21 ธันวาคม 2548 01:15 น.

หนาวลมห่มรัก

เชษฐภัทร วิสัยจร

หนาว...แสบหนาวสอดเนื้อ.............นางกระสัน
ลม...เลียดเสียดสุดสวรรค์..............สวาทร้อง
ห่ม...ลีลาศโสมสุพรรณ.................นภาส่อง
รัก...หลอกบอกรักน้อง....................เสน่ห์เว้าคำหวาน

หนาว... คราวนอนขาดน้อง.........นางหาย
ลม...นรกโลกเผามลาย..............สมุทรแห้ง
ห่ม...โหมตะวันถวาย................กามเทพ กระพือพ่อ
รัก...เซ่นสุญตาแสร้ง...............โศกเศร้านิรันดร์สมัย				
20 ธันวาคม 2548 01:03 น.

โคลงแรกในชีวิต

เชษฐภัทร วิสัยจร

โคลง...ตลกคำตลาดคล้าย............ตดครู
แรก....แต่งติดขัดดู.....................กระดากด้วย
นัย....อุบาทว์บาดในหู...............โหมแหก
ชีวิต....กูหวิดม้วย....................หมกม้วยเหม็นโคลง 

โคลง...จัดความจิตคล้อย..........แจงคำ-
แรก ...ต่อรสบทธรรม...........ทิพย์อ้าง
ใน....นัยนิพพานนำ................หนุนย่อม-
ชีวิต...วิกฤติมล้าง..................หมดมล้างทางโคลง				
8 ตุลาคม 2548 21:26 น.

ท่วงทำนองของดวงดาว

เชษฐภัทร วิสัยจร

เมื่อเลวโหมหุ้มโลก
ทรามสุมโศกสรรพสัตว์
วิ่งว่ายในวงวัฎ
ก็วนวุ่นกับชีวิต

คืนมืดสัตว์มืดบอด
แสงเดือนวอดวิปริต
มารถ่อยเถื่อนทั่วทิศ
จึงเข็ญทุกข์ลำบากทับ

กูเฝ้าภาวนา
จับปากกากล่อมเพลงขับ
เติมแสงดาวระยับ
ประดับค่ำคืนมืดมน

ทำนองของดวงดาว
ซึ่งรวดร้าวและร้อนรน
แม้ฟ้ากระหน่ำฝน
จะเติมไฟเพื่อสานฝัน

ต่อสู้ความมืดมิด
เพื่อลิขิตค่าชีวัน
ปากกัดตีนถีบยัน
จะหยัดอยู่สู้ยิบตา

ทำนองของสัจธรรม
คือลำนำย้ำศรัทธา
สัมพุทธิปัญญา
ประยุกต์รสบทกวี

โกฎิล้านดวงดารา
ฉาบโลกหล้าแห่งกาลี
คลอท่วงทำนองศรี-
คีตลักษณ์ร้อยผสาน

คืนค่ำคำซาบซับ
สัตว์ซึ้งศัพท์จับวิญญาณ
อิ่มเอมเอิบดวงมาน
ปล่อยวางมวลมิจฉาธรรม

ทิพย์แรกแทรกจิตทราบ
เหนือบุญบาปคราบเวรกรรม
นิพพานกระแสนำ
เนื่องวิสุทธิพุทธกวี				
31 สิงหาคม 2548 07:23 น.

ใครคือพระเจ้า

เชษฐภัทร วิสัยจร

พระเจ้าเป็นใคร
หนูรู้สึกสงสัยใคร่ครวญอยู่
จึงลองตั้งคำถามถามคุณครู
ขอความรู้ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา

คุณครูอึ้งเอ๋อตามคำถามซื่อ
สมองตื้อลืมนิยามช่างงามหน้า
ได้ยินเสียงตวาดชัดหมดศรัทธา
นังเด็กบ้า! ถามอะไรไร้สาระ

หนูเลยถามแม่ค้าข้างถนน
คำตอบปนอัตลักษณ์กักขฬะ
พระเจ้าให้เงินกูใช้หรือไงฟะ
คือวาทะผู้ทุกข์ยากลำบากล้น

