คล้ายคนโง่บอกผู้คนว่าตนฉลาด คล้ายคนขลาดพูดสำรอกบอกตนกล้า คนจนทำคล้ายเศรษฐีมีเงินตรา คล้ายคนบ้าประกาศตนสติดี
เมื่อเหตุผลถูกพรากจากสมอง เรื่องสยองมีให้ดูอยู่ทุกที่ เมื่อฝูงเปรตถือดาบคาบพระคัมภีร์ มายืนชี้บอกพวกมึงหนักแผ่นดิน
‘ตาสว่าง’-เป็นอย่างไรไม่เคยรู้ คิดแค่กูหิวข้าวเช้าตอนสาย ลืมเรื่องตาสว่างไปคงไม่ตาย สนแต่เรื่องซื้อขายทุกค่ำเช้า
‘ตาสว่าง’ คืออะไรไม่เคยสน เพราะทุกคนมีเรื่องสุขทุกข์ปนเศร้า ใครมืดบอดช่างปะไรใช่เรืองเรา รู้แค่เขา ‘ตาสว่าง’ ผัวนางมี
บัตรเสียมีเยอะจนล้นคนสงสัย บัตรเสริมใส่พาสับสนคนสังหรณ์ บัตรคนจนก็เหมือนช่วยอำนวยพร บัตรดีหย่อนลงใส่หีบรีบส่องดู
บัดนั้นคือความจริงสิ่งที่เน้น บัดซบเหมือนขายของเล่นเห็นกันอยู่ บัตรมาช้าบ้างหายบ้างอย่างที่รู้ บัดนี้กูที่โคตรโกรธต้องโทษแมว
พี่ตูนวิ่งแทบตายได้เท่าไหร่ ก็ยังไม่พอคาหยูกคายาหมอ โรงพยาบาลทั่วไทยยิ่งไม่พอ จะต้องรออีกกี่ก้าวเท้าดารา
นี่งานรัฐบาลไทยมิใช่หรือ ซึ่งก็คือวางแผนการสานคุณค่า นโยบายคุ้มทุกทุนหมุนเงินตรา เพื่อประโยชน์แก้ปัญหาประชาชน
โรงพยาบาลทั่วไทยพอไหมหนอ หากมัวรอดาราแห่กันอีกหน แล้วแจกเงินเที่ยวพันห้าสาละวน เราจะทนมีรัฐไว้ทำไมกัน
เลิกสอนเถอะที่คณะนิติศาสตร์ หากกลไกการตลาดอาฆาตขู่ สอนกฏหมายกลายหมดเป็นกฏกู เอาไว้ถูทางแถเห็นแก่เงิน เลิกสอนเถอะที่คณะรัฐศาสตร์ หากเรี่ยราดเลวรั้นคอยสรรเสริญ สนับสนุนรัฐประหารหน้าด้านเกิน ซ้ำหมางเมินเสียงมหาประชาชน เลิกสอนเถอะที่คณะเศรษฐศาสตร์ หากชั่วชาติเลวทุเรศไร้เหตุผล คอยดูถูกกระทบกระเทียบเหยียบคนจน เห็นแก่ตนอยู่ในเมืองคุยเขื่องโว เลิกสอนเถอะที่คณะวารสาร หากหน้าด้านใช้สื่อด่าเต๊ะท่าโก้ อคติลำเอียงเบี่ยงเบนโชว์ ยั่วโมโหมองไม่เห็นความเป็นกลาง เลิกสอนเถอะศิลปศาสตร์ที่วาดฝัน หากหมายมั่นจะเชิดหูและชูหาง ปลุกกระแสชาตินิยมเพาะบ่มทาง ไว้เข้าข้างพวกกูว่ากูดี หยุดสอนเถิดมานุษยวิทยามันน่าเศร้า สังคมเรายังมุ่งหาการปาหี่ ดูถูกคนจนว่าโง่โต้วาที ไม่เคารพศักดิ์ศรีเสรีธรรม หยุดสอนเถิดศิลปกรรมช้ำใจนัก หากยังรักเผด็จการสันดานต่ำ เล่นละครตามโอวาทอำนาจนำ ละครลิงคอยย้ำพร่ำบิดเบือน เลิกสอนเถอะเลิกสอนเถอะเลิกสอน เลิกอ้างย้อน "ตำนานโดม" โหมเอ่ยเอื้อน ประชาชนเสียงเบาบางจนลางเลือน ไม่ดังเหมือนเสียงจากปลายกระบอกปืน