30 พฤศจิกายน 2545 18:47 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
อันลำนำ คำงาม ควมเพิ่นเว้า
เสียงแคนเคล้า คลอพิณ ถิ่นผะหยา
ใจจื่อจำ จดจื่น แต่มืนตา
เถิงคุณค่า ลำนำ คำของคน
เสียงลำนำ คำควม เพิ่นว่าไว้
ผิว่าใจ มิใคร่ฉ้อ บ่คึดฉน
แม่นคึดดี เฮ็ดดี วิถีตน
เถิงเป็นคน ชนไร้ชั้น บ่ฮั่นฮ้าง
คั่นแม่นผู้ ยโส เฮ็ดโตอ่ง
บ่สร้างสรรค์ จรรโลง ทำโผงผาง
ต่อให้คำ ลำนำม่วน สรวลบ่ซาง
คนกะหมาง เถิงเป็นเจ้า เขากะเมิน
อันลำนำ คำไพร่ บ่หมายว่า
แบ่งยศถา ชนชั้น จังสรรเสริญ
แต่ลำนำ คำม่วน สิซวนเซิน
อยู่ที่ใจ ไผเพิ่น ผู้ถือธรรม
ผิไผเบิ่ง เถิงคำ ลำนำเพี้ยน
ตีควมเปลี่ยน แปลกไป ให้ระส่ำ
ลองเบิ่งใหม่ ควมหมายพ้อง ของลำนำ
แล้วลองย้ำ นำเบิ่ง สิออนซอน
อภิธานศัพท์
1. ควม แปลว่า ความ
2.เพิ่น เป็น สรรพนามบุรุษที่สามพหูพจน์
3. ผะหยา คือ สุภาษิตพื้นบ้านอีสาน
4.จื่อ แปลว่า จำ
5. เถิง แปลว่า ถึง
6. แม่น แปลว่า ใช่
7. คึด แปลว่า คิด
8. เฮ็ด แปลว่า ทำ
9. ฮั่น แปลว่า ที่นั่น
10. ฮ้าง แปลว่า ร้าง เก่า หรือ พัง
11. คั่น แปลว่า ถ้า
12. เฮ็ดโตอ่ง แปลว่า ทำตัวหยิ่ง
13. ม่วน แปลว่า เพราะ
14. ซาง แปลว่า สร่าง
15.จัง แปลว่า จึง
16.ซวนเซิน แปลว่า ชวนเชิญ
17.ไผ แปลว่า ใคร
18.ผิ แปลว่า มาตรว่า แม้นว่า ผิว่า
19. เบิ่ง แปลว่า มองดู
20. นำ แปลว่า ด้วย หรือ ตาม
21. ออนซอน แปลว่า ชื่นชม ยินดี
22. มืนตา แปลว่า ลืมตา แต่ในที่นี้ หมายถึง ตั้งแต่ เกิด
27 พฤศจิกายน 2545 09:16 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
อักษรศาสตร์ไม่ได้สอนแค่ภาษา
แต่ให้เรียนรู้ชีวา กล้า-คิด-อ่าน
เปิดประตูสู่ฝันอันตระการ
เปิดตำนานเติม -คน-ให้เป็น-คน
แล้วสอนให้เข้าใจความเป็นมนุษย์
อย่ามัวอวดอุตริธรรม - ทำสับสน
เห็นกงจักรเป็นดอกบัวหลงตัวตน
อย่าตัดสินผู้คนด้วยสายตา
อักษรศาสตร์ ไม่ได้เป็นแค่ -ตัวอักษร-
พึงสังวรณ์ เติมชีวี ให้มีค่า
แฝงความคิด เด่นชัด แทรกปรัชญา
ให้รู้จัก พูดจา ภาษาคน
หยุดเสียเถิด หยุดกล่าวคำ -ลำนำไพร่-
แล้วเปิดใจ ให้กว้าง ดูสักหน
หยุดเสียเถิด หยุดยึดยื้อ ถือตัวตน
ร้อยผู้คน ย่อมแตกต่าง ทางความคิด
เทวาลัย ไม่ได้สวย แค่มุมเดียว
ใครเฉลียว ย่อมเห็นตาม ความวิจิตร
ร้อยบทบาท มุมมอง ของชีวิต
ร้อยลำขิต ร้อยเยื่อรวมสายใย
เพื่อนเอ๋ย.... เพื่อนรัก อักษรา
เธอจะอยู่ ยอดหญ้า หรือมุมไหน
หรือจะอยู่ บนหยาดฟ้า เทวาลัย
ไม่ว่าเธอ จะเป็นใคร ก็สำคัญ
10 พฤศจิกายน 2545 15:15 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
วันเพ็ญ เดือนสิบสอง ดูหมองเศร้า
ฟ้าไร้เงา นวลจันทร์ เคยฝันหา
เมฆบังบด ลดแรง แสงจันทรา
ต้องซบหน้า แอบสะอื้น กับผืนทราย
กระทงน้อย ลอยเคียง เรียงเป็นคู่
รักเขาดู สดใส สมใจหมาย
คนไร้คู่ สิเปล่าเปลี่ยว แสนเดียวดาย
ไร้จุดหมาย เหมือนกระทง หลงวังวน
ลอยกระทง คนเดียว เปลี่ยวใจแท้
ไร้คนแล เลือนลาง พลางสับสน
สายน้ำไหล ลางเลื่อน เหมือนวังวน
