15 มกราคม 2551 22:32 น.
เทพระวี
ดาวอีกดาวร่วงร้าว ลับลง
ปลิวปลดลดดวงปลง สู่พื้น
ฟ้าร้างว่างดาววง วูบดับ
แสงลับจักรวาลสะอื้น ห่มไห้อาลัยดาว
ดาวอีกดาวร่วงร้าว ราตรี
กำสรดทั้งปฐพี แผ่นหล้า
ฟ้ามืดมืดมุกมณี ประดับพร่าง
นองเนตรนองดวงหน้า บ่าน้ำตาไหล
ดาวอีกดาวร่วงร้าว ร่ำไป
ดาวร่วงหัวใจใคร ขาดดิ้น
ฝนเหล็กเจาะหัวใจ เกินแกร่ง
ดาวร่วงซบดินสิ้น อีกแล้วหนอดาว
ดาวอีกดาวร่วงแล้ว เพื่อใคร
เพื่อทุกชีพแห่งไทย แน่นแฟ้น
เพื่อหนึ่งแห่งอธิปไตย ประเทศ
พลีชีพเพื่อแว่นแคว้น ร่วมด้าวแดนสยาม
.
ขอคารวะดาวชนคนกล้า
12 มกราคม 2551 17:15 น.
เทพระวี
ดูหนทางทอดท้า ทายเรา
ภูเทือกเห็นเป็นเงา ลับฟ้า
ทางแดงฝุ่นมอมเมา คลุ้งฝุ่น
แดดดับยามเย็นหล้า อ่อนล้าราแรง
แสงไต้เริ่มจุดแล้ว วอมแวม
ความมืดขาดถูกแซม รัศ'ได้
ความเย็นย่างมาแกม ความเหนื่อย
ทางก็ยังท้าให้ สืบเท้าก้าวเดิน
เดินก้าวเท้าสืบเท้า ตามทาง
ตาจับในความจาง สว่างน้อย
จับใจจับกายวาง เป็นระยะ
เท้าย่างก้าวเป็นร้อย รุกหน้าผ่านทาง
ดาวพร่างกระพริบน้อย แสงใส
ส่องสว่างเป็นธงชัย เด่นเป้า
กระพริบท้ากระพริบทายใคร ไปสู่
ตาจับดาวใจเฝ้า ไขว้าคว้าดาวดิน
หูยินหมู่นกร้อง หลงรัง
จมูกกลิ่นข้าวหอมยัง กลิ่นฟ้า
ตายังจับตายัง จ้องจรด
ใจก็ยังถูกท้า ล่อให้เร่งเดิน
เขาเขินมืดซ่อนเร้น ทิววิว
ลมพัดมาหนาวปลิว สั่นเจ้า
ขาล้าอ่อนความหิว เย้ยเยาะ
ทางเยาะลมยั่วเย้า หยอกเย้าศรัทธา
28 ธันวาคม 2550 21:35 น.
เทพระวี
ย่ำยีขยี้ฉีกทิ้ง ชีวิต
ปลิดปลดหลุดขั้วปลิด ปล่อยคว้าง
ร่างยับย่อยมืดมิด โลกมืด
ฟ้าขุ่นมนุษย์มล้าง เข่นแค้นฆ่าฟัน
ร่างแล้วร่างเล่าแล้ว เซ่นพลี
เพื่ออำนาจแสวงทวี กอดอ้าง
เท้าย่ำเลือดวิถี มรณะ
สู่บัลลังค์เหน็บกระด้าง มกุฎแก้วโลกันตร์
จากแผ่นดินจรดฟ้า เกลื่อนกอง
กระดูกผู้หมายปอง แผ่นหล้า
ประกาศสัจจะจอง หลุมศพ
จบ ณ นิรันดร์ท้า ไม่เว้นวันคืน
หวังน้ำตาร่ำไห้ ตื่นทน
หวังพรุ่งนี้ผู้คน ตื่นฟื้น
หวังสันติสักหน ตื่นโลก
หวังกลบเสียงสะอื้น ตื่นแจ้งสติคน
.*************************************
คารวะแด่ทุกชีวิตที่เซ่นพลีวิถีแห่งอำนาจ
24 ธันวาคม 2550 22:18 น.
เทพระวี
หนึ่งวาหนึ่งวาดกว้าง กางมือ
หนึ่งชีพหนึ่งนี้คือ โลกกว้าง
หนึ่งร่างหนึ่งนี้หรือ มนุษย์
หนึ่งสุดหนึ่งสืบสร้าง ถักร้อยรอยชะตา
สองตาสองส่องค้น หมายใด
ตาสบตากระทบใจ จิตสะท้าน
ดูจิตคิดร่ำไป ส่องส่าย
ชังชอบรอบรู้ด้าน เหลี่ยมล้อมกายา
สองหูสองส่องก้อง สรรพสำเนียง
กระทบสบสรรพเสียง กึกก้อง
ดูจิตคิดเรียบเรียง จังหวะ
ชังชอบรอบรู้ร้อง เหลี่ยมห้องกายา
หนึ่งปากหนึ่งจีบป้อง วาจา
ร่ำพร่ำพรูพรั่งมา หยาดถ้อย
ดูจิตคิดค้างคา ลมปาก
ชังชอบรอบรู้ร้อย เหลี่ยมล้อมกายา
ครองนครหนึ่งนี่นี้ อย่างไร
ร้อนรุ่มดั่งสุมไฟ แผดบ้าน
หรือเย็นชุ่มหัวใจ เป็นสุข
ชังชอบรอบรู้ด้าน ลึกตื้นตื่นเตือน
********
ตามแนวปฏิบัติการดูสภาวะธรรม
23 ธันวาคม 2550 07:12 น.
เทพระวี
(๑).พลิกฝ่ามือรู้โลก จริงหรือ
มือยกว่ายเวียนมือ แตะต้อง
สัมผัสร่างตนคือ รู้สึก
เฝ้าจิตจับจิตจ้อง ระลึกรู้ใจตน
(๒).พลิกฝ่ามือรู้โลก ทำไม
สุขทุกข์ที่ผ่านไหล รับรู้
จังหวะแห่งชีวิตใคร กำหนด
ดูเถิดดูเพื่อกู้ ฝึกฟื้นสติตน
(๓).พลิกฝ่ามือรู้โลก แล้วไง
รู้เพื่อวางหัวใจ ปลดร้อน
รู้พบพรากเรื่อยไป ชีวิต
คลายคลี่ใจที่ย้อน คิดย้ำทำลาย
(๔).พลิกฝ่ามือรู้โลก ต่อไป
ขณะจิตเกิดดับใน เนื่องเน้น
กระทบวางว่างวับไหว มั่นสติ
พิสูจน์ใจลึกเร้น ลึกล้ำร่ำไป
(๕).พลิกฝ่ามือรู้โลก จริงหรือ
เชิญนั่งโปรดลงมือ ขยับย้าย
เฝ้ารู้สึกกายคือ รู้สึก
ดูโลกหยุดคิดร้าย พิสูจน์ด้วยตัวเอง
*****
วัดป่าสุคะโต ขุมทรัพย์แห่งธรรม
http://www.pasukato.org