30 เมษายน 2553 16:01 น.
เที่ยนหยด
๏ เลือดกี่หยดอาบธรณียอมพลีให้
ลูกหลานไทยคงอยู่เคียงคู่ขวาน
หลากเรื่องราวจารึกไว้ในตำนาน
ไพรีพาลพ่ายยับแตกดับไป
แผ่นดินทองของใครที่ไหนเล่า
รวมทุกเหล่าเผ่าพันธุ์นั่นใช่ไหม
รอยยิ้มเคยสร้างชื่อระบือไกล
กลับหายไปเสียสิ้นทุกถิ่นทาง
เพราะวันนี้มองเห็นการเข่นฆ่า
ปลิดชีวาลอยไปใจหมองหมาง
ความสุขที่ล้นเหลือกลับเจือจาง
เกิดช่องว่างหว่างกันเกินบรรยาย
เพียงความคิดต่างกันกระนั้นหรือ
จึงยึดถือทับถมเสียจมหาย
เลือดไทยเคยกลมเกลียวกลับเดียวดาย
มุ่งทำลายแหลกรานเพราะมารลวง
หยุดเถิดพี่น้องเราเลิกเผาผลาญ
ถ้อยประสานทั่วแผ่นดินแดนสรวง
เป็นหนึ่งเดียวดวงใจบ่มใยยวง
เพื่อพ้นบ่วงเล่ห์ร้ายทำลายเมือง
ต่างสีเสื้ออยู่ไยไทยทั้งผอง
จงปรองดองอย่าถือแดงหรือเหลือง
สามัคคีเจิดจรุงชาติรุ่งเรือง
ให้ลือเลื่องขวานไทยใจหนึ่งเดียว ๚๛
28 เมษายน 2553 15:20 น.
เที่ยนหยด
รุ้งงามตามที่เห็น มิหลีกเร้นในเส้นสาย
ทอสีส่องประกาย ราวม่านไหมใส่ลีลา
สายฝนหล่นพร่างพรู มองเห็นอยู่ประดับฟ้า
ภาพชัดกระจ่างตา เจิดนภาคราฝนพรำ
รุ้งงามและสายฝน มิหลุดพ้นวนเวียนซ้ำ
ธรรมชาติวาดชี้นำ ช่างเลิศล้ำตามครรลอง
ใดใดในโลกนี้ สุขทุกข์มีทั่วทั้งผอง
สิ่งหนึ่งควรคิดตรอง ธรรมคุ้มครองแต่คนดี
เปรียบดั่งน้ำใจคน ที่เปี่ยมล้นด้วยไมตรี
ดุจสายแห่งชลธี เคยเปรมปรีดิ์กลับพลิกกลาย
เริ่มต้นด้วยคำหวาน สุดซาบซ่านพลันสลาย
ลุ่มหลงจนมิวาย ต้องแพ้พ่ายแก่ใจตน
นี่หนอฝนแลรุ้ง ยามใฝ่ผดุงยังสับสน
งดงามยามได้ยล อาจวกวนและเปลี่ยนแปลง
ทุกสิ่งล้วนไม่แจ้ง แต่เคลือบแฝงไว้ในคำ
ก่อเกิดสุขเลิศล้ำ กลับชอกช้ำจนเลือนลาง
มั่นคงอย่าหวั่นไหว จำจดไว้อย่าได้วาง
ปัญญาพากเพียรสร้าง เพื่อพ้นทางร้างริดรอน
รุ้งงามยามฝนซา สุริยาแสงทาบทอน
อุ่นไอไรแดดอ่อน หากคิดย้อนในเรื่องราว
ชีวิตนั้นเวียนวน ทั้งทุกข์ทนปนเหน็บหนาว
หนทางยังอีกยาว จงเข้มแข็งคุ้มครองใจ
"เทียนหยด"