23 กันยายน 2553 15:22 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
เข้าใจว่าบทนี้เป็นบทที่ ยุพดี ชวนส่างหม่องมาอ่าน คาลิล ยิบรานเป็นครั้งแรก ผมลองฝึกแปลดู อาจจะมีจุดที่ต้องแก้ไขอีกหลายจุด ถ้าสมองปลอดโปร่งจะกลับมาแก้ไขภายหลังครับ
The Prophet
Kahlil Gibran
Then said Almitra, "Speak to us of Love."
And he raised his head and looked upon the people, and there fell a stillness upon them. And with a great voice he said:
When love beckons to you follow him,
Though his ways are hard and steep.
And when his wings enfold you yield to him,
Though the sword hidden among his pinions may wound you.
And when he speaks to you believe in him,
Though his voice may shatter your dreams as the north wind lays waste the garden.
For even as love crowns you so shall he crucify you.
Even as he is for your growth so is he for your pruning.
Even as he ascends to your height and caresses your tenderest branches that quiver in the sun,
So shall he descend to your roots and shake them in their clinging to the earth.
Like sheaves of corn he gathers you unto himself. He threshes you to make you naked.
He sifts you to free you from your husks.
He grinds you to whiteness.
He kneads you until you are pliant;
And then he assigns you to his sacred fire, that you may become sacred bread for God's sacred feast.
All these things shall love do unto you that you may know the secrets of your heart, and in that knowledge become a fragment of Life's heart.
But if in your fear you would seek only love's peace and love's pleasure,
Then it is better for you that you cover your nakedness and pass out of love's threshing-floor,
Into the seasonless world where you shall laugh, but not all of your laughter, and weep, but not all of your tears.
Love gives naught but itself and takes naught but from itself.
Love possesses not nor would it be possessed;
For love is sufficient unto love.
When you love you should not say, "God is in my heart," but rather, I am in the heart of God."
And think not you can direct the course of love, for love, if it finds you worthy, directs your course.
Love has no other desire but to fulfil itself.
But if you love and must needs have desires, let these be your desires:
To melt and be like a running brook that sings its melody to the night.
To know the pain of too much tenderness.
To be wounded by your own understanding of love;
And to bleed willingly and joyfully.
To wake at dawn with a winged heart and give thanks for another day of loving;
To rest at the noon hour and meditate love's ecstasy; To return home at eventide with gratitude; And then to sleep with a prayer for the beloved in your heart and a song of praise upon your lips.
ความรัก
คาลิล ยิบราน: บทประพันธ์
เชษฐภัทร วิสัยจร: บทแปล
อัลมิตราเริ่มตั้ง.....................คำถาม
เถิดท่านโปรดนิยาม..............รักแท้
เพื่อผองพวกข้าตาม..............คิดต่อ
พลันปราชญ์เงยหน้าแล้..........เริ่มตั้งสติตรอง
มองฝูงชนสงบซึ้ง...............ในภวังค์
วจีปราชญ์กังวานดัง............ว่านี้
หากรักเรียกจงฟัง..............รักเถิด
ตามรักใช้ใจชี้...............ส่งน้อมนำทาง
แม้ระหว่างทางก้าวย่าง...........สูงชัน
