28 กันยายน 2552 23:17 น.
เที่ยนหยด
เพราะว่าเราไม่ดีเท่านี้หรือ
เพราะว่าคือไม่อยู่เคียงคู่ฝัน
เพราะว่าตัวสิ้นแล้วต้องแคล้วกัน
เพราะว่าฉันไม่พอจึงท้อใจ
เพราะเราไม่ซึ้งค่าคำว่ารัก
เพราะเราหักอารมณ์เกินข่มไหว
เพราะเราไม่กล้าเอ่ยเผยออกไป
เพราะเราไหวหวาดหวั่นไม่มั่นคง
เพราะไม่เคยหาทางกลับพรางไว้
เพราะไม่ได้หยุดคิดพาจิตหลง
เพราะไม่ยอมลดละความพะวง
เพราะไม่ตรงต่อกันจึงหวั่นอุรา
เพราะเลิกคิดถึงฝันวันเคียงคู่
เพราะเลิกอยู่ชิดใกล้ไร้เสน่หา
เพราะเลิกคิดแต่งเติมเพิ่มศรัทธา
เพราะเลิกพาหัวใจแนบใฝ่ครอง
เพราะไม่ไว้ใจกันจนวันนี้
เพราะไม่มีเยื่อใยใจจึงหมอง
เพราะไม่เคยเพ้อพร่ำน้ำตานอง
เพราะไม่ตรองให้เห็นจึงเป็นไป
เพราะบางสิ่งพลัดพรากยากฉุดรั้ง
เพราะบางครั้งท้อแท้เกินแก้ไข
เพราะบางเรื่องที่เกิดไม่เปิดใจ
เพราะบางใครขวางกั้นทั้งฉันเธอ
เทียนหยด
20 กันยายน 2552 15:42 น.
เที่ยนหยด
กว่าจะเป็นเช่นฉันในวันนี้
เหนื่อยเต็มทีอยากให้เธอได้เห็น
ทนฝ่าฟันทุกทางอย่างยากเย็น
แสนลำเค็ญขมขื่นต้องฝืนใจ
ที่เห็นฉันร่าเริงบันเทิงสุข
บางคราวทุกข์มาดมั่นไม่หวั่นไหว
ดูเข้มแข็งอดทนจนเกินใคร
ยืนหยัดในท่วงท่าสง่างาม
มีผู้คนมากมายที่รายล้อม
ทนจำยอมชิดใกล้ใช่ไหวหวาม
ภายนอกดูเป็นสุขทั่วทุกยาม
แต่ใจคร้ามหวาดหวั่นทั้งวันคืน
ใครจะรู้ว่าฉันนั้นโดดเดี่ยว
เพียงคนเดียวมืดมนจำทนฝืน
ทั้งอ่อนไหวเจ็บช้ำสุดกล้ำกลืน
แสร้งยิ้มชื่นออกไปแม้ใจตรม
อีกกี่ฝนกี่หนาวถึงคราวสิ้น
รอยมลทินมืดดับที่ทับถม
จะมีไหมวันคืนให้รื่นรมย์
ได้เชยชมแนบชิดสนิทอุรา
ฉันคอยเฝ้าทวงถามทุกยามเสมอ
คล้ายคนเพ้อรอใครฝันใฝ่หา
ร่วมเดินเคียงชิดข้างอย่างเมตตา
ด้วยศรัทธาซึ่งกันอย่างมั่นใจ
ไม่เคยคิดจะมีนาทีนี้
กับฝันที่เป็นจริงและยิ่งใหญ่
เธอคนดีที่รักประจักษ์ใจ
พร้อมก้าวไปด้วยกันวันแสนดี
ขอเพียงแค่เธอคิดด้วยจิตมั่น
ว่ารักนั้นงดงามตามวิถี
ฉันก็พร้อมทั้งใจและไมตรี
รักครั้งนี้สิ้นสุดหยุดที่เธอ
........................................
เทียนหยด
11 กันยายน 2552 01:35 น.
เที่ยนหยด
รุ่งอรุณเบิกฟ้าคราวันใหม่
หอมกลิ่นไอน้ำค้างที่กลางหาว
แสงสีทองผุดผ่องส่องสกาว
ปุยเมฆขาวลอยผ่านละลานตา
เจ้าลั่นทมดอกขาวขึ้นพราวทั่ว
แย้มบานยั่วเย้าหยอกดอกบุหงา
ทั้งกาหลงซ่อนกลิ่นรวยรินมา
กรรณิการ์ชูช่อช่างอรชร
หอมละมุนอุ่นไอในยามเช้า
ภมรเฝ้าเคล้าชมดมเกสร
บินขวักไขว่ไปมาเพื่อไชชอน
ละอองว่อนภมรหมายไอมาลี
แสนรื่นรมย์เบิกบานสราญจิต
ในชีวิตธรรมชาติแต้มวาดสี
สูดกลิ่นไออบอวลเย้ายวนฤดี
มวลมาลีสีสันแห่งวันวาร
เทียนหยด
8 กันยายน 2552 08:38 น.
เที่ยนหยด
๏จากท้องทุ่งหมายมุ่งเมืองกรุงใหญ่
ศิวิไลซ์หลงใหลชวนใฝ่หา
ด้วยแสงสียวนเย้าเร้าอุรา
สาวบ้านนาเริงร่าท้าราตรี
๏เพียงก้าวแรกเคลิ้มไปเพราะใจพ่าย
ยอมพลีกายขายใจไร้ศักดิ์ศรี
ปล่อยให้ชายชื่นชมพรหมจารี
เพลิงโลกีย์แผดเผาจนเมามัว
๏เป็นผีเสื้อราตรีมีชีวิต
ด้วยสิ้นคิดอ่อนไหวพาใจสลัว
ปล่อยกิเลสตัณหามาพันพัว
ยอมเปลืองตัวหลงเหลิงเพลิงมายา
๏ค่ำคืนนี้ผีเสื้อไม่เหลือปีก
ถูกเขาฉีกเหยียบย่ำคร่ำครวญหา
ไร้สิ้นเสียงวอนขอต่อชะตา
หลั่งน้ำตาอาดูรสิ้นสูญใจ
๏คิดถึงพ่อและแม่ที่แก่เฒ่า
คงนั่งเฝ้าครวญหาน้ำตาไหล
เจ้าทิ้งดินถิ่นฐานแห่งบ้านไพร
เดินจากไปไม่ลาและอาวรณ์
๏สำนึกได้ซมซานกลับบ้านป่า
เพลินมายาหลงใหลเกินไถ่ถอน
เหมือนตกลึกหลุมใหญ่แห่งไฟฟอน
กลับดงดอนบ้านเก่าเศร้าซบทรวง
๏เห็นลานบ้านเงียบเหงาเศร้าจริงแท้
ช้ำดวงแดยิ่งนักแสนหนักหน่วง
ภาพที่เห็นเป็นจริงใช่สิ่งลวง
น้ำตาร่วงล้นหยาดแทบขาดใจ
๏โอ้พ่อจ๋าแม่จ๋าลูกมาแล้ว
กอดดวงแก้วรับขวัญที่หวั่นไหว
เจ้าจงกลับมาเป็นเช่นคนไพร
ลืมสิ้นไฟสีแสงแห่งมายา
เทียนหยด