26 มิถุนายน 2548 16:11 น.
เด็กอยากศิลป์
ตอนนี้เราต่างก็อยู่ไกลกัน ความเป็นไปของกันและกันก็แทบไม่รู้เรื่อง
ที่ไทรหาไม่ใช่ว่าลืม แต่ตัวฉันเองก็ยังไม่มีเวลา ตัวเธอก็ทำงานเหมือนกัน
อีกอย่างเวลา 1 เดือนที่ได้พูดคุยมันไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของฉันดูพิเศษไปกว่าคนอื่นๆที่ฉันนั้นเคยคบมานานกว่าเธอเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอยังโทรมาหา ฉันอยู่ และบอกคิดถึงฉัน ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่รู้สึกสนิทใจกับเธออยู่ดี อาจป็นเพราะว่าความห่างของเราที่มี อีกอย่างฉันรู้จักกับเธอแค่เพียงผิวเผิน ตอนนี้ก็เป็นเวลา 2 เดอืนแล้วที่เราไม่ได้เจอหน้ากัน สำหรับตัวฉันต้องมีสักวันนึงที่ ฉันต้องบอกกับเธอว่า เราคงต้องเป็นเพียงแค่คนที่เคยรู้จักกันก็เท่านั้นมั้ง ฉันไม่มั่นใจว่าที่เธอพูดมามันเป็นจริงตามที่เธอพูดรึเปล่า ที่จรอิงฉันก็ไม่อยากทำลายความรู้สึกดีๆที่เธอมีให้ฉัน หรอก แต่ฉันก็เคยบอกกับเธอไปแล้วว่า อนาคตเป็นเรื่องจองความไม่แน่นอน เราจะไปกำหนดมันไม่ได้ ตัวเธอก็ต้องเจอกับผู้นอีกมากมาย ตัวฉันก็ต้องเองก็เหมือนกันกับเธอ ฉะนั้น เรื่องของเราสองคน อาจจะเป็นเพียงแค่ความหลังที่ทำให้ทั้งเธอและฉันยิ้มได้เมื่อนึกถึงมัน...
เมือ่รู้อย่างนี้แล้วขอให้ใจของเราทั้งสองอย่าได้ลืมกัน แต่ว่าคงจะไม่มีอะไรผูกมัดกันมากกว่านี้แล้ว เป็นเหมอนเดิมที่เคยนะ bye
15 พฤษภาคม 2548 13:27 น.
เด็กอยากศิลป์
ฉันเคยอ่านหนังสือหลายเล่มที่ผู้แต่งหลายคนอกกมาให้ทฤษฎีเกี่ยวกับความรักว่าเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ ซึ่งบางอันก็เป็นจริง บางอันก็ใช้ไม่ได้ มันล้วนแล้วแต่ ความรักเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ถ้าเข้าใจแล้วสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตก็คงเกิดขึ้นตามมาอีกมากมาย
ส่วนตัวฉันนั้นนั่นหรือ สงสัยจะกลัวความรักเอามากๆสงสัยกับความรัก ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ก็เคยมีแฟนมากับเขาบ้าง แต่การที่จะให้ฉันพูดว่ารักกับใครคงยาก ฉันคิดว่าคำว่ารักนั้นเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนที่สุด เป็นคำที่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเอาพูดโดยไม่ไตร่ตรองไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่เรามีความรู้สึกดีๆด้วย
ชีวิตนึงต้องการความรักที่แท้จริงเพียงครั้งเดียว ไม่อยากที่จะต้องเสียนำตาให้กับคนที่ไม่มีความจริงใจ และส่วนนึงคือในครั้งอดีตที่ขมขื่นและไม่มั่นใจในความรัก ต้องคอยระแวงตลอดเวลาที่คบด้วย
ท้ายนี้ฉันไม่ได้เคยแคร์ที่จะไม่เจอรักแท้อะไร ฉันอยุ่คนเดียวก็ได้ ถ้าฉันต้องการ แต่ก็มีบ้างที่อยากจะเจอใครที่รักเราจริงสักคน ...
