล่ะ เห็นสระน้ำข้างหน้าไหม โดดลงไปแล้วว่ายข้ามไปอีกฝั่งสิ ถ้าทำสำเร็จจะรับไว้พิจรณา
ปรางค์ทิพย์พูดด้วยความโกรธอย่างมากแต่เธอหารู้ไม่ว่า เขาว่ายน้ำไม่เป็น ยังไม่ทันที่ออมสินจะได้พูดอะไร วรวุธก็กระโจนลงไปและทำท่าตะเกียดตะกายอยู่ในสระน้ำเสียแล้ว
ยายปรางค์ เธอลงไปช่วยพี่เขาเดียวนี้เลยนะ พี่เขาว่ายน้ำไม่เป็น ออมสินพูดพร้อมกระโดดลงไปเป็นคนแรก
หลังจากนั้นเธอทั้งสองก็ช่วยกันนำวรวุธขึ้นมาได้อย่างทุลักทุเล
พี่วุธ ปรางค์ขอโทษค่ะ ปรางค์ไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่ว่ายน้ำไม่เป็น ความจริงแล้วปรางค์น่ะชอบพี่มาตั้งนานแล้วค่ะ จำได้ไหมช่วงเดือนกันยาเมื่อปีก่อน มีอยู่วันนึงฝนตกปรางค์เห็นพี่เก็บลูกแมวข้างถนนที่เนื้อตัวเปียกปอนไปด้วยน้ำและหนาวสั่น ขึ้นมากอดโดยไม่กลัวเลยว่าเสื่อของพี่จะเลอะหรือเปียก ทั้ง ๆ ที่พี่ต้องเรียน แล้ววันที่ปรางค์ชนพี่ที่ร้านน่ะ ปรางค์ตั้งใจค่ะ แต่พอดีมันหลุดมือไปนิดแล้วก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ด้วยเลยแสดงท่าทางแบบนั้นไป ขอโทษนะคะ
ดีใจจังที่ปรางค์ มีความรู้สึกเหมือนผม
วรวุธนอนหอบอยู่บนตักของปรางค์ทิพย์ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองคนทั้งสองอย่างอิจฉา
♪♪♫ รู้ความจริงบ้างไหม ว่าฉันแบบรักเธอมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่ที่เราพบกัน ก็ใฝ่ฝันเรื่อยมา ♪♪♫