23 เมษายน 2554 11:26 น.
**.. เช่นรวีโชติ..**
๑. ฟ้าบางวันก็หมองแอบร้องไห้
เจ้ามวลหมอกดอกไม้ก็ไร้สี
แต่ฟากฟ้างามพร้อมก็ย่อมมี
ตะวันที่ฉายแสงแรงอำไพ ...
๒. ชีวิตคนมีค่าเหลือคณานับ
เกิดพร้อมกับความฝันอันยิ่งใหญ่
แม้เบื้องหน้าหุบเหวและเปลวไฟ
เธอจงใช้ อุตสาหะ ชนะมัน ...
๓. เรียกถนนเส้นนี้ว่า ชีวิต
มีสมหวังมีถูกผิดมีบิดผัน
ใช่ว่าล้มแล้วแพ้แก่คืนวัน
และใช่ว่าชนะนั้นจะยืนนาน ...
๔. สิ่งที่เหลือเหนือค่าของมนุษย์
ต้องมิหยุดสืบเท้าเพื่อก้าวผ่าน
ความเสียสละจะเข้มเต็มวิญญาณ
และสืบสานงานก่อรุ่นต่อไป ...
๕. ฟ้าวันนี้ที่เห็นเป็นสีฟ้า
ดอกไม้งามระรานตารับฟ้าใหม่
ด้วยศรัทธาแต่ละก้าวอันยาวไกล
ถึงเส้นชัย...ที่เห็น...เป็นของเธอ ...
ด้วยรักและหวังดี
**.. เช่นรวีโชติ ..** (ก.ประแสร์ ศิษยาพร)
เขียนให้น้องคนหนึ่งด้วยความปรารถนาดี
13 เมษายน 2554 22:08 น.
**.. เช่นรวีโชติ..**
๑. ในบางครั้งชีวิตก็บิดผัน
พบเรื่องราวสารพันหลากปัญหา
และแน่นอนท้อแท้แก่ชะตา
โทษดินฟ้าที่เห็นไม่เป็นธรรม ...
๒. บอกเธอว่าทางผิดอย่าคิดก้าว
จะรานร้าวสู่อบายทางฝ่ายต่ำ
แม้โลกสวยใช่จะเดินเพลินใจทำ
อาจถลำจนติดผิดมุมมอง ...
๓. สัมพันธภาพฉาบฉวยล้วนหลากหลาย
เธอจะหมายหรือตัดไม่ขัดข้อง
ทางสามแพร่งเธอประสงค์จงไตร่ตรอง
เพราะครรลองเหล่านี้คือชีวิต ...
๔. เมื่อเมฆหมอกบดบังตะวันจ้า
เห็นฟากฟ้าดำข้นจนสนิท
มือเธอจงแต้มสีทีละนิด
เปลี่ยนความคิดให้กระจ่างให้พร่างพราย ...
๕. ยังบอกเธอด้วยใจให้รู้ว่า
แม้ต่อว่าและไม่ซึ้งถึงความหมาย
วันเวลา และ โอกาส พลาดง่ายดาย
สิ่งเธอทำ...ทั้งหลาย...อาจสายเกิน ...
ด้วยความหวังดี
**.. เช่นรวีโชติ ..** (ก.ประแสร์ ศิษยาพร)