31 กรกฎาคม 2551 14:19 น.
เทพธัญญ์
ระรินหลั่ง ดั่งสายฝน หล่นจากฟ้า
หยดน้ำตา ผ่าหัวใจ ไหลเป็นสาย
รักครั้งนี้ ที่วาดหวัง พังทลาย
เจ็บทั้งกาย ตายทั้งใจ ไร้เรี่ยวแรง
ที่เคยตั้ง หวังเอาไว้ ใครคนนั้น
มาเติมฝัน วันที่ใจ ไร้สิ้นแสง
มาเติมใจ ให้ต่อเติม เพิ่มเรี่ยวแรง
มาแต้มแต่ง แสงแห่งฝัน วันของเรา
ทุ่มกายใจ ให้ทุกอย่าง สร้างใยรัก
หวังได้ปัก สลักใจ ไว้ที่เขา
คิดว่าใช่ ใครคนนี้ ที่ใจเรา
มอบกายใจให้กับเขา เราเลือกมัน
แต่สุดท้าย ที่หมายหมั้น พลันแตกหัก
สะพานรัก หักทลาย สลายฝัน
เมื่อคนนี้ ที่เรารัก หักสัมพันธ์
ทำลายมัน ฝันของเรา เขาไม่แล
เหมือนโดนมีด กรีดกลางใจ ให้เจ็บแสบ
มันเจ็บแปลบ แสบทรวงใน ใจเป็นแผล
ทรมาน ปานจะดิ้น สิ้นดวงแด
เจ็บจริงแท้ แผลแห่งรัก ปักหัวใจ
ที่ทุ่มกาย ถวายให้ ใจแทบบ้า
ได้คืนมา น้ำตาหลั่ง ดั่งน้ำไหล
อย่าโทษเขา เราไฝ่หา อย่าว่าใคร
จงทำใจ ใครให้เรา รักเขาเอง
เสียน้ำตา อย่าเสียใจ ให้ใครรู้
กัดฟันสู้ ดูแลใจ ให้ฉับเฉง
เจ็บกี่ครั้ง พลั้งพลาดไป ใจเราเอง
เป็นบทเพลง บรรเลงกล่อม ซ่อมใจเรา
บอกหัวใจ ให้ลืมมัน วันคืนก่อน
เป็นบทเรียนคอยเพียรสอน ก่อนรักเขา
ใครคนนั้น เขาฝันไฝ่ ไม่ใช่เรา
คนที่เขา เฝ้าวาดไว้ ไม่ใช่เธอ
24 กรกฎาคม 2551 13:00 น.
เทพธัญญ์
สัญญากับใจ
เก็บเสื้อผ้า ลาแม่พ่อ ขอพรชัย
จำต้องพรากจากมาไกล ใจทอดถอน
ลาผืนดิน ถิ่นเคยอยู่ อู่เคยนอน
ใจอาวรณ์ ก่อนจากมา สุดอาลัย
หันหน้ามอง ท้องทุ่งนา ก่อนลาจาก
เคยลำบาก ตรากตรำ ทำนาไร่
สัญญาไว้ กับใจว่า อย่าท้อใจ
ต้องดิ้นรนทนสู้ไป ให้ได้ดี
เอ่ยวาจา สัญญาใจ ในวันจาก
แม้ลำบาก ยากแค่ใหน ไม่หน่ายหนี
จะสู้ทน จนถึงฝัน วันได้ดี
แม้จะมี กี่ปัญหา จะฝ่าไป
จะสู้ไป ด้วยใจซื่อ ถือใจมั่น
อาจพบวัน อันเหนื่อยล้า อย่าหวั่นไหว
ทุกหยาดเหงื่อ เพื่อแม่พ่อ ไม่ท้อใจ
เหนื่อยแค่ใหน ก็ไม่ท้อ ขอแทนคุณ
บนทางเดิน เผชิญไป ในชีวิต
ถูกลิขิต ชีวิตไว้ ให้เวียนหมุน
บ้างก็สุข เดี๋ยวทุกข์ใจ ไม่สมดุล
ให้วายวุ่น ครุ่นคิด หวิดท้อใจ
อาจท้อใจ ในบางครั้ง ความหวังปิด
เมื่อชีวิต ติดปัญหา พาหวั่นไหว
แต่ยังฝืน ยืนอยู่ สู้ต่อไป
ด้วยแรงใจ ในสิ่งหวัง ยังค้างคา
เพราะความจน ต้องทนสู้ อยู่อย่างนี้
บากวิถี ชีวิตไป ให้ใฝ่หา
ความลำบาก จึงจากถิ่น โบยบินมา
สู้ชะตา ฝ่าเอาชัย ไปบ้านเรา
รอหน่อยนะ จะแม่จ๋า พ่ออย่าห่วง
อยู่เมืองหลวง ยังห่วงดิน ถิ่นป่าเขา
ไม่ลืมฐาน บ้านเคยอยู่ อู่เคยเนา
ทุกค่ำเช้า เฝ้าห่วงหา บ้านนาเอย
24 กรกฎาคม 2551 10:12 น.