13 กุมภาพันธ์ 2548 13:02 น.
เด็กอยากศิลป์
เรื่องของฉันอาจเหมือนเรื่องราวของผู้หญิงที่ถูกแฟนตัวเองเมินเฉยใส่หรือถูกทิ้งอะไรสักอย่าง เพียงแค่เขาห่างหายไปนานก็รู้ตัวแล้วว่าเขาหมดใจ
เราก็คงทำอะไรไม่ได้เพราะเราห้ามความคิดของเขาไม่ได้ ทำได้แค่เพียงข่มใจเท่านั้น เวลาเราเจอเขาความรู้สึกคืออยากเข้าไปกอดด้วยความคิดถึงมาก แต่ยังไงก็ตาม เราก็กลายเป็นคนคุ้นเคย เวลาเจอก็แค่ทัก เขาคนนั้นไม่เคยรู้เลยว่าในใจฉันคิดยังไงกัน
ส่วนตัวฉัน ฉันเป็นคนอื่น ฉันมันคนเก่า เรื่องของเราไม่เหลืออะไรแล้วหละมั้งตอนนี้ ที่จริงก็อยากลืมๆเรื่องเหล่านี้ไม่ให้เหลือเลยที่ใจเนี่ย แต่มันทำไม่ได้ จะให้ฉันลืมได้ยังไงก็ในเมื่อฉันมีเขาอยู่ทั้งใจ
เขาก็คงต้องใช้ชีวิตของเขาที่เหลือกับอนาคตของเขาต่อไป... ตัวฉันก็คงต้องคงต้องทำใจ
28 กันยายน 2547 12:44 น.
เด็กอยากศิลป์
ฉันก็เป็นเด็กมหาวิทยาลัยคนนึงที่ก้าวตามความฝันของตัวเองมาได้ระดับหนึ่งคือการก้าวมาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย ความฝันของฉันไม่ได้หยุดลงแค่นั้นหรอก
ที่จริงแล้วตัวฉันเองรู้สึกว่ายังตามหาฝันของตัวเองอยู่ด้วยซำ ฉันเป็นเด็กกิจกรรมคนหนึ่งที่ร่วมกิจกรรมทุกอย่างของคณะแตว่าฉันรู่สึกว่า มันก็ยังไม่ใช่ตัวตนจริงๆของฉัน ตอนนี้ฉันกำลังตามหามันอยู่
การเรียนของฉันก็เป็นสิ่งที่ฉันชอบตอนนี้ฉันเรียนเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยู่ ก็ชอบอยู่นะ แต่ภายใต้จิตสำนึกลึกๆแล้ว ตัวเองชอบกับการเข้าไปพัวพันอยู่กับการได้นั่งวาดรูปซะมากกว่าการได้ปล่อยอารมณ์ไปกับการลงลายเส้นลงสี ถึงแม้ว่าตัวเองจะได้เรียนศิลปะมาน้อยก็ตามที ก็เป็นสิ่งที่ชอบอยู่มามายพอๆกับการเรียนภาษา
ก็ยังมีสิ่งอีกมามายที่ฉันรู้สึกว่าชอบมากและฉันก็รู้สึกว่าการที่ฉันชอบอะไรที่มันง่ายเกินไปมันไม่ดีต่อฉันเพราะฉันจะไม่จิงจังกับมันเท่าที่ควรฉันอยากที่จะหาอะไรที่เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันตั้งหน้าตั้งตา ทำมันอย่างมากที่สุดหมายถึงว่าทุ่มเทสุดๆที่ตัวฉันจะทำมันได้ มันอาจจะเร็วสำหรับบางคนที่จะตามหาฝันของตัวเอง แต่สำหรับฉัน มันเป็นเหมือนการเดินทางที่ยาวนานกว่าจะค้นพบความฝันและสิ่งที่เป็นตัวของตัวเอง