5 ตุลาคม 2544 02:11 น.
เด็กเมืองยศ
เช้าสายเย็น เห็นหน้า ไม่เคยหน่าย
คนอะไร สวยหยาด ปรารถนา
ช่างโชคดี จริงหนอเรา ที่เกิดมา
คงมีแต่ คนอิจฉา ทั่วหน้ากัน
เวทีนาง สาวไทย ก็มั่นหมาย
แต่คิดไป เราก็งาม ตามใฝ่ฝัน
ทำไมเขา ไม่ให้เรา สมัครกัน
น้ำหนักฉัน นิดหน่อย ร้อยโลเอง
................เด็กเมืองยศ................
5 ตุลาคม 2544 02:00 น.
เด็กเมืองยศ
คำว่าแม่ ใหญ่แท้ เกินจะเปรียบ
หาใดเทียบ เทียมทัน นั้นไม่ได้
พระคุณท่าน ล้นฟ้า นภาลัย
ทดแทนไป่ มีวัน เทียบราคา
ทนอุ้มท้อง เก้าเดือนเหมือน เก้าปีท่าน
กินแต่เปรี้ยว คาวหวานทาน ยากหนักหนา
แม่ถนอม กล่อมเกลี้ยง เลี้ยงครรภ์มา
ชื่นอุรา คราพบ เจ้าสายใจ
มดริ้นไร ไม่มี มากรายกล้ำ
แม่ยอมทำ ทุกอย่าง เพื่อเนื้อไข
กลัวเจ้าจะ ไม่มี เหมือนใครใคร
กลัวเจ้าอาย เพื่อนพ้อง หมองอุรา
ลูกคือผู้ แม่รัก ประจักษ์จิต
ลูกจะคิด ว่าแม่รัก บ้างไหมหนา
ลูกกี่คน แม่เลี้ยงได้ จนเติบมา
เป็นแบบอย่าง มีค่า น่ารับฟัง
เมื่อตอนแก่ แม่ขอเพียง เอาใจใส่
เลี้ยงดูให้ เหมาะสม น้ำนมหลั่ง
หรือมีเมีย เลี้ยงเมีย เสียทุกทาง
ขอให้หัน มาบ้าง มาดูใจ
...............เด็กเมืองยศ
4 ตุลาคม 2544 11:09 น.
เด็กเมืองยศ
สิ้นวสัน ตฤดู สู่หน้าหนาว
ทุ่งสกาว เหลืองงาม ทาบท้องทุ่ง
รวงข้าวสุก ทองรอ น้องจากกรุง
เจ้าจงมุ่งก ลับบ้านนา มาร่วมเคียว
ย่างเดือนอ้าย ฟ้าสดใส เมฆลอยล่อง
แดดเรืองรอง อาบทิวไผ่ ใบไม้เขียว
นกเป็นหมู่ บินเรื่อย อย่างกลมเกลียว
พี่ยังเหลียว มองทาง น้องนางมา
พลิ้วลมโลม ลูบผิว แผ่วสะท้าน
โอ้นงคราญ อยู่ที่ไหน ไม่มาหา
แสงเดือนส่อง ผ่องนวล คล้ายขวัญตา
คืนกลับมา อาบดาว ร่วมห่มเดือน
เคียวคันเก่า กร่อนแล้ว แก้วตาเอ๋ย
นานเท่าไหร่ เจ้าไม่เคย มาเป็นเพื่อน
ลืมรวงข้าว น้ำคำ ช่างแชเชือน
น้ำใจนาง ขุ่นข้น เหมือนน้ำคลอง
1 ตุลาคม 2544 00:39 น.
เด็กเมืองยศ
เสียงเครื่องชนสนั่น บนฟ้านั้นเกิดลูกไฟ
ตึกแฝดตั้งสูงใหญ่ กลางมหานครินทร์
กรีดร้องเสียงร่ำให้ ใครหนอทำช้ำชีวิน
มองดูน้ำตาริน ได้แต่เหลียวส่งคำวอน
ไม่นานพังถล่ม ผู้คนจมในกองฟอน
ไร้สิทธิ์จะอ้อนวอน ข้าทำผิดประการใด
มืดบอดเป็นใบ้บ้า จะเข่นฆ่ากันไปใย
ร่วมโลกเดียวกันไม่ มีหัวใจหรือต่างกัน
ถ้าคนคือศรัตรู ฆ่าหมดหมู่ใครอยู่กับฉัน
ศัตรูที่ร้ายนั่น คือกิเลสเครื่องเผาใจ
ด่าวดิ้นด้วยแรงอยาก อาฆาตแค้นลุกเป็นไฟ
สันติภาพเกิดได้ ด้วยเมตตาและอดทน
..........................เด็กเมืองยศ..............