เทพธัญญ์
เมื่อ..ลมหนาวพัดหวน
ก.กวีเถื่อน ๒๕๔๕ ( เทพธัญญ์)
ปลายพรรษา สิ้นหน้าฝน ชนหน้าหนาว
ลมพัดผ่าว เป่าสำเนียง เสียงลมหวน
ลมหนาวพัด สะบัดมา พารัญจวน
เหมันต์หวน ป่วนฤทัย ให้เดียวดาย
ท้องฟ้าคราม ยามสายัญ ตะวันคล้อย
หมู่เมฆลอย คล้อยเคลื่อน เลื่อนลาหาย
สายลมโบก โยกทิวไผ่ ไหวเอนปลาย
อ่อนตามลาย สายลมพัด สะบัดเบา
อัสดง ทรงกรด จรดค่ำ
ฟ้าเริ่มดำ นำราตรี ที่เงียบเหงา
ลมรัญจวน ครวญสำเนียง เสียงแผ่วเบา
สายลมเป่า เหงาทั้งหนาว ร้าวทรวงใน
ในราตรี ที่เงียบเหงา เรานั่งเหม่อ
ใจพร่ำเพ้อ ละเมอคิด จิตหวั่นไหว
ลมพัดแผ่ว แว่วสำเนียง เสียงเรไร
เหงาจับใจ ในค่ำคืน ยืนรำพึง
หนาวครานี้ ฤดีเศร้า เหงาดวงจิต
ลมเปลี่ยนทิศ หวนจิตใจ ให้คิดถึง
ภาพหน้าหนาว คราวก่อนนั้น มันตราตรึง
ให้คะนึง ถึงอดีต คอยกรีดใจ
เมื่อหน้าหนาว คราวก่อน ตอนลมล่อง
คืนจันทร์ส่อง ท้องฟ้าคราม งามสดใส
มีเราสอง นั่งมองจันทร์ สันต์สุขใจ
ลมพัดไหว ใจสะท้าน ซ่านผิวกาย
แม้ลมหนาว แต่เราอุ่น กรุ่นไอรัก
แม้หนาวนัก รักคอยคลุม ห่มให้หาย
ในคืนหนาว เราอิงแอบ แนบชิดกาย
หนาวก็คลาย หายไป ใจชื่นบาน
เราโอบกอด พรอดพร่ำ รำพันรัก
สุขใจนัก กับรักนี้ ที่แสนหวาน
อยากพร่ำพรอด กอดกันไว้ ให้แสนนาน
รักเบ่งบาน ปานแสงจันทร์ อันวิไล
เอ่ยวาจา สัญญามั่น คืนจันทร์ผ่อง
ให้เราสอง ปองใจมั่น ไม่หวั่นไหว
ขอจันทร์เพ็ญ เป็นพยาน ผสานใจ
แม้ต้องไกล ไปห่างกัน จะมั่นคง
สิ้นลมหนาว เจ้าก็ไกล ไปเหินห่าง
ต้องไกลทาง ห่างกันไป ไม่ประสงค์
ลมหนาวจาก พรากเจ้าไกล ใจพะวง
หวั่นอนงค์ จะหลงทาง ห่างหัวใจ
สุดอาลัย ในวันลา น้ำตาหล่น
โอ้ใจเราเศร้าเหลือทน จนอ่อนไหว
เจ้า สัญญา ถึงหน้าหนาว คราวถัดไป
จะหอบใจ ให้หวนมา คราเหมันต์
เหมันต์นี้ มีเพียงเรา เฝ้ามองฟ้า
ลมพัดมา คราใด ใจแสบสัน
