5 กุมภาพันธ์ 2549 13:14 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
1. สรรพสิ่งและดุลยภาพ
สมัยก่อน ผมมักมีความคิดว่า สิ่งมีชีวิตทุกประเภท จะต้อง คิดเห็นเป็นไปในทางอุดมคติในทางเดียวกัน จนมิได้สำเหนียกสำนึกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ดี-เลว, ขาว-ดำ, หรือ ร้อน-เย็น เป็นของคู่กันเป็นธรรมดาของธรรมชาติ
หาก ขาดสีดำไป เราย่อมจะไม่เห็นคุณค่าของสีขาวได้ ฉันใด
ขาด สิ่งเลว ๆ ไป เราก็ อาจ หรือ และ ย่อมไม่สามารถมองเห็นสิ่งดี ๆ ได้ฉันนั้น
ทุกสิ่งทุกอย่าง ดี-งาม, ทราม-เลว, กา-หงส์ สัดส่วนจะมากหรือน้อย ย่อมสร้างสมดุลย์ให้กับโลกที่เราเห็นเป็นโลกอยู่ทุกวันนี้
เพราะฉะนั้น
ผมจึงเริ่มตระหนักได้ว่า ไม่มีประโยชน์อะไรหรือใครคนใดคนหนึ่ง ซึ่งออกมาพยายามบังคับให้ กา เป็นหงส์ ให้สีดำเป็นสีขาว ให้คนเลว เป็นคนดี
ทุกอย่างมันเป็นไปตามสภาวะของมัน
แน่หละ และถ้ากามันไม่ยอมเป็นหงส์ (ก็เหมือนกับสีดำไม่ยอมเปลี่ยนเป็นสีขาวฉันใดฉันนั้น) ก็คงไม่มีประโยชน์อันใด ที่จะต้องมานั่งทุกข์ใจ ที่เราเปลี่ยน สิ่งเหล่านั้นไม่ได้
คิดอีกแง่
ถึงแม้ว่า กามันจะทะลึ่งยอมวิวัฒนาการมาเป็นหงส์ ได้จริงทั้งหมด ย่อมไม่ทำให้เกิดผลดีในจักรวาล เพราะขาด "สมดุลยภาพ" ที่ธรรมชาติได้คัดสรรมาอย่างลงตัวอยู่แล้วไป
เอ...
แบบนี้ก็แปลว่า ไม่เป็นเรื่องแปลก ที่โลก เราจะมี สีดำ มีกา และมีคนเลว (คนดีน้อย) สินะ
2.หนอน
ผมเคยถืออัตตาวิสาสะ เห็นผิดเป็นชอบ เป็นเดือดเป็นแค้น นั่งเขียน นั่งด่า หนอน ในอาจมวัตถุนิยม ต่าง ๆ ประณามมันว่า ทำไมเอ็ง ถึงได้เป็นหนอนชอนไชอยู่ในกองอาจมอยู่ได้วะ
พวก หนอนพอมันได้อ่านได้เห็น มัน จึงเรียกพรรคพวก ของมันมาดูผม แล้วรวมตัวกันประณามว่า เห้ย ดูไอ้ลิงนั่นสิ ทำไมมันกินกล้วยอยู่ได้ ไม่เห็นอร่อยเลย สู้ขี้ ที่เรากินอยู่ก็ไม่ได้ มันเนี่ย โง่เนอะ
จนจิตใจผมบันดาลโทสะพยาบาท เกิดความอาฆาตแค้น จนจิตลดตัวลงต่ำไปอยู่ในระดับ "หนอน" ลงไปชอนไชอาจมเล่นกับพวกมัน
พวกหนอนมันบอกผมว่าในอาจมนี่แหละ ประเสริฐสุดยิ่งกว่าสามภพสิบเอ็ดภูมิ
เรื่องกินไม่ต้องเดือดร้อน เพราะหันซ้ายขวา ก็เจออาหาร
เรื่องกามไม่ต้องเดือดร้อน เพราะเสพสังพาสอยู่บนกองอาหาร
เรื่องเกียรติก็ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะไม่มีสัตว์พวกไหน จะมานั่งสะสมอาจมให้ครบเจ็ดหมื่นสามพันล้านกอง
