14 มิถุนายน 2545 12:15 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
อย่าท้อแท้นะคนดี
ยามนี้ที่ฝันหวั่นไหว
เบื้องหน้าหุบเหวร้อนเปลวไฟ
ฉันรู้....ฉันเข้าใจปรากฏการณ์
กระซิบแผ่วผ่านลมผิว
ฝากดอกไม้ปลิวละอองผ่าน
ในพังทลายนั้นทรมาน
อย่ายอมเป็นอาหารของกาลเวลา
สู้ใหม่นะคนดี
วาดฝันหลากสีปรารถนา
โลกนี้มีมากลีลา
สุข-ทุกข์ ผ่านมาแล้วผ่านไป
ฉันคิดกระซิบจากสายลม
พร่างพรมพฤกษ์พันธ์ทุกวันใหม่
ยามเธอท้อรันทดหมดแรงใจ
ดูสิ....ฉันพริวไหวดอกไม้บาน
โดย Tae
มันน่าท้อแท้ นะที่รัก
ใจประจักษ์รักนี้ ไม่สดใส
ลมร้อนกร่อนรัก ดั่งเปลวไฟ
ฉันรู้ เธอเข้าใจปรากฎการณ์
เสียงกระซิบลมผัดผ่านเหมือนไร้เสียง
ดอกไม้เรียง ไร้สี เหมือนดีซ่าน
รักร้าว รักไร้ ช่างทรมาน
ยิ่งนาน ยิ่งช้ำ น่าละอาย
ฉันสู้ไม่ไหวแล้วคนดี
ชีวิตนี้จะอยู่ไย ไร้จุดหมาย
ก็เกิดมา มันชั่วนัก ฉันอยากตาย
ไม่หมาย ไม่ขอเกิด มาเป็นคน
ขอบคุณ ที่อุตส่าห์ห่วงใย
แต่รู้ไว้ ว่าหัวใจ ฉับสับสน
มันเจ็บนัก รักร้าว สุดจะทน
สาละวน กับชีวิต ไร้วิญญาณ
เชษฐภัทร วิสัยจร
1 มิถุนายน 2545 20:47 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
สุดชีวัน ฉันรักเธอ ได้เท่านี้
สุดชีวี ของผู้ชาย ไร้ยศถา
สุดหัวใจ ของคนไร้ ศักดินา
สุดชีวา ชายสามัญ ชอบสัญจร
อาจไม่ดี รูปไม่เลิศ ประเสริฐนัก
ฉันก็จัก เป็นคนดี เหมือนครูสอน
จงเพียรเถิด เชิดชู วิสัยจร
ด้วยสองกร จะไต่เต้า ดาวดารา
อันรูปลักษณ์ ของนอกกาย ฉันไม่มี
ถึงจะมี ไม่ดีหรอก ชอกช้ำหนา
ให้เธอได้ แค่ชีวิต แล้ววิญญาณ์
ถึงใครว่า ฉันไม่หล่อ ช่างหัวมัน
ถ้าขาดเธอ ฉันไม่รู้ จะอยู่ไหน
เหมือนขาดใจ จะอยู่ได้ อย่างไรฉัน
ใจคงช้ำ ระกำชอก ทุกคืนวัน
เธอก็รู้ ว่าใจฉัน มีเพียงเธอ