มันหนาวเหน็บ เจ็บหัวใจ ให้รำพัน
ลมพัดไหวใจหนาวสั่น สะบั้นกาย
แม้ผิงไฟ ให้คลายหนาว แค่คราวครั้ง
แต่หนาวใจ ไม่ประทัง ยังไม่หาย
ยิ่งลมพัด ปัดปลิว คลอผิวกาย
แทบวางวาย กายใจเหน็บ เจ็บซ้ำทรวง
เจ้าอยู่ไหน จึงไม่หวน ทวนท้องทุ่ง
หรือหลงกรุง มุ่งฝักใฝ่ ในเมืองหลวง
ทิ้งหนุ่มนา น้ำตาคลอ รอพุ่มพวง
หวั่นในทรวง ห่วงคนไกล จะไม่มา
หรือลืมแล้ว หนอแก้วตา สัญญาเก่า
ที่สองเรา เฝ้ารำพึง คะนึงหา
เมื่อคราวครั้ง นั่งมองจันทร์ เอ่ยสัญญา
จะคืนมา คราลมหวน ทวนเหมันต์
คงเที่ยวท่อง ล่องแสงสี ที่เมืองฟ้า
ลืมทุ่งนา สัญญาเดิม เริ่มเปลี่ยนผัน
อยู่เมืองไกล ใจก็ต่าง ห่างสัมพันธ์
คงลืมกัน ลืมวันวาน ลืมบ้านไพร
นี่ก็ผ่าน กาลเหมันต์ หลายวันเข้า
ยังคอยเฝ้า เจ้าแก้วตา จะมาไหม
คอยจดจ้อง มองทาง อย่างท้อใจ
เจ้าอยู่ไหน จึงไม่มา หาคนคอย
กลอยรู้ไหม ใครคนหนึ่ง คิดถึงเจ้า
ทุกค่ำเช้า เฝ้าห่วงใย จนใจหงอย
จะผ่านหนาว กี่คราวครั้ง ยังเฝ้าคอย
ใจเหม่อลอย คอยสัญญา เมื่อสายัญ
ทุกถ้อยคำ ยังย้ำเตือน เหมือนมีดกรีด
รอยอดีต ขีดกลางใจ ให้โศกสันต์
ลืมไม่ลง คงฝังใจ ไปทุกวัน
สัญญามั่น วันคืนก่อน ย้อนแทงใจ
ภาพวันเก่า เฝ้าเวียนวน ปนในจิต
ยิ่งห้ามใจไม่หวนคิด จิตหวั่นไหว
ใจเจ้ากรรม ทำไม่ลง คงฝังใจ
ลืมไม่ได้ ใจไม่พร้อม ยอมรับมัน
ลมเปลี่ยนทิศ แต่จิตใจ ยังไม่เปลี่ยน
ฤดูเวียน เปลี่ยนหมุนไป ใจไม่ผัน
ยังจดจำ คำสัญญา คราเหมันต์
คำเหล่านั้น มันแทงใจ ให้ค่ำครวญ
วอนลมหนาว ข่าวคนไกล ให้สักหน่อย
ว่าหนุ่มนา ตั้งตาคอย กลอยให้หวน
ทวงสัญญา คราเหมันต์ อันรัญจวน
ฝาก ลมหวน ชวนขวัญยืน คืนบ้านนา
เนิ่นนานวัน ผันเป็นเดือน เคลื่อนเป็นปี
จนวันนี้ กี่ลมหนาว เฝ้าคอยหา
เหมันต์เข้า หนาวก็ทวน หวนทุกครา
แต่เจ้าใยไม่หวนมา......หาคนคอย
23 กรกฎาคม 2551 10:55 น.
