28 มกราคม 2552 23:48 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ชีฟองพลิ้วปลิวไหวในทุ่งหญ้า
ของนางฟ้าจากสวรรค์แต่ชั้นไหน
เร้าสำเนียงเสียงเห่ของเรไร
ที่หวั่นไหวร้องระงมชื่นชมตาม
ผมสลวยสวยยาวเหย้าหยอกโลก
พระพายโบไหวไหวเหมือนไถ่ถาม
หนาวที่บาดผิวรุกเร่งคุกคาม
หนาวแค่ไหนหนอคนงามในยามนี้
ซาบซึ้งดวงตะวันท่านปกป้อง
ฉาบเปลวทองทิพย์แท้แผ่รังสี
อบอวลอุ่นอาบไอให้คนดี
ธรณีก็แซ่ซ้องสาธุการ
ทั้งท้องทุ่งสีทองร้องรำฟ้อน
ดอกไม้อ้อนเอ่ยย้ำกรีดคำหวาน
นกน้อยขับเพลงสวรรค์อันเบิกบาน
ชลธารก็ตอบถ้อยร้อยเรียงจินต์
ภาพนางฟ้าฟ้อนรับกับธรรมชาติ
ใช่ภาพวาดแห่งพรหมปฐมศิลป์
แท้คือถ้อยลำนำคำศิลปิน
ซึ่งร่วงรินจากสวรรค์บันดาลเอย
25 มกราคม 2552 20:14 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
บุญหรือบาปอยู่ที่ใจมิใช่หรือ
สุขใจคือบุญกุศลส่งผลช่วย
หากทุกข์ร้อนนั่นแหละบาปคราบความซวย
โลกธรรมอำนวยเอื้ออวยกัน
บาปเป็นเงาตามบุญวุ่นตามติด
บุญก็คือหนึ่งจริตที่ปิดกั้น
เมื่อคนยึดถือบุญวุ่นเมามัน
ก็เป็นบาปฉาบอีกชั้นบั่นทอนใจ
เป็นตัวกูของกูดูชัดชัด
บุญหรือบาปนั่นแหละผลัดกันจัดให้
สลับความยึดติดก่อพิษภัย
จึงโยงใยทุกทิวาและราตรี
บุญและสุขเดี๋ยวเดียวก็เหี่ยวแห้ง
บาปตะแบงส่งทุกข์รุกเร็วรี่
ยามสุขหากอวดดื้อมัวถือดี
จะเจ็บตัวกว่านี้นี่แหละบุญ
ยามทุกข์ท้อรันทดจงอดกลั้น
มองทุกข์อย่างสร้างสรรค์จรรโลงหนุน
ทุกข์คือธรรมนำจิตคิดเป็นคุณ
มักเหวียนหมุนกลับเป็นสุขให้ฉุกคิด
บาปบุญสุขทุกข์ดูให้รู้แน่
ย่อมเกิดแก่ปัจจัยในจริต
ที่สติอ่อนแอพ่ายแพ้พิษ
ตามวงเวียนชีวิตอนิจจา
บุญบาปในโลกนี้ไม่มีแก่น
หมุนเวียนแล่นโลดลามตามประสา
ตรองดูเถิดด้วยสติพิจารณา
ธรรมทัศน์ศรัทธาสมาธิ
16 มกราคม 2552 23:37 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เมื่อเธอเริ่มพูดจาประสารัก
เธอฟูมฟักพลังแรงแห่งความฝัน
ให้โลกหยัดยืนกล้าสู้ฝ่าฟัน
เรียนรู้ขั้นตอนวิถีแห่งชีวา
เธอแสดงความรักรู้จักให้
ก็ซาบซึ้งตรึงใจในคุณค่า
นิยาม "รัก" สดใสในแววตา
ถ่ายทอดเป็นภาษาจารึกไว้
ตื้นตันรักที่สื่อคือรอยยิ้ม
ลูบมือนิ่มอย่างนั้นยิ่งหวั่นไหว
เมื่อหวานหว่านสำเนียงเสียงหวานไป
ทุกดวงใจก็สรรเสริญเพลินชื่นชม
ความเป็นเธอสานเส้นทางสร้างคุณค่า
ลบเหว่ว้าวันคืนอันขื่นขม
ความเป็นเธอคือความรักผลักอารมณ์
ปลุกคนล้มให้ลุกสู้หยัดอยู่ยืน
เมื่อเธอเริ่มพูดจาประสารัก
ย่อมฟูมฟักความฝันอันสดชื่น
ระบายสีจากสวรรค์ทุกวันคืน
โลกทั้งผืนก็สดสวยด้วยความรัก