16 กรกฎาคม 2551 23:06 น.
เด็กอยากศิลป์
ม่านนำตาเริ่มหลั่งไหล
เมื่อจิตใจคิดฟุ้งซ่าน
อยากพ้นผ่านวันวาน
แล้วขับขานทางที่เดิน
ปล่อยมันไหลออกมา
ทางข้างหน้ายังห่างเหิน
ปัญหาต้องเผชิญ
ปาดน้ำตาแล้วฝ่าไป
ปลดปล่อยพันธะเถิด
แล้วทำให้ตัวเองเกิดใหม่
จิตฟุ้งซ่านดับมันไป
เหลือไว้เพียงเสียงเล่าลือ
* คนเรรมันหนีปัญหาตลอดไปไม่ได้หรอก*
16 กรกฎาคม 2551 21:30 น.
เด็กอยากศิลป์
ตอนนี้ใจฉันล่องลอยไปไหนใครรู้บ้าง
ลอยเคว้งคว้างไปทางไหนใครขวางกั้น
ฤาจะเป็นสายลมหนาวเงาพระจันทร์
หรือใจฉันลอยตกลงต่ำไร้ที่มา
ใจไม่อยู่กับเนื้อหรือกับตัว
อยุ่กับสิงมอมมัวทางเหว่ว้า
อยู่กับสิ่งหลอกลวงภาพลวงตา
อยู่กับฝันบ้าๆที่ลางเลือน
21 มิถุนายน 2551 18:19 น.
เด็กอยากศิลป์
เมื่อไหร่ที่ฉันจะหลุดพ้นได้
ลมหายใจรับรู้ได้มันไร้ค่า
ภาวนาให้ทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามา
กลับออกไปแบบไม่หวนคืนมาอีกเลย
อยู่ไปเพื่อใจยิ่งอ่อนล้า
อยู่ไปเพื่อให้ใครได้ผ่านเข้ามา
อยู๋ไปเพื่อให้ใจนั้นแกร่งกล้า
อยู่ไปเพื่อหวังจะได้มา ซึ่งความสุข
2 มิถุนายน 2551 18:57 น.
เด็กอยากศิลป์
เด็กหนอเด็ก
ความคิดเจ้ายังเล็กไม่ไปไหน
มีคนคอยขัดเกลา และเอาใจ
ความคิดให้เติบใหญ่และถูกที
เด็กจะดีก็ทำได้
ต้องบ่มเพาะกันมากมายตั้งแต่วันนี้
เด็กเหมือนผ้าขาวเราดีๆ
ใครหนอแต้มสีให้น่าดู
ครูคือผู้วาดฝันและส่งเสริม
คือผู้นำทางที่เดินให้ถ้วนถี่
คือพ่อแม่คนที่สองในทุกที่
คือบุคคลควรแก่การที่ได้บูชา
13 พฤษภาคม 2551 17:09 น.
เด็กอยากศิลป์
ลังเล เลหลัง รำไร
ร่ำไห้ กับความ ขื่นขม
เวลา ผ่านมา นานนม
นั่งเฝ้าดู ผู้คน ได้ดี
อาจเพราะ มากเรื่อง เรื่องมาก
จึงอยาก ดูให้ ถ้วนถี่
อยากรู้ ต้นวาย ปลายดี
ท้ายร้าย มากมี ถมไป
สุดท้าย ปลายทาง ที่ฝัน
ไขว่คว้า หามัน ให้ไหว
อย่านั่ง รอทาง ให้ไว
จับได้ โอกาส คว้ามัน
* เตือนสมองและสองมือ*