ซ้ำขรุขระคับขัน.................เหนื่อยล้า
แม้นปีกรักโอบพัน............กายแน่น
ทนเถิดอดทนท้า..........ทุกข์ด้วยแรงใจ
แม้นในปีกรักเร้น.......หนามแทง
ให้เจ็บให้ใจแสลง..........ลึกร้าว
หากความรักสำแดง........พลังบอก
เถิดเชื่อในรักก้าว.-..........ย่างด้วยศรัทธา
ถ้าเสียงรักนั้นดับ...............ความฝัน
ดุจพระพายเหนืออัน.............เลือดร้อน
กระหน่ำสวนบุปผาพลัน.........พินาศย่อย ยับนา
แม้นรักสวมมกุฏอ้อน............อาจแกล้งแฝงนัย
ใช้กางเขนตรอกตั้ง..............ตรึงเธอ
คือรักที่มอบเสนอ..........นับได้
ยิ่งอกยิ่งพองเผยอ................ผยองจาก รักนา
อกยิ่งถูกบั่นให้.............หดด้วยรักกระทำ
จำเถิดขณะรักซึ้ง.............เซาะทรวง
ปีนป่ายจุดสูงดวง-........จิตสะท้าน
รักไล้ลูบเสียวปวง.........ก้านกิ่ง กายฤา
เทิ้มสั่นในแสงสะอ้าน.......อวดโอ้องค์ตะวัน
ขณะนั้นรากรักย้อน..........หยอกดิน
หยั่งรากจนสุดจินต์.........รักไว้
เปรียบข้าวโพดผันผิน........ฝักโอบ เธอฤา
ค่อยแกะปลดเปลือกให้........เปลือกพ้นพันธการ
งานบดข้าวโพดให้............เป็นผง
ขาวละเอียดเอนโอนองค์...........อ่อนน้อม
เตรียมไฟศักดิ์สิทธิ์สรง..............กายก่อน
แล้วอบขนมปังพร้อม.........เพื่อพระเจ้าคอยเสวย
เผยมหิทธานุภาพอ้าง...............ความรัก
เธอย่อมได้ประจักษ์................รสแล้ว
เผยความลับรักสลัก..................ลงจิต
ความรักย่อมไม่แคล้ว-............คลาดสร้างชีพนิรันดร์
กระนั้นแม้นหากว่ารู้..................ว่ากลัว
หวังแต่สุขใส่ตัว..................ติดเน้น
เถิดดีกว่าเถิดพัว-.................พันหมก
กายที่เปลือยเปล่าเร้น...........หลบไว้ให้ดี
เถิดหนีลานบดข้าว-............โพดงาม
ไปโลกไร้ฤดูยาม..............อย่างนั้น
หัวเราะไม่เต็มตาม..........ใจอยาก
หากร่ำไห้ต้องกลั้น...........หยดน้ำตาตรอม
ความรักย่อมมิให้.......สิ่งใด
นอกจากตนเองไฉน.......แน่แท้
รักย่อมมิเผลอไผล.......รับสิ่ง อื่นเฮย
รักมิครอบครองแล้........มิอาจให้ใครครอง
บนครรลองรักนั้น..............เพียงพอ
ตามตอบความรักรอ........ว่าเว้า
เมื่อรักเกิดจงพะนอ..............ใจตอบ
เราอยู่ในจิตพระเจ้า.............จิตนี้พระองค์เดียว
อย่าเที่ยวหาญปากกล้า..........ทระนง
พระเจ้าอยู่ในเราหลง...........เล่นทะเล้น
อย่าอวดว่าเธอคง..............ถึงขนาด
นำรักแบบเธอเค้น...........คิดสร้างทางดู
หากรักรู้ซึ้งค่า...........ของเธอ
รักย่อมพร้อมเสนอ........ขีดขั้น
เพราะรักมิเคยเผยอ..........ความอยาก อื่นเฮย
นอกจากให้รักนั้น.........พิสุทธิ์ด้วยรักเอง
หากเกรงหากอาจแพ้..........ปรารถนา
เธอโปรดพิจารณา...........ดั่งนี้
ละลายไหลเฉกธารา..........หลอมเถิด
ขับกล่อมรติกาลชี้........ชัดด้วยสัจธรรม
นำความเจ็บปวดร้าว...........ลึกไหล
เจ็บเพราะอ่อนโยนไป..........ย่อมรู้
บาดเจ็บเพื่อเข้าใจ.............รักจาก ตนเฮย
โลหิตหลั่งชโลมกู้.........เกียรติด้วยปรีดา
ทิวาใหม่ให้ตื่นพร้อม..........รับอรุณ
ด้วยจิตเบิกบานละมุน........มากล้น
ซาบซึ้งและขอบคุณ.........รักอิ่ม
เพื่อพักยามเที่ยงท้น.........สุขแล้วพิจารณา
เพื่อพากายกลับเหย้า..........ยามเย็น
ย่อมจิตซาบซึ้งประเด็น...............ดับร้อน
เพื่อยามสวดมนตร์เห็น............รักเถิด
ขณะหลับขยับโอษฐ์อ้อน........เอ่ยซร้องสรรเสริญ
3 กรกฎาคม 2556 04:23 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
Marriage ของ Kahlil Gibran
จากหนังเรื่อง "ชั่วฟ้าดินสลาย" ตอนที่พะโป้ สอนส่างหม่อง และปฏิเสธ ที่จะตัดโซ่ให้ขาด
ผมลองแปลดูเล่นๆ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย
You were born together, and together you shall be forevermore.
You shall be together when white wings of death scatter your days.
Aye, you shall be together even in the silent memory of God.
But let there be spaces in your togetherness,
And let the winds of the heavens dance between you.
Love one another but make not a bond of love:
Let it rather be a moving sea between the shores of your souls.
Fill each other's cup but drink not from one cup.
Give one another of your bread but eat not from the same loaf.
Sing and dance together and be joyous, but let each one of you be alone,
Even as the strings of a lute are alone through they quiver with the same music.
Give your hearts, but not into each other's keeping.
For only the hand of Life can contain your hearts.
And stand together, yet not too near together:
For the pillars of the temple stand apart,
And the oak tree and cypress grow not ineach other's shadow.
วิวาห์
คาลิล ยิบราน: บทประพันธ์เชษฐภัทร วิสัยจร: บทแปล
เธอเกิดเป็นคู่ข้าง............เคียงกาย
ครองรักนิรันดร์สาย..............รักร้อย
ขาวปีกมฤตยูสยาย.............ปีกเยี่ยม นั่นแล
ย่อมกวาดชีวิตน้อย..........นิดให้เสื่อมสูญ
บริบูรณ์ความสุขข้าง.................เคียงกัน
ในจิตพระเจ้าอัน...................สงบแท้
ยังพื้นที่สวรรค์.....................วาดแบ่ง ให้นา
ปล่อยพระพายพัดแล้.........หยอกเย้าเย็นทรวง
หวงรักแต่อย่าสร้าง...............พันธการ
หากเปรียบรักประมาณ..........สมุทรได้
เคลื่อนระหว่างฝั่งวิญญาณ.........เธออยู่
ประคองรักสองใจไว้.............ว่ายเวิ้งมหานที
วารีแบ่งจอกอ้าง......................รักเสนอ
แม้กระหายอย่าเผลอ.............แย่งแก้ว
ขนมปังแบ่งกันเสมอ..............สมานสมัคร
อย่าแย่งกัดกินแล้ว...............ทะเลาะให้ใจหาย
ลวดลายลีลาศร้อง...................บรรเลง
บางขณะลองเว้นเพลง..................ผ่อนบ้าง
ให้พื้นที่อย่างเกรง -....................ใจเถิด
ประดุจโสตสายพิณสร้าง...........ศัพท์ด้วยเสียงเดียว
โดดเดี่ยวแต่ศัพท์ซร้อง...........สื่อศิลป์
สะเทือนโสตทำนองพิณ............พิภพซึ้ง
จงมอบรักใจจินต์.....................จนหมด
แต่อย่าฝืนจนอึ้ง........................กระอักด้วยตัณหา
หน้าที่หัตถ์ชีพผู้..................อมตะ
คือหนึ่งเดียวที่จะ-.................รับได้
อาจหนักเกินภาระ.................มวลปุ -ถุชนเนอ
หากแบกใจใครให้..................หนักอึ้งอกฝืน
เถิดยืนอยู่คู่ข้าง............เคียงใจ
อย่าสนิทชิดเกินไป.........เปรียบย้อน
เสาวิหารอยู่ห่างไฉน.........นั่นเล่า
ไม้ใหญ่ยากใหญ่ซ้อน.........ซาบซึ้งอยู่เสมอ
25 สิงหาคม 2553 23:08 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ศิลเปรอะเขรอะอยู่ใกล้........ตัวกู
เลอะเทอะเละเทะดู........แปลกหน้า
บ้างเสียงปู๊ดปาดหู..........หันผึ่ง
กลิ่นตดเหมือนบูดบ้า........แบบนี้เรียกเหม็น
ศิลเปรอะเขรอะโลกทุกโศกเศร้า
ศิลเปรอะเรื่องเก่าเราไม่เบื่อ
ศิลเปรอะสร้างเงินทุนไว้จุนเจือ
ศิลเปรอะปลุกความเชื่อเพื่อมวลชน
ผู้คนเราร่ำรวยด้วยศิลเปรอะ
แม้เลอะเทอะแต่มากฤทธิประสิทธิผล
สร้างตลาดลดอดอยากความยากจน
เลิกทุกข์ทนมาแจกทองน้องพี่เรา
ไว้ตั้งพรรคการเมืองประเทืองชาติ
คืออำนาจศิลเปรอะเขรอะวงเหล้า
เล่นระบำรำฟ้อนก่อนจะเมา
เคาะจานเก่ากระจกแก้วแล้วเฮฮา
ต่อด้วยหมอกควันไฟใส่เลาปี่
แล้วพิรี้พิไรร้องกับน้องหมา
ระบายภาพใส่ขนคนลือชา
กลุ่มพวกข้าศิลเปรอะเขรอะทางเดินฯ
23 สิงหาคม 2553 12:55 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
นิราศแล้วยังคะนึงถึงความหลัง
เชษฐภัทรหวั่นไหวในภวังค์
สิ่งพลาดพลั้งในอดีตยังติดตาม
ชาติก้าวย่างยิ่งใหญ่ไปข้างหน้า
สิบปีรถไฟฟ้าน่าเกรงขาม
รักที่เคยยึดถือคือนิยาม
คู่กับความเป็นประชาธิปไตย
จากหมอชิตวิ่งย้อนไปอ่อนนุช
อีกสายสุดบรรจบตรงวงเวียนใหญ่
ความรักเก่าเพ้อพล่ามบอกความใน
ความรักใหม่จึงมีหน้าตาอย่างนี้
ความคิดคนวนเวียนไม่เปลี่ยนผัน
ทุกคืนวันหวาดผวาการปาหี่
เลือกตั้งชาติไม่ทันมั่นคงดี
เดี๋ยวก็มีปฏิวัติมาจัดการ
แล้วฉีกรัฐธรรมนูญเปลี่ยนศูนย์ถ่วง
ให้ลุล่วงคำสัตย์รัฐประหาร
เลือกตั้งใหม่เพื่อจัดรัฐบาล
ให้ผู้แทนรับประทานบ้านเมืองกัน
ถึงมีรถไฟฟ้ามาใหม่วิ่ง
แอร์พอร์ตลิ้งค์โยงเส้นทางงานสร้างสรรค์
คนคงคิดแบบเก่าอย่างเมามัน
วงจรเดิมดื้อรั้นพันใจกาย
"พญาไท" ทางแพร่งแบ่งอีกเส้น
สถานีโดดเด่นเห็นอีกสาย
เผื่อจะเปลี่ยนดวงจิตที่ปิดตาย
สู่จุดหมายมุ่งหน้าหาความจริง
ไทนี้มิใช่ทาสประกาศชัด
ให้เจนจัดคิดครวญทวนทุกสิ่ง
เมื่อหลายฝ่ายขัดแย้งยิ่งแย่งชิง
อย่าพึ่งพิงองค์ความรู้อยู่ชุดเดิม
มิใช่ทาสนิยามรักเพียงสักชุด
เราต้องขุดตั้งคำถามตามตอบเสริม
หลายหลายมุมหลายเสียงสำเนียงเติม
เพื่อจะเริ่มเป็นผู้รู้เล่ห์กล
มองสถานีเบื้องหน้า "ราชปรารภ"
ตรองระบบการศึกษาพาฝึกฝน
มหาวิทยาลัยสอนคนให้เป็นคน
หรือเป็นแค่ผลิตผลหุ่นยนตร์ทุน
ผลิตทุกนิยามความฉาบฉวย
เร่งเร็วช่วยสร้างกำไรไหวปรับหมุน
ลืมสอนให้ตรึกตรองมองบาปบุญ
ศีลธรรมคำจุนทุกทุนนี้
เป็นอีกเรื่องเดิมเดิมเสริมปรารภ
ไม่เคยจบไม่เคยจำย่ำกับที่
จะอีกหมื่นร้อยวันอีกพันปี
ก็ไม่หนีแนวทางอย่างเดิมเดิม
"มักกะสัน" ตลอดนักรักกระสัน
ทุกคืนวันวนวิ่งยิ่งฮึกเหิม
พัฒนาชีวิตคิดปรับเติม
เพื่อริเริ่มก้าวย่างอย่างเข้าใจ
ปฏิวัติกี่ครั้งกี่ครั้งแล้ว
คงไม่แคล้วหิวสตังค์อีกครั้งใหม่
เผด็จการหรือประชาธิปไตย
ก็กระสันอยู่ร่ำไปจำให้ดี
"รามคำแหง" สื่ออักษรแบบลายสือ
จากลายมือเป็นพิมพ์ดีดขีดวิถี
แล้วเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เวิ่นเว้อวจี
เครื่องบีบีมาใหม่ใช้ให้ทัน
อักษรสื่อข่าวสารการรู้รอบ
ทุกคำตอบหลากหลายวุ่นวายหวั่น
ข่าวจริงลวงหวานขมผสมกัน
ยิ่งเร็วยิ่งเลือกสรรหมั่นตรึกตรอง
แช็ตบีบีบอกรักกันสักนิด
แนบสนิทนิ้วชี้-กลางจิ้มอย่างคล่อง
ข่าวระเบิดประท้วงกันต้องกลั่นกรอง
เลือกบอกน้องให้ระวังสังวรตาม
ถึง "หัวหมาก" หากมั่วข่าวชั่วร้าย
จะวุ่นวายหากลืมย้ำตั้งคำถาม
หัวข้อข่าวสำนักข่าวสืบสาวนาม
อย่ามองข้ามความลำเอียงเสียงสื่อลวง
อย่ายึดติดตามข้างอย่างที่ชอบ
ทุกกฎกรอบรัก-เกลียด-กลัวคือตัวถ่วง
ยึดติดเหมือนหมากฝรั่งเหนียวทั้งยวง
เสียงทุกข้างใช้ชั่งตวง ทั้งปวงไป
ถึง "ทับช้าง" ทางเปลี่ยวโดดเดี่ยวแท้
ยังต้องแก้งานช้างกันอย่างใหญ่
ทัศนคติความเป็นคนพลเมืองไทย
สิทธิ์การเมืองใครใครให้เท่ากัน
จริงที่ความรวยจนคนแตกต่าง
บนเส้นทางการลงแรงความแข็งขัน
แต่สิทธิ์การเลือกผู้นำย้ำทุกวัน
ไม่แบ่งชั้นแบ่งชีวิตติดราคา
สวัสดิการการศึกษาสาธารณสุข
บำบัดทุกข์คนยากไร้ให้คุณค่า
ฉันบอกเธอเช่นนั้นทุกวันมา
เธอก็รับพยักหน้าว่าเออ-ออ
"ลาดกระบัง" ข้างหน้าเมื่อมาถึง
ยังอลอึงภวังค์เก่ามัวเมาต่อ
วงจรเก่าหมุนมาใหม่ไม่เคยพอ
เลยอยากขอ กำบังจากสังคม
บางทีอยากละวางทางชีวิต
ทุกจริตเลวดีที่สั่งสม
ลมปากด่า - ลมระรื่นคนชื่นชม
จะขอกำบังลมหลบมาพัก
แต่ชีวิตยังคงต้องเดินหน้า
หยัดอยู่ท้าทายโลกทุกข์โศกตระหนัก
บางปัญหาแก้ไม่ได้วุ่นวายนัก
ก็แค่ทำความรู้จักแล้วปล่อยวาง
หากปัญหาแก้ไม่ได้ไม่ต้องแก้
ขอเพียงแค่ยืนยัดกล้าอย่าทิ้งขว้าง
ค่อยปรับเหตุหลากหลายทางสายกลาง
ลองอยู่อย่างเข้าใจคิดให้ดี
"สุวรรณภูมิ" ถึงจุดหมายเหมือนง่ายมาก
แต่ก็ยากถ้าทบทวนให้ถ้วนถี่
ประวัติศาสตร์โศกสุขทุกกรณี
กว่าจะถึงวันนี้ที่เป็นคน
โลกผ่านผันวันปีอย่างที่เห็น
ทุกประเด็นคำถามความสับสน
อาจยังวุ่นเหว่ว้าสาละวน
หากไม่ค้นไขว่คว้าหาบทเรียน
เทคโนโลยีก้าวหน้าไทยกล้าแกร่ง
ยิ่งเรืองแรงรักในใจไม่เคยเปลี่ยน
นิราศใหม่ใจเก่าเฝ้าวนเวียน
ยังพากเพียรตั้งคำถามเพ้อพล่ามไป
เชษฐภัทรประพันธ์เพลงบรรเลงนิราศ
ป่าวประกาศสุขและทุกข์อีกยุคสมัย
ด้วยรักและศรัทธาประชาธิปไตย
ผ่านวิสัยคำกวีอีกทีเอย
23 สิงหาคม 2553 00:15 น.
เชษฐภัทร วิสัยจร
ไม่อยากให้วรรณกรรมย่ำกับที่
เราต้องมีนิสัยใฝ่การอ่าน
เริ่มแรกจากวิสัยทัศน์รัฐบาล
ต้องจัดการปลุกกระแสแก้ไขกัน
ให้นักเขียนเป็นบุคคลควรยกย่อง
ค่านิยมเรียกร้องต้องมุ่งมั่น
ให้นักเขียนเป็นตัวอย่างก้าวย่างกัน
สถาบันการศึกษาพาเริ่มเลย
ลดกระแสหลีดงานบอลผ่อนลงบ้าง
เพื่อสรรสร้างให้ราคาความผ่าเผย
ให้ความรู้นักศึกษาอย่าเฉยเมย
อย่างที่เคยตามกระแสแค่เปลือกคน
ทั้งรายการโทรทัศน์จัดคุณค่า
โฆษณาให้งานเขียนเพียรฝึกฝน
เลิกเถิดพวกชวนโหวตลิงโลดลน
เหล่าดาราสาละวนบ่นบ้ากาม
รัฐบาล มหาวิทยาลัย ใช่ทั้งหมด
สื่อมวลชนต้องกำหนด บทคำถาม
ค่านิยมเยาวชนผลเพาะตาม
ทุกรูปนามที่เป็นไปในสังคม
หากส่งเสริมให้คนหมั่นสร้างสรรค์คิด
เลิกยึดติดความฉาบฉวยช่วยเพาะบ่ม
มีสติสตังค์จัดวัตถุนิยม
ปัญญาจะเริ่มสะสมลับคมเติม
คนจะเลิกหลงใหลในเปลือกกระพี้
ตามวิธีสืบสานการอ่านเสริม
คือช่างคิดพิจารณาพาประเดิม
ก่อความคิดริเริ่มเพิ่มเติมมา
เป็นเพราะงานวรรณกรรมนำพาสร้าง
แผนเน้นทุกเส้นทางอย่างมีค่า
ปลุกความคิดการเมืองประเทืองปัญญา
ปลุกราคาความเป็นคนคือผลดี
กริ๊ง +++ กรี๊ง!!!! นาฬิกาปลุกให้ลุกตื่น
สะดุ้งยืนจากเตียงกว้าง พลางเหม็นฉี่
อะไรแฉะบนที่นอนในตอนนี้
อ้าวบัดสี น่าอดสู กูฝันไป!!!