โลกของมนุษย์เองตางหากเล่าที่เป็นโลกแห่งความน่าสะอิดสะเอียนต้องดัดจริต มีอุดมการณ์ อยู่ในศีลในธรรม
โลกของอริยตางหากเล่าที่น่าเบื่อ ไร้สาระ เพราะต้อง ตัดตอนอัตตา ต่อสู้กิเลส หนีทุกข์สุข บาปบุญ
ไม่มีหนอนสติดี ๆ ตัวไหน ที่มีความรู้ มีปัญญา ร้อยเล่ห์เฉโก จะเลือกไปเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือมุ่งสู่สุญญตาหรอก
ผมฟังแล้วทีแรกก็ไม่เห็นด้วยกับมันเท่าไหร่หรอก แต่จะไปตำหนิมันก็ใช่ที่
เพราะถ้าเกิดหนอนมันหยุดบริโภคอาจมขึ้นมา โลกเรา ก็คงจะเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียและทำให้เกิดการขาดสมดุลทางนิเวศวิทยาเป็นแน่
(ฉะนั้นต้องถือได้ว่า โลกเราเป็นหนี้บุญคุณหนอนนะ)
ประกอบกับความกลัวที่ว่าจะโดนเพื่อนหนอนมันประณามสาปแช่ง ทอดทิ้ง
ผมเลยกำลังจะตัดสินใจว่าจะเป็นหนอนแบบมันดีไหม
อย่าเพิ่งงง
กำลังบอกว่าผมก็เป็น "สัตว์" สังคมเหมือนกันนะ
3. อัตตาธิปไตย
อยู่มาวันหนึ่ง ผมพบว่า มีพวก ปลาไหล มารวมตัวกันประณามหนอน
เหตุผล ที่ฝูง ปลาไหล ประณามหนอน อันที่จริงแล้ว เป็นเพราะหนอน มันไป แย่ง ปลาไหล กิน "ขี้"
ปลาไหลเลยเป็นเดือดเป็นแค้น ป่าวประกาศ ให้หมา หมู แมว และเม่น มารวมตัวประณาม หนอน โดยอ้าง ว่า หนอน นี้ช่างน่าเกลียดน่าขยะแขยงเป็นไหน ๆ เพราะวัน ๆ อยู่แต่ในกองอาจม กองอาจมนี้ไม่เห็นดีเลย
(ทั้งที่ใจจริงแล้ว ตัวปลาไหลเอง นั่นแหละที่ปรารถนาอาจม แต่โดนหนอนมันแย่งไป)
หมา หมู แมว และเม่น หลงกล หลงเชื่อปลาไหล จึงมารวมตัวเข้าชื่อ ร่วมกันขับไล่หนอน ตามกฎแห่งป่ามาตรา 304 และ 305 ที่ว่า
"สรรพสัตว์ในโลกาภิภพต้องบริสุทธิ์สะอาด หากสัตว์ประเภทใด มีเจตนาถือครองสรรพสิ่ง สัตวอาจมโดยทุจริต (สุจริต) สรรพสัตว์ประเภทต่าง ๆ มีอำนาจเข้าชื่อ 50000 ชื่อ ขับไล่สัตว์ตนนั้นออกจากความเป็น "สัตว์""
ปลาไหล เสียผลประโยชน์ให้หนอน แอบอ้างกฎแห่งสัตว์มาทำร้ายหนอน
หมา ยึดมั่น อุดมการณ์สัตว์ อย่างจริงใจ
แมว แค่ ตามกระแส ไปอย่างงั้น ๆ ไม่ได้ดู ไม่ได้คิด ไม่ได้ยึดหลัก "กาลามสูตร" เล้ย
เม่น รู้และติดตามทุกอย่าง แต่แค่อยากสวมรอยสนุก ๆ เลยเข้ามามีส่วนร่วม
ผสมปนเปกันไป ไม่รู้ใครเป็นอะไร แต่ทุกปากต่างอ้าง "สัตวาธิปไตย" ทั้งที่จริงแล้วไม่รุ้ว่า เป็น "อัตตาธิปไตย" หรือ "กามาธิปไตย" กันแน่
จักรวาลก้มหน้าลงมามองสรรพสัตว์ด้วยความฉงนสนเท่