10 มีนาคม 2548 14:09 น.
เดือนไร้เงา
แล้วทุกคนก็จากฉันไป
ไปแล้วเหรอ..
จะไปจริงๆเหรอ
จะทิ้งกันจริงๆเหรอ
คำถามแล้วคำถามเล่าก้องอยู่ในหัว แต่ไม่เคยเล็ดลอดริมฝีปากออกไปแม้แต่คำเดียว
นอนฟังเสียงหัวใจตัวเองที่ยังเต้นจังหวะเดิมๆ
เพลงในWinampก็เพลงเดิมๆ
Screen server เดิมๆ
นอนดูมันอยู่อย่างนั้น
มันจะเปลี่ยนไปได้ยังไงล่ะ ก็เราไม่เคยคิดจะเปลี่ยนมันสักครั้ง
แต่เมื่อวันหนึ่ง คนรอบตัวเรา
เพื่อนเราต้องการจะเปลี่ยนแปลง
เราจะยื้อให้เขาคิดเหมือนเรา ชอบเหมือนเรา
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเหมือนเราเป็น
จะได้เหรอ
ที่รัก...
คุณคงเบื่อแล้วกับการปฏิบัติต่อกันซ้ำๆซากๆที่เคยทำ
คุณคงอยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
คุณอยากให้เรารักกันมากขึ้นหรือลดลง
คุณว่ามันมากเกินไปหรือน้อยไปกันแน่
บอกหน่อยได้ไหม
บอกสักคำ
บอกมาเถอะ
อย่าเงียบไปเพียงเพื่อจะให้ฉันคนนี้คิดได้เอง
................
แล้วเขาก็จากเราไป
เพื่อนรัก
ถึงเวลาต้องบอกคำว่าลาแล้วสินะ
ยินดีด้วยกับการตัดสินใจของเธอ
ยินดีกับการเลือกทางเดินใหม่ให้กับตัวเอง
ยินดีที่วันนี้เพื่อนมีชีวิตเป็นของตัวเอง..ในขณะที่ฉันคนนี้ยังไม่เคยแม้แต่จะคิดมี
ยินดีที่เราเกิดมาเป็นเพื่อนกัน...รักกัน..และจากกันวันนี้
แต่ก่อนไปขอถามสักอย่างได้ไหม
เมื่อเราไม่ได้อยู่ใกล้กันอย่างนี้แล้ว
เพื่อนจะคิดถึงฉันไหม
เพื่อนจะโทรหากันไหม
เพื่อนจะออนไลน์มาทักทายกันบ้างไหม
เพื่อนจะเมล์หาฉันไหม
แล้วเธอจะรักฉันเหมือนเดิมไหม
.........................
แล้วเพื่อนก็จากเราไป
วันนี้เราเดินออกจากห้องทำงาน......คนเดียว
เดินตามทางมืดๆ....คนเดียว
ขับรถไปไม่มีจุดหมาย.....คนเดียว
สุดท้ายมาจอดตรงหน้าห้างสรรพสินค้าที่เราเคยมาเดินเล่นด้วยกัน......คนเดียว
ฉันมาทำอะไรที่นี่
ประโยคเพลงที่คุ้นหูแว่วผ่านโสตประสาทมาอย่างช่วยไม่ได้
เราเคยร้องด้วยกันจำได้ไหม
เราช่วยกันร้องสนุกๆเมื่อรถจอด แต่เราเองยังไม่รู้เลยว่าเรามาที่ห้างนี้ทำไม
แต่เราก็เดินไปตามทางเดิน ขึ้นบันไดเลื่อนไป ตามใครๆไป
แล้วเราก็รู้ว่า เรามาทำอะไร
วันนี้ต่างกัน
วันนี้ฉันมาคนเดียว
เพลงก็เพลงเดิม
ห้างก็ห้างเดิม
ใจดวงเดิม แต่มีแค่ดวงเดียว
ฉันมาทำอะไรที่นี่
ฉันเคยมีมืออุ่นๆคอยประคองเมื่อคราวโซเซ
วงแขนที่เอาไว้คล้องยามเราเดินผ่านร้านรวงต่างๆ
เราเพลิดเพลินกับการเดินดูของไปเรื่อยๆ
เราไม่จำเป็นต้องมีเงินแม้แต่บาทเดียว
แต่เรามีเพื่อน
เราเดินรอบแล้วรอบเล่าไม่เคยเบื่อ
เราไม่ได้อะไรซักอย่างกลับไป
แต่เราก็กลับด้วยกัน
ฉันยืนอยู่ที่เดิมที่เราเคยยืน
ฉันยืนอยู่ที่นี่ ยืนรอคำตอบที่ถามใจตัวเองไปเมื่อสักวินาทีที่ผ่านมา
ยังไม่มีคำตอบใดๆเลย
ฉันเห็นใครต่อใครทยอยเดินเข้าออก
พ่อกับแม่
แม่กับลูก
ลูกกับเพื่อน
เพื่อนกับเพื่อน
แฟนกันเขาก็มาเป็นคู่
ฉันอิจฉาพวกเขา
เพราะฉันคิดถึงเธอไง
วันนี้ฉันจะกลับกับใคร
ฉันเลือกที่จะดูหนังนะเพื่อนรัก
ครั้งกระโน้นเพื่อนไม่ชอบ..ฉันรู้
เพื่อนไม่ชอบหนังแนวนี้...ฉันรู้
แต่ฉันชอบ..เพื่อนรู้ไหม
วันนี้ฉันดูแล้ว
สนุกดีนะ
อยากเล่าให้เพื่อนฟังทุกฉาก แต่ฉันกลัวเพื่อนจะเบื่อ
เพราะรู้ไงว่าเธอไม่ชอบ
ไม่เป็นไร แค่อยากให้รู้ว่า...ฉันมีความสุขนะ
อยากให้ความสุขแบ่งกันได้เหมือนขนม
ชิ้นเล็กๆนี้อยากให้เธอลองชิมดู
อร่อยไหม
หนังจบไปแล้วเพื่อน
ฉันเดินกลับคนเดียว
คนอื่นๆนะเหรอ
เขาก็กลับกับคนที่เขามาด้วยกันสิ
นั่นไง
คนนั้นเขามากับแฟน
คนนั้นเขามาเป็นกลุ่ม
ส่วนทางโน้น
คุณแม่จูงมือคุณลูกมา
ทางนี้ไง....ฉันกลับคนเดียว
วันนี้ทั้งวันคือบทเรียนให้ฉันได้เรียนรู้การใช้ชีวิตคนเดียว
ฉันยังอยู่
ยังมีชีวิตอยู่
เห็นไหม
ฉันยังนั่งคร่ำครวญถึงคุณ...ที่รัก
ฉันยังนั่งร่ำไรถึงเธอ...เพื่อนรัก
ฉันยังหายใจ
แม้ทุกคนจะจากฉันไปไกลสุดตา
แต่ทุกคนยังอยู่ใกล้ที่สุดในหัวใจ
สักนิด....คิดถึงฉันบ้างนะ....ที่รัก
สักนิด...คิดถึงฉันบ้างนะ.....เพื่อนรัก
สัญญานะว่าคุณจะดูแลตัวเองให้ดี
สัญญาสิคะ
สัญญานะว่าเธอจะเอาใจใส่สุขภาพตัวเองดีๆ
สัญญานะ
ฉันสัญญา
ฉันจะจดจำทุกคนที่จากฉันไป....ตลอดไป
02.44
10.03.05
ฉันไง
+++ปล. ฉันมีเพลงนี้ให้ แทนคำขอบคุณ
ชื่อเพลง: ในวันที่โลกเหงา
สิ่งที่เธอมีแม้มันไม่มากมายนัก
แต่กับตัวฉันมันก็มากพอ
หากจะมีพรข้อใดที่ต้องการขอ
อยากจะมีเธอเรื่อยไป
เพราะว่าเธอเท่านั้น
ที่เป็นความอบอุ่นในหัวใจ
เพราะว่าเธอเท่านั้น
ที่ไม่เคยจะจากไปไหนไกล
และเธอคือคนแสนดีในชีวิต
ที่อยู่คอยใกล้ชิดทุกคืนวัน
ผ่านความลำเค็ญร้อนเย็นเป็นเพื่อนฉัน
ในวันที่โลกเหงาไม่เหลือใคร
รู้ดี ฉันยังคงมีเธอ
ถ้าหากว่ามีสักวันที่ฉันดีพร้อม
อยากจะตอบแทนให้เธอคนดี
ให้เธอจำไว้หัวใจของฉันคนนี้
จะมีแต่เธอผู้เดียว
เพราะว่าเธอเท่านั้น
ที่เป็นความอบอุ่นในหัวใจ
และเธอคือคนแสนดีในชีวิต
ที่อยู่คอยใกล้ชิดทุกคืนวัน
ผ่านความลำเค็ญร้อนเย็นเป็นเพื่อนฉัน
ในวันที่โลกเหงาไม่เหลือใคร
รู้ดี ฉันยังคงมีเธอ
ฉันยังคงมีเธอ ฮือ....ฮือ
9 มีนาคม 2548 19:28 น.
เดือนไร้เงา
ไดฯของฉัน
แล้ววันนี้ก็มาถึง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เคยคิดตลอดนะว่าเราจะไม่เป็นไร
เรา...จะไม่เป็นไร
ต้องอยู่คนเดียวให้ได้
ทุกคนต้องมีทางที่ดีกว่าเพื่อเดินต่อไป
เราเองไม่ใช่หรือที่เลือกจะย่ำกับที่....ที่เดิม-เดิมต่อไป
แล้วจะคร่ำครวญไปใย
ทำใจ....
คำเดียวที่คิดออกตอนนี้
แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อวันนี้...วันที่พวกเขาจากไปจริงๆมาถึง
เราจะเหงาจับใจขนาดนี้
ทำใจมาแล้วตั้งหลายเดือน
ไม่มีประโยชน์
เหมือนใจที่เคยเต้นในอกด้านซ้ายหล่นหาย....ไร้สุ้มเสียงจังหวะการเต้นใดๆ
มันคงเหนื่อยจนต้องหลบไปพัก
ใจหาย...........
ครั้งหนึ่ง...เรานั่งล้อมรอบโต๊ะอาหารพร้อมเพรียงไม่ว่าเช้า เที่ยง หรือเย็น
วันนี้...เรานั่งอยู่เพียงเดียวดาย
เดียวดายในสายลมเหงา
ทำไมนะ...ใครต่อใครบอกว่าเราแกร่ง ดูแลตัวเองได้ ไม่น่าห่วง
ห่วงเราบ้างไม่ได้เหรอ
แกร่งยังไงก็เหงาเป็น
เราอาจจะแสดงออกน้อยไป..หรืออย่างไร
หรือต้องร้องไห้คร่ำครวญ เรียกร้องให้ใครต่อใครเห็นใจ
ไม่เข้าท่า...
ทุกครั้งที่กลับห้อง มีเพียงโทรทัศน์ส่งเสียงเป็นเพื่อนทั้งคืน
แต่มีสิ่งใดเคลื่อนไหวในจอ 21 นิ้วนั้น..ไม่เคยรู้เลย
ที่เปิดไว้เพียงคลายเหงา
เพลงที่ดังแผ่วๆนั้น แทบไม่เข้าใจว่านักร้องครางอะไรออกมา
ใจหนอใจ....ลอยไปตก ณ หนไหน
ฤาแตกกระจาย..ไร้เศษซากไปแล้ว
หากวันนี้จะขออยู่อย่างไร้ใจ ไดฯของฉันจะว่าอย่างไร
จะไม่ขอรักใครอีกต่อไป
เมื่อรักแล้วจาก เมื่อจากแล้วต้องเจ็บ
ไม่มีรักจะไม่ดีกว่าหรือ
เพื่อนเอ๋ย.....
เราจะอยู่ที่เดิมตรงนี้
นั่งมองดูทุกคนเดินจากไป
ค่อย-ค่อยห่างสายตาออกไป...ห่างออกไป
เสี้ยววินาทีหนึ่ง...
ปากมันสั่นระริก....น้ำในตามันรื้นขึ้นมา
เปลี่ยนใจได้ไหม
อยู่ด้วยกันก่อนได้ไหม
....................
หายไปแล้ว
เขาจากไปแล้ว
.................
โชคดีนะเพื่อน
โชคดีจากคนที่อยู่ข้างหลังพวกเธอ