30 พฤศจิกายน 2547 07:44 น.
เทาสีเงิน
วอนลมหนาว คราวผ่าน ม่านห้องนั้น
ช่วยลดหลั่น ผันเปลี่ยนแปร กระแสสาย
อย่าพัดหนาว ราวร้าน ผ่านเรือนกาย
เหมือนดังคล้าย พรายผ่านข้า ในครานี้
หากดาวมอง เห็นน้องข้า นิทราหลับ
ดาวช่วยดับ อับแสง ผ่อนแรงหรี่
ปล่อยความมืด ชืดชา ของราตรี
กอดคนดี ไว้แทน แขนของข้า
ฝากจันทรา ก่อนลารุ่ง ด้วยพรุ่งนี้
ช่วยสาดสี ส่องแสงลู่ ลงสู่หล้า
ชโลมไล้ ใยแย้ม แก้มแก้วตา
จูบแทนข้า สักครั้งก่อน จะจรไป
ฝากไก่อู กู่ขัน สนั่นเสียง
เป็นสำเนียง เรียกขวัญกล้า อย่าไถล
รีบเร่งกลับ ทับสถิต สะกิดใจ
เหมือนเช่นใคร ใคร่สนิท สะกิดนาง
สู้ฝากฝัง สั่งความไว้ ด้วยใจห่วง
ก่อนร่างร่วง สู่ห้วงฝัน ก่อนวันสาง
เพียงหวังจิต คิดถึง คำนึงนาง
นำนุชวาง อิงแอบ ให้แนบนอน
24 พฤศจิกายน 2547 06:30 น.
เทาสีเงิน
รุ่งอรุณ อุ่นอ่อน ค่อยชอนผ่าน
ทิพย์พิมาน ม่านเมฆ วิเวกสถาน
ราตีคล้อย พลอยหลบ มิพบพาน
สู่วิมาน ป่าเขา ในเงาไพร
ดาวดวงน้อย ลอยเดี่ยว ด้วยเปลี่ยวล้า
เช่นดั่งข้า ที่ลาฝัน ก่อนจันทร์ไกล
ภาพที่หมาย หายวับ ดับวูบไป
แต่ห่วงใย ใครมิสร่าง จะจางลง
นิลเนตรงาม วามวาบ ทาบสะกด
มิอาจอด รสเล่ห์ เสน่ห์หลง
เราหนอเรา เขินขวย ทั้งงวยงง
ต่อมั่นคง สติฟื้น ก็ตื่นพลัน
ได้แต่รอ คอยเธอตื่น ในคืนพรุ่ง
ก่อนฟ้ารุ่ง รัศมี ถ้ามีฝัน
ฉันจะขอ พรหลับ กับพระจันทร์
เป็นเช่นนั้น ในฝัน นิรันดร์เอย
22 พฤศจิกายน 2547 06:23 น.
เทาสีเงิน
มีแต่จะห่างเหิน
ยิ่งเนิ่นนานยิ่งรานร้าว
ไกลห่างทุกอย่างสาว
แต่จำเท้าต้องก้าวเดิน
ผ่านพ้นด้วยจนใจ
แม้นห่วงใยต้องทำเมิน
เพราะรักเขาเหลือเกิน
จึงต้องเดินด้วยน้ำตา
แทนคำพร่ำเฉลย
หลั่งเปิดเผยอยู่ตรงหน้า
แทนถ้อยละห้อยหา
ว่ารักนุชที่สุดแล้ว
19 พฤศจิกายน 2547 00:52 น.
เทาสีเงิน
เพราะมีใจ ไหวอ่อน จึงร้อนหนาว
หากต้องร้าว รานใจ ก็ไม่หวง
เพราะหัวใจ มิใช่หรือ ดื้อเป็นห่วง
หากใจดวง นั้นต้องตรอม ก็พร้อมทน
ขอเพียงมี ลมหายใจ ให้ได้รัก
ตัวฉันจัก ไม่ร้องขอ ง้อให้สน
เพราะที่รัก มิใช่ชั่ว เพื่อตัวตน
เพียงกมล หมายเอื้อ จะเกื้อกูล
ให้เธอสุข สมหวัง ดั่งที่คิด
แม้ชีวิต นี้จะลับ ไม่อับสูญ
ปิติอื่น ชื่นใด ไม่เทิดทูน
เพียงอาดูร ว่าที่ให้ จะไม่พอ
12 พฤศจิกายน 2547 02:47 น.
เทาสีเงิน
ในค่ำคืนขื่นขมด้วยลมหนาว
ฉันจะก้าวผ่านพ้นไปอย่างไรหนอ
ดาวระยับกลับมิอุ่นละมุนพอ
ที่จักทอรอท่าทิวาวาร
แรงลมเป่าเร้าโลกให้โศกสะอื้น
เหมือนว่าคืนนี้จะทอดตลอดกาล
ความโดดเดี่ยวเดียวดายได้ทรมาน
ให้ทุกข์ธารหลั่งไหลจากนัยตา
ที่มืดบอดตลอดทั้งภวังค์ผ่าน
จึ่งซมซานด้วยฤทธิ์เล่ห์เสน่หา
ความอาวรณ์อ่อนไหวในเวลา
ที่ฟากฟ้ามืดดับช่างจับใจ