8 สิงหาคม 2555 09:38 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
๑. จะกล่าวถึงกรุงเทพมหานคร
ราชรัฐแห่งสยามานุสรณ์
เมืองอมรมิ่งโกสินทร์มหินทรา
๒. นับสองศตวรรษหมุนผลัดผ่าน
ประวัติศาสตร์สืบสานการศึกษา
โลกแซ่ซร้องสรรพกิจวิทยา
งามวัดวาเหมือนวาดราชมณเฑียร
๓. กว่าห้าสิบเชื้อชาติคือญาติมิตร
ล้วนพึ่งพิงใกล้ชิดสถิตเสถียร
บนผืนดินถิ่นสยามตามแบบเรียน
สัญชาติไทยอ่านเขียนเพียรอ้างอิง
๔. พระมหาประมุขแห่งยุคสมัย
รุ่งเรืองไกรเกริกเกียรติยศยิ่ง
สัตว์มนุษย์เทวดามาพึ่งพิง
สรรพสิ่งกลืนกลมตามสมดุลย์
๕. ประชาราษฏร์ทั้งดี-บ้า มหาฤาษี
ประชาชีไพร่ทาสอำมาตย์หนุน
พระ-พราหมณ์อำนาจเก่าเจ้าประคุณ
ทั้งนายทุนทั้งกุลีล้วนปรีดา
๖. ฝนตกต้องตามฤดูกาล
ธรรมชาติบันดาลสุขทั่วหน้า
จะลงน้ำในน้ำก็มีปลา
จะลงนาก็มีข้าวให้ชาวเรา
๗. ทศพิธราชธรรมคอยค้ำโลก
ดับอุปัทวิโยคทุกข์โศกเศร้า
ภัยหนักก็กลับเห็นผ่อนเป็นเบา
มีทุกข์ก็บรรเทารู้เท่าทัน
๘. เมื่อถึงปีที่สองร้อยสิบเก้า
คือแรกเริ่มเรื่องราวคราวคับขัน
ประชาราษฏร์มีสิทธิ์เสียงเท่ากัน
คล้ายคล้ายจะหฤหรรษ์สันติ์สุขดี
๙. ด้วยเกิดความนึกคิดริษยา
สมดุลย์สูญค่าสิ้นราศี
จึงเกิดความเมืองเรื่องกาลี
ในยุคเทคโนโลยีรุกตีเมือง
๑๐. ประชาชนหมดสิ้นศีลธรรม
ความตกต่ำขู่ฟ่ออย่างต่อเนื่อง
ที่ยากจนยิ่งสุดแสนจะแค้นเคือง
ที่รุ่งเรืองก็ยิ่งอยากมากกว่าใคร
๑๑. ฝูงสัตว์จึงเกรียวกรูสมสู่คน
ทุกแห่งหนเพลิงมารเผาผลาญไหม้
คึกคะนองร้องโหมโถมทุกข์ภัย
จนเกิดเรื่องแปลกใหม่ยี่สิบประการ
๑๒. ผู้คนจะถอดจิตปฏิพัทธ์
เข้าแจงจัดขายซื้อเรื่องสื่อสาร
จะมีจอสี่เหลี่ยมพิศดาร
เพียงคลิกอาจเกิดการผ่านข้อความ
๑๓. ผ่านคีย์บอร์ดกัดเก่งสัตว์เร่งเห่า
ดิรัจฉานถอดเบ้าเข้าเพ้อพล่าม
สัตว์สมสู่ทุกที่ที่ติดตาม
ทุกข์รูปนามสังขารสันดานแสดง
๑๔. ทุกเดือนดาวจะลดค่าอยู่หน้าจอ
สรรพเสียงตัดต่อล้อสรรพแสง
คนจะพูดคนเดียวได้ไม่หมดแรง
คนจะยิ้มคนเดียวแกล้งเป็นบ้ากัน
๑๕. เทพเจ้ากรีกจะมาเมืองสยาม
จนลือนามทุกประเทศทั่วเขตขัณฑ์
จะมีสัตว์แปลกแอฟริกัน
มาสังสรรค์ในกรุงสยาม ณ ยามนี้
๑๖. มนุษย์ในยุคสมัยได้แต่ด่า
แค่ไม่ใช่พวกข้าตายห่าแน่
คนดีดีไม่ดีพอจะตอแย
คนแย่แย่ก็หน้าด้านสำราญกัน
๑๗. บ้านเมืองจะมีแต่ผีบ้า
ผีอีเม้ยผีห่ามาเข้าฝัน
ผีทะเลผีทะลึ่งตะลึงมัน
ผีถ่ายคลิปอวดประชันอย่างมั่นใจ
๑๘. ผืนดินจะยวบยาบหวาบหวามหวิว
เดินตัวปลิวเพลินก็อาจจะพลาดได้
หากตกท่อเมืองกรุงเทพเจ็บกว่าใคร