หนูลองถามนิสิตนักศึกษา
เธอบูชาวัตถุทุรผล
เพราะเงินคือพระเจ้าเฝ้าดิ้นรน
เหยียบคนจนลืม พระเจ้าต้องเข้าใจ

หนูจึงลองถามอลัชชี
อ๋อ..ต้องน้ำมันผีนี่แหละใช่
ปลุกเสกแท้ผลเน้นเห็นเร็วไว
เสน่ห์แรงทันใดเพียงได้ทา

หนูจึงถามบุรุษผู้ดูเยือกเย็น
สงบเด่นคล้ายแสงไฟฉาบใบหน้า
รัศมีเรืองรองผ่องกายา
เกิดศรัทธาลบนิยามความวุ่นวาย

สำหรับเขาพระเจ้าคือธรรมชาติ
กำหนดทุกบทบาทไม่ขาดสาย
บัญญัติหยดน้ำดินหินกรวดทราย
ความเกิดแก่เจ็บตายที่รายทาง

อยู่เหนือความซับซ้อนวงจรวัฏ
ซึ่งมวลสัตว์วุ่นวนบนความว่าง
เพียงหนูลองสมาทานการปล่อยวาง
จะพบทางถึงพระเจ้าเข้าใจธรรม

แบกรับความสับสนปนความเขลา
ชวนให้เศร้ากำสรวลนั่งครวญคร่ำ
ต่างคนต่างจุดยืนกล้ำกลืนจำ
มูลเหตุย้ำยุคสมัย เชื่อใครดี?				
5 สิงหาคม 2548 22:32 น.

เส้นทางกวี

เชษฐภัทร วิสัยจร

ก. กลั่นกรองความขื่นขมผสมผสาน
ข. เขียนตำนานชีวิตปะติดปะต่อ
ค. ค่อยเค้นคำละเมียดละเอียดละออ
ง. โง่งมตอใต้โลกกะโหลกกะลา

จ. เจ็บใจจำความรักอิหลักอิเหลื่อ
ฉ. ฉายเริ่มเชื้อกวีประสีประสา
ช. ช่วยชี้ตามความผิดระอิดระอา
ซ. ซ่อมเสริมค่าสร้างคนประพนธ์ประพันธ์

ฐ. ฐานนักเขียนแรกทุกข์ตะกุกตะกัก
ด. โดนร้างรักไร้ญาติทั้งหวาดทั้งหวั่น
ต. ต้อยต่ำช้ำชอกบทประชดประชัน
ถ. ถ้อยเดียดฉันชำแหละระแคะระคาย

ท. ท่องคำพระแทนไฟไสวสว่าง
ธ. ธรรมนำทางสู้รับกระสับกระส่าย
น. แน่วแน่ฝ่าทุกข์ทนทุรนทุราย
บ. แบกเรื่องร้ายด้วยใจจะใฝ่จะปอง

ป. ปรับปรุงงานหวังดีมีชื่อมีเสียง
ผ. ผิดถูกเรียงร่ำเพ้อเสนอสนอง
ฝ. เฝ้ารอคนอ่านรับประคับประคอง
พ. พร่ำคำร้องเรียกท้าจะฝ่าจะฟัน

ฟ. ฟ้าครึ้มอยู่ครู่เดียวประเดี๋ยวประด๋าว
ภ. ภพก็พราวแสงสีพิถีพิถัน
ม. มุเรียงถ้อยร้อยคำรำพึงรำพัน
ย. เยือกเย็นมั่นมานะทะเยอทะยาน

ร. ร่ายรำบนวิถี "กวีกระวาด"
ล. ลบผิดพลาดพิบัติประหัตประหาร
ว. วาดวาทะวิสัยวิจัยวิจารณ์
ศ. โศกสุขทุกข์ทนทานจะผ่านจะพ้น

ส. สร้างเสริมบทกวีขมีขมัน
ห. ให้เสกสรรสำแดงทุกแห่งทุกหน
อ. อัตตาตัดตอนกั้นบันดาลบันดล
ฮ. ฮึกเหิมค้นนิพานตระการตระกูล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเชษฐภัทร วิสัยจร
Lovings  เชษฐภัทร วิสัยจร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเชษฐภัทร วิสัยจร