9 กันยายน 2553 09:17 น.
เที่ยนหยด
๏บินลอยคว้างกลางหาวจนหนาวเหน็บ
กล้ำกลืนเก็บความช้ำเที่ยวร่ำหา
ขอบฟ้านั้นกว้างไกลสุดปลายตา
หวั่นผวาราตรีสีเงินยวง
ร่อนเร่ไปยังถิ่นถวิลหวัง
ม่านหมอกบังทั่วแผ่นดินแดนสรวง
สู่หนทางเดียวดายพ่ายลมลวง
แสงดับดวงใครเล่าเฝ้าอาวรณ์
คลื่นและลมโหมซ้ำกระหน่ำซัด
กายหนาวจัดขังใจเกินไถ่ถอน
ดุจสายป่านชีวิตถูกลิดรอน
ให้เหนื่อยอ่อนหลงทางแทบวางวาย
มองหาฝั่งไม่เห็นยากเย็นแท้
ย้ำรอยแผลมิหยุดสิ้นจุดหมาย
คราควันแฝงรายรอบคลุมครอบกาย
ถึงคราวพ่ายคงสิ้นทั้งอินทรีย์
มุ่นเมฆหม่นลอยลิ่วลับทิวเขา
วังเวงเหงาเหลือเกินอยากเมินหนี
ยามฟ้าหลัวโรยแรงแสงชีวี
ใกล้ริบหรี่มืดมนทุกหนทาง
น้ำตาเอ่อท่วมท้นรอหล่นหยาด
แสนอนาถโหยหวนจวนฟ้าสาง
อำลาแสงสุดท้ายก่อนวายวาง
เพื่อคืนร่างอันสงบสู่ภพภูมิ๚๛
เทียนหยด
19 สิงหาคม 2553 14:57 น.
เที่ยนหยด
๏เมื่อถึงวัยชราหน้าเหี่ยวย่น
สู่วังวนสุดท้ายก่อนไฟเผา
เส้นผมนั้นเริ่มหงอกสีดอกเลา
ดวงตาเล่าฝ้าฟางจนรางเลือน
ความจำเสื่อมลงไปจนใจหาย
คงมิวายใกล้ฝั่งดั่งเสมือน -
ของเก่าเก็บถูกทิ้งไว้บนเรือน
ใครก็เบือนหน้าหนีทุกวี่วัน
ชอบพูดจาซ้ำซ้ำและย้ำคิด
โปรดสักนิดอย่าถือนี่คือฉัน
ด้วยเงื่อนไขเวลาทำจาบัลย์
หลุดจากฝันวันวานแล้วผ่านไป
คือลิขิตจากไหนใครกำหนด
ถึงคราวหมดลมปราณสุดทานไหว
อยู่กับความว่างเปล่าอย่างเข้าใจ
รอวันใดสิ้นสุดหยุดเสียที
ดั่งสายน้ำไหลไปไม่หวนกลับ
เมื่อแตกดับร่างสลายกลายเป็นผี
เหลือแค่เพียงเขม่าเถ้าธุลี
ลอยริบหรี่เจือจางบนทางจร
เมื่อฉันแก่ลงไปใครรู้บ้าง
มันอ้างว้างเดียวดายเกินไถ่ถอน
แค่เพียงความเมตตาและอาทร
คือคำวอนจากใจ...วัยชรา ๚๛
"เทียนหยด"
11 สิงหาคม 2553 09:43 น.
เที่ยนหยด
๏เจ็ดสิบห้าชราภาพแต่อาบอิ่ม
เปี่ยมรอยยิ้มทุกยามน๊ะงามขำ
มุขตลกเธอถนัดจัดประจำ
ทั้งผวนคำไปมาฮากระจาย
เรื่องร้องเพลงเต้นรำเธอทำบ่อย
สาวเหลือน้อยใครแคร์แม่ยังไหว
เธอว่าเรื่องสังขารปล่อยผ่านไป
หากวันใดที่หยุดนั่นสุดทาง
ทั้งจดจำเป็นเลิศประเสริฐแท้
ความรู้แค่เล็กหน่อยคอยแผ้วถาง
ประสบการณ์มากเหลือมิเจือจาง
ใบเบิกทางชีวิตจึงคิดเป็น
ท่ามกลางลูกชายหญิงรักยิ่งนัก
คือเสาหลักจริงแท้ลูกแลเห็น
แม่ไม่เคยกำหนดวางกฏเกณฑ์
ลูกเรียนเล่นมีบ้างบางเวลา
คำสั่งสอนถึงแก่นแสนลึกล้ำ
ทุกเช้าค่ำมิขาดด้วยปรารถนา -
มิให้ลูกทะนงหลงอัตตา
หรือไขว่คว้าสิ่งใดที่ไกลเกิน
ไม่มีเธอวันนี้ไม่มีฉัน
คนสำคัญเคียงข้างมิห่างเหิน
ยามทุกข์ไม่เคยหวั่นพร้อมเผชิญ
ซึ้งเหลือเกินด้วยรัก..กลั่นจากใจ๚๛
เทียนหยด
3 สิงหาคม 2553 11:35 น.
เที่ยนหยด
๏เสียงกรีดร้องโหยหวนชวนใจเศร้า
สุดปวดร้าวดวงแดแม่ผวา
กอดลูกไว้อิงแอบแนบอุรา
หลั่งน้ำตาล้นทรวงเพราะห่วงใย
เจ้าถูกเขาพรากไปจนไกลอก
หวาดวิตกตัวสั่นแลหวั่นไหว
จากวันนี้แม่จะอยู่ได้อย่างไร
คงขาดใจแน่แล้วโอ้แก้วตา
เพราะเป็นคนวิปลาสปราศรู้สึก
จิตสำนึกลึกหลงส่งเสียงหา
เธอสะอื้นครวญคร่ำไม่นำพา
เจ็บปวดปร่าซบดินถวิลครวญ
จำต้องพรากทารกจากอกแม่
เพื่อดูแลปลอบขวัญยามผันผวน
แล้วส่งแม่วิปริตจิตเรรวน
เยียวยาด่วนโศกสลดรันทดจริง
ภาพความหลังเมื่อคราวเป็นสาวรุ่น
แสนอบอุ่นสายใยสู่ใจหญิง
เมื่อพ่อแม่คือหลักที่พักพิง
นอนแน่นิ่งมรณาลูกอาลัย
ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวคอยเหลียวหา
เหงาอุราเหลือเกินเดินทางไหน
จนล่องลอยดวงจิตวิปริตไป
มองหาใครเคียงข้างแทบรางรอน
กลายเป็นคนใบ้บ้าน่าอดสู
ทิ้งที่อยู่ที่กินไร้ถิ่นขอน
คราฟ้ามืดหวาดกลัวซุกตัวนอน
เที่ยวเร่ร่อนลำพังสู่วังวน
จนถึงคราวย่อยยับโดนจับขึง
เขารุมทึ้งทำลายซ้ำหลายหน
ข่มขืนจนไม่เหลือความเป็นคน
เธอทุรนทุรายแทบวายปราณ
เหมือนกรรมเก่าย้อนยอกให้ชอกช้ำ
โถมกระหน่ำชีวาน่าสงสาร
ต้องกระเสือกกระสนทนทรมาร
เพราะคนพาลใจชั่วไม่กลัวเกรง
ใต้หมู่ดาวและเดือนที่เคลื่อนคล้อย
โดนซ้ำรอยระทมมารข่มเหง
ไร้ซึ่งเสียงนัยน์ตาเศร้าวังเวง
เลือดละเลงทั่วร่างฝนพร่างพรู
เธอตั้งครรภ์เพราะชายทำลายร้าง
ต้องอยู่อย่างรันทดแสนหดหู่
ไม่เคยมีใครแม้จะแลดู
และรับรู้เรื่องราวร้าวสิ้นดี
คลอดลูกตามลำพังน่าสังเวช
เพราะอาเพศจิตแตกแปลกวิถี
หากสายใยผูกพันนั้นยังมี
มันล้นปรี่ฝังลึกผนึกทรวง
เสียงกรีดร้องรำพันวันฟ้าหลัว
รักจากหัวอกแม่แท้ใหญ่หลวง
เหมือนใจเจียนขาดวิ่นแทบสิ้นดวง
ดั่งสาปสรวงแน่แล้วมิแคล้วครวญ๚๛