7 มกราคม 2548 18:42 น.
เดือนไร้เงา
จันทร์จะพร่างพรายแสงทั่วแหล่งหล้า
สุริยันจะทาบทาทุกแห่งหน
ท้องทะเลกลับสวยงามในบัดดล
กระแสชลแลใสใสในพริบตา
ดอกไม้ไหวไกวกิ่งก้านละลานทุ่ง
ไอดินคลุ้งล่องลมชมบุปผา
สายลมล่องลิ่วลิ่วปลิวเมฆา
มวลดาราล้อแสงแข่งดวงเดือน
ความงดงามธรรมขาติหาใดเปรียบ
มือคนสร้างเทียมเทียบไม่มีเหมือน
ฤามนุษย์คิดสรรค์สร้างดาราเดือน
ใช่ฟั่นเฟือนได้แค่ฝันฉันปุถุชน
เมื่อท้องฟ้าสร้างเมฆขาวและดาวส่อง
ฟ้าใยต้องสร้างเมฆฝนให้หม่นหมอง
ธรรมชาติแปรผันตามครรลอง
ความสอดคล้องหรือป้องกันสำคัญมี
แม้ผู้คนบนโลกวิโยคบ้าง
บนหนทางธรรมชาติวาดวิถี
มีทุกข์ร้อนลาจากพรากชีวี
มินานทีสุขคงกลับรับขวัญคืน
เมื่อรู้สร้างจักมีทางล้างทำร้าย
วนเวียนว่ายไปมาหาใดฝืน
มินานนักจักสร้างวางกลับคืน
ความยั่งยืนนั้นแน่แท้ไม่แน่นอน
น้ำดินลมไฟฟอนตะกอนหิน
ไร้ชีวินแต่เปี่ยมล้นมนต์คำสอน
จะยึดติดไปใยให้อาวรณ์
เมื่อทุกข์จรสุขจะอยู่คู่แผ่นดิน
26 พฤศจิกายน 2547 11:44 น.
เดือนไร้เงา
อยากให้คืนวันพรุ่งนี้มีสองเรา
ลงคุกเข่าที่ท่าน้ำตามประสา
เคียงริมฝั่งดั่งรักแท้แม่คงคา
คู่นาวาเนิ่นนานกว่าเวลากาล
25 พฤศจิกายน 2547 17:04 น.
เดือนไร้เงา
ความใส่ใจใครเลือกสรรวันเวลา
เดือนกุมภาขอนั่งอยู่คู่ฝั่งโขง
เช้งเม้งเดย์อาจทุมเทเห่จรรโลง
ใยต้องโยงเห่อตามเขาเราเป็นไท
25 พฤศจิกายน 2547 16:57 น.
เดือนไร้เงา
รักเปี่ยมหวังดังตะวันมันส่องโลก
แม้หมอกโศกปกนภาฟ้าอับแสง
แต่หาใช่ไฟตะวันมันสิ้นแรง
ยังเปล่งแสงแข่งจนกว่าเมฆาเลือน
24 พฤศจิกายน 2547 17:42 น.
เดือนไร้เงา
อยากหยอกยั่วกลัวอารมณ์เธอไม่ดี
ขืนเซ้าซี้ก็อาจมีที่ถูกด่า
ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่พูดจา
หรือภาษาของหัวใจไม่เหมือนเดิม