7 ธันวาคม 2546 02:13 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
เวลาแห่งความรัก
มันช่างสับสนนัก
เมื่อเวลารักเธอมักจะพูดเสมอว่า
ชาตินี้ผมขาดคุณไม่ได้
แต่นานไป ทุกคำที่เธอได้พูดมา
มันก็เป็นแค่เพียงลมปาก
ที่ไม่มีความหมายอะไรเลยหนา
เธอลืมคำที่เธอพร่ำต่อกันว่า
ผมรักคุณ....
4 ธันวาคม 2546 19:31 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
ฟ้าไม่อาจกั้นความรักที่ฉันนั้นมอบให้กับเธอ
รักฉันเหนือทุกสิ่งมั่นคงยิ่งดั่งขุนเขาคีรี
เหมือนปลาคู่กับน้ำเป็นนิรันด์อยู่อย่างนี้
เหมือนฟ้าก็มิอาจที่จะพรากเธอจากฉัน
เป็นเพียงแค่นิยามท้องฟ้ากว้างทางแสนไกล
เธออยู่ในใจฉันทุก ทุกวันเธอรู้ไหม
ทำงานหรือว่าฉันนั้นทำอะไร
ในหัวใจก็คิดถึงซึ่งเพียงเธอ
ฟ้ากั้นแค่ทางผ่านดังสัญญาณกันฉันและเธอ
พิสูจน์ฉันกับพิสูจน์เธอว่ามั่นเสมอรักจากเธอ
ที่มีให้กับหัวใจฉัน..ทุก ทุกวันผ่านฟ้าเวลาที่ไม่ได้เจอ
4 ธันวาคม 2546 16:18 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
แม้ไม่ต้องการคิดถึง ใยจึงมีเงาเธอในดวงตา
แม้ไม่ต้องการจะใฝ่หา แต่ต้องมาคิดถึงแต่เธอ
รู้สึก ลึก ลึกทุกนาที ทุกครั้งที่มีเธอมาเสมอ
ว่าสักวันนี้คงต้องเจอ วันที่เธอนั้นเดินจากไป...
4 ธันวาคม 2546 16:12 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
แสงดาวส่องสกาวสุกแพวพราวบนฟากฟ้า
นั่งมองดวงดาราน่าอิจฉาท้องฟ้าเหลือเกิน
ดาวสวยช่างเปล่งปลั่งใสสว่างอยู่กลางนภา
เหลียวมองทั้งซ้าย-ขวาเพริศเพลินตาน่ายินดี
ท้องฟ้าคู่กับดาวเปรียบเหมือนเราคู่กับคนดี
ห่วงใยเธอคนดีป่านฉะนี้อยู่เป็นสุขดีหรืออย่างไร
คืนไหนท้องฟ้าหม่นดาวก็หม่นหมองไปด้วย
เพราะฟ้าเป็นตัวช่วยส่องสว่างทางให้ดวงดาว
คิดถึงบ้านที่จากคิดถึงมากจากมานาน
คิดถึงคนไกลบ้านสุดสะท้านวิญญาณตัวเอง
พ่อ-แม่ ที่อยู่ไกลเป็นอย่างไรในตอนนี้
ลูกห่วงมากนะนี่อยู่ทางนี้เป็นสิบ...สิบปี
เหมือนดาวที่ห่วงฟ้าในเวลาต้องจากไป
แล้วลูกจะมาใหม่หอบเอาไออุ่นความรัก
กลับมาฝากจากแดนไกลฯ
4 ธันวาคม 2546 15:54 น.
เจ้าหญิงแห่งกาลเวลาฯ
ฟ้าสุดที่ขอบฟ้า
แสงจันทราขึ้นจากดิน
น้ำค้างมารวยริน
เป็นอาจิณทุกราตรี
ฟ้าหมองที่ท้องฟ้า
หาดาราก็ไม่มี
เมฆหมอกคลุมราตรี
แสงที่มีเลยมืดมัว
ฟ้าดับเพราะไร้ดาว
ใจจึงร้าวด้วยความกลัว
มองไปทุกถิ่นทั่ว
มืดสลัวเข้าเกาะกิน