เหมือนล่องหน วนไหล ในนที
กระทงจูบ ลูบแล่น บนแผ่นน้ำ
ขอฝากความ ตามลมฝน บนสรวงศรี
ฝากคำพ้อ ต่อคงคา ผู้อารีย์
ใยโคมนี้ จึงโหยไห้ ไร้คนมอง
ลมพัดลวง ดวงประทีป ให้ริบหรี่
สายนที ยังยีย่ำ ให้ช้ำหมอง
เสียงครืนครืน สะอื้นฟ้า น้ำตานอง
แสงโคมล่อง ลอยไป โถ...ใจเรา
วอนกระทง อย่าหลงเล่ห์ สิเนหา
ปล่อยน้ำตา ให้หญิงปล้น เยี่ยงคนเขลา
อย่าหลงเทียบ เลียบกระทง ของนงเยาว์
อย่าใจเบา สับสน เหมือนคนลอย
8 พฤศจิกายน 2545 20:47 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ทุกวารวัน ฉันเฝ้าเรียง ร้อยเสียงฝัน
เก็บคืนวัน ที่ฉันวาด ด้วยลมหนาว
เก็บเส้นสี ที่ระบาย ด้วยดวงดาว
สุกสกาว ที่ใช้เขียน เลียนเสียงใจ
ฉันเฝ้าตรอง มองเหม่อ ฝันเธออยู่
เฝ้าเรียนรู้ ดูรอยฝัน วันสดใส
เรียนรักฝัน กันและกัน ฉันสุขใจ
ร้อยเรียงไว้ ในสำเนียง เสียงร้อยกรอง
ขอออดอ้อน วอนเธอ อย่าหยุดฝัน
แม้บางวัน ฝันกับรัก เธอหม่นหมอง
แม้จันทร์ไร้ ไม่สุกใส ดั่งใจปอง
แสงไม่ส่อง เพราะเมฆล่อง มาบดจันทร์
แม้เธอเป็น เช่นดวงจันทร์ ที่ทรงกลด
เมฆบังบด ลดแสงใส ให้ประหวั่น
ฉันจะเป็น ดวงดาว ช่วยพราวจันทร์
ให้แสงนั้น พลันแจ่ม แฉล้มงาม
จะขอเป็น เช่นลมหนาว เคล้าแสงโสม
โอ่โพยม โลมไล้ ให้หวาบหวาม
วะหวาบหวิว พริ้วลมรัก สลักความ
ฝากดาวงาม เฝ้าถามเดือน เป็นเพื่อนเธอ
จะเก็บฝัน พันฟ้า นภาสรวง
เก็บกลิ่นรวง ดวงดาวน้อย ค่อยเสนอ
เจียระไน รอยฝัน ที่ฉันเจอ
มอบให้เธอ ความฝัน วันงดงาม
4 พฤศจิกายน 2545 12:24 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
แค่ดอกไม้ รายทาง ข้างถนน
กลางผู้คน ปนเปลี่ยน เวียนวิถี
หลากความคิด ร้อยวิญญาณ ล้านชีวี
ทั้งชั่วดี มีจน ระคนกัน
บางคนชื่น รื่นรมย์ ชมดอกไม้
บ้างทักทาย อายประทิ่น ดมกลิ่นกลั่น
บ้างทำเฉย เย้ยกลิ่น มาลีวัลย์
บ้างเยาะหยัน ยีย่ำ แล้วทำเมิน
อยากบอกรัก สลักวาง กลางใจไว้
เผยความใน สักครั้ง ยังเคอะเขิน
หากรักเรา เขาเห็น เป็นส่วนเกิน
จะดำเนิน เดินทางใด ยังไม่รู้
เปรียบดอกร้อย พร้อยไหว ในใจฉัน
คืนและวัน ฝันเพียง ได้เคียงคู่
พลางเพียงพิศ พินิจความ ตามที่ดู
ใจพธู ไม่รู้สน คนอย่างเรา
แต่ดอกไม้ รายทาง ช่างงามล้ำ
จึงขอนำ มาทำช่อ ห่อเป็นเถา
อ่อนละเอียด ละเมียดละไม ให้กล่อมเกลา
ผูกใจเข้า เป็นเกล้าไว้ มอบให้เธอ
แค่ดอกไม้ กลางใจ คนไร้ค่า
เผยแววตา แววใจ ไปแล้วเก้อ
แต่ทุกวัน ฉันได้พบ ได้สบเจอ
ใจจึงเผลอ เออออ ขอติดตาม
เธออาจชื่น รื่นรมย์ ชมดอกไม้
อาจทักทาย อายประทิ่น กลิ่นไหวหวาม
หรืออาจเฉย เย้ยหัวใจ ดอกไม้งาม
หรืออาจหยาม ความรัก สลักมา
จึงหลับตา กัดฟัน แล้วกลั้นใจ
ทั้งดอกไม้ รายทาง วางตรงหน้า
แนบความรัก ถักทอ คลอวิญญาณ์
ต้องมรณา ในสักวัน เท่านั้นเอง
Liverpool is my favourite football team
Owen is one of my favourite strikers
Victoria may be my favourite name ( if shes not Victoria Beckham )
Espaniol, thats why weve met.