เทพธัญญ์
สองคนบนทางใจ
12166
จากเริ่มต้น จนวันนี้ ที่เรานั้น ผูกหัวใจไว้รวมกัน ไม่หวั่นไหว
จากแรกพบ จบด้วยรัก สลักใจ จากนี้ไป ใจเราสอง ครองคู่กัน
จากต่างคนจนต่างใจในวันนั้น จากพบกันวันคืนผ่านกาลเปลี่ยนผัน
ความรู้สึก ลึกจากใจ ที่ให้กัน ใจเรานั้น ผูกพันธ์แน่น เป็นแก่นใจ
ความผูกพันธ์นับวันเริ่มเพิ่มความรัก ผูกสมัครรักคงมั่นไม่หวั่นไหว
ใจสองดวง พ่วงใจซึ้ง เป็นหนึ่งใจ นานแค่ใหนใจเรานี้ มีแต่กัน
จะเกี่ยวใจ ไปพร้อมกัน ไม่หวั่นไหว จะเดินไปในหนทางวางความฝัน
จะคอยเป็น เช่นแรงใจ ให้แก่กัน สู้ฝ่าฟันกี่ปัญหา จะฝ่าไป
จะรักกัน ผูกพันธ์ใจ ไว้เป็นหนึ่ง จะคิดถึง ซึ้งใจกันไม่หวั่นไหว
จะร่วมทุกข์ ร่วมสุขสันติ์ ด้วยกันไป คอยห่วงใย ใส่ใจกันทุกวันคืน
จะวันนี้ กี่ปีเดือน ที่เคลื่อนผ่าน นานแสนนาน ผ่านกี่ฝนจะทนฝืน
รักเราสอง จะครองมั่น ทุกวันคืน จะหยัดยืน คู่คืนวัน ม่ผันใจ
เราสองคน เดินบนทาง วางชีวิต ผูกดวงจิต ลิขิตฝัน อันสดใส
ขอเพียงเรา เข้าใจกัน ผูกพันธ์ใจ เดินก้าวไป ในหนทางอย่างมั่นคง
จะร่วมเรียง เคียงบ่า ฝ่าลมฝน เดินไปบน หนทางใจ ไม่เริงหลง
อุปสรรค หนักแค่ใหน ไม่พะวง ใจมั่นคง ตรงต่อกัน ฉันกับเธอ
แม้นเนิ่นนาน ผ่านเวลา มาแค่ใหน สองดวงใจ จะไม่หวั่นมั่นเสมอ
กี่เดือนปี เธอมีฉัน ฉันมีเธอ รักเสมอ ไม่เผลอใจให้ใครจอง
ฝากใจรัก สลักไว้ ในฟากฟ้า กาลเวลา อย่ามาพรากจากเราสอง
วันเวลา นำพาใจ ให้ปองดอง รักเราสอง จะครองมั่น นิรันดร
23 กรกฎาคม 2551 10:36 น.
เทพธัญญ์
ความลับ
เก็บความใน ใต้ดวงจิต ปกปิดไว้
ลึกสุดใจ ไม่อาจเอ่ย เผยความหวัง
ความรู้สึก ผนึกใจ ให้บิดบัง
ใจโดนขัง ฝังเอาไว้ ให้ทุกข์ทน
แม้อยากเอ่ย เผยความใน ใจจะขาด
ก็มิอาจ คาดหวังได้ ใจสับสน
ใจโดนขั้น กั้นเอาไว้ ในวังวน
ด้วยเหตุผล คนสองคน บนทางใจ
เราคบกัน ในวันนี้ ที่เป็นอยู่
ความจริงรู้ อยู่ทุกสิ่ง ยิ่งหวั่นไหว
ต่างมีคู่ อยู่เคียงข้าง ทางหัวใจ
ขั้นเอาไว้ ใจสองเรา เหงาอุรา
ความรู้สึก ลึกข้างใน ใจเราสอง
จำใจต้อง ป้องกันไว้ ให้แน่นหนา
ทรมาน ปานใด ใจต้องชา
ให้เวลา รักษาใจ ให้สองเรา
จะมีไหม ใจสองใจ ได้เอื้อนเอ่ย
ได้เปิดเผย เอ่ยความใน ให้คลายเหงา
ได้เจอหน้า พูดจากัน วันของเรา
ได้ถามข่าว เล่าความใน ให้กันฟัง