ความปลอดภัยจึงต้องหมั่นดูกันเอง
๑๙. ฤดูร้อนเปลี่ยนเป็นฤดูหนาว
อยู่เกรียวกราวเสียงลมมันข่มเหง
เดี๋ยวร้อนหนาวสงกรานต์ขับขานบรรเลง
ร้อนเพราะเพลงเปลือยอกชวนตกใจ
๒๐. น้ำจะท่วมทั้งทุ่งท่วมกรุงเทพ
แต่ว่าคนยังเสพย์ความสุขได้
ทั้งที่มีคนทุกข์อยู่ทั่วไป
ธรรมชาติจัดให้ไว้อย่างนี้
๒๑. ผู้คนจะดูถูกดูหมิ่นปราชญ์
หลงอำนาจแฟชั่นหมั่นปาหี่
คนที่สวยหล่อเห็นเป็นคนดี
ปราชญ์กวีคือคนทรามว่าตามนั้น
๒๒. ธนบัตรจะฟูฟ่องล่องลอยฟ้า
แต่คุณค่าความเป็นคนโดนเย้ยหยัน
คนโง่ใช้ปริญญามาฆ่ากัน
คนฉลาดต้องหุนหันออกนอกเมือง
๒๓. ผู้คนจะปากว่าตาขยิบ
มือถือสากปากขมิบมันทุกเรื่อง
อ้างศีลธรรมนำไทยให้ประเทือง
แต่กลับอวดปมเขื่องเรื่องฆ่าคน
๒๔.ปากด่าทุจริตคอรัปชั่น
กลับผลักดันรัฐประหารสืบสานผล
ให้ทหารเปิดงบลับสัปดน
กินทั้งต้นทั้งตามน้ำตามกันมา
๒๕. บริภาษนักการเมืองโคตรชั่วชาติ
แต่ไม่ยอมยกปราชญ์ศาสนา
ให้สมัครเป็นผู้แทนรัฐสภา
ถ้าดีได้แบบเทวดาต้องกล้าลอง
๒๖. กว่าสรรพปัญญาจะปรากฎ
บ้านเมืองโศกสลดสยดสยอง
คนฆ่าคนจนน้ำเลือดเดือดนอง
เจ็บเสียงร้องโหยไห้ใจแหลกลาญ
๒๗. โลกสวรรค์นรกเคลื่อนเลื่อนประทับ
จักรภพเปลี่ยนระดับปรับพื้นฐาน
ปราชญ์จะใช้ความคิดวิจารณญาณ
วิเคราะห์การทุกข์เทวษทุกเหตุนี้
๒๘. ประชาราษฏร์พึ่งมีสติตั้ง
พึงระวังแนวความคิดจิตบัดสี
ตรึกตรองธรรมว่าอะไรดีไม่ดี
ราชธานีย่อมอยู่รอดและปลอดภัย
๒๙. เคารพความเป็นคนของคนก่อน
ย่อมเป็นพรจากสวรรค์อันยิ่งใหญ่
ทรัพย์สินเสียแล้วก็เสียไป
กำลังใจต้องมีอยู่คู่ปัญญา
๓๐. มีเกิดและมีดับสลับเปลี่ยน
โลกหมุนเวียนอยู่ทุกวันจากปัญหา
แม้กรุงเทพนครรัตน์วัฒนา
ไม่พ้นกฎโลกาว่าเช่นนั้น
๓๑. ศักราชที่สองร้อยกับสามสิบ
ปัญญาทิพย์จะเปิดทางสิ่งสร้างสรรค์
ประชาชนรู้จักคิตจิตผูกพัน
เสียงสวรรค์ลงประทับประดับดิน
๓๒. สร้างทุกแสงไฟสว่างทางปัญญา
ดับทุกภาพลวงตาจนหมดสิ้น
ฟังเสียงโห่กระหึ่มย้ำน้ำตาริน
เมื่อได้ยินประชาชนประกาศชัย
4 สิงหาคม 2555 09:28 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ประวัติศาสตร์เขียนเชียร์ผู้ชนะ
เพื่อที่จะหาผู้รับสนับสนุน
เลือกเรื่องดีตัวมาอ้างสร้างบุญคุณ
เรื่องสถุลของตัวคิดแต่ปิดบัง
คนไม่รู้ประวัติศาสตร์ที่ชาติสร้าง
คล้ายตาบอดหนึ่งข้างแล้วคลุ้มคลั่ง
แต่คนตาบอดสองข้างสร้างเกลียดชัง
คือคนฟังประวัติศาสตร์แค่ข้างเดียว
Calendar
Lovers
9 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
หน้าส่วนตัว
1672
