4 มกราคม 2549 11:26 น.

พระคุณครู

เจ้าพานทอง


ประนมกรประณตจิตประจำตน 
ประกอบผลประกาศคุณประคองสาร
คุณวิชาคุณศึกษาคุณอาจารย์ 
นิจกาลจารจิตประจำจอง 

ผจงสรรพรรณผกาบุปผาศรี 
กตเวทีเพี้ยงบิดามารดาสอง 
ผู้พายพาศิษยาข้ามฝั่งครอง 
เสร็จสมปองครรลองธรรมนำเจริญ 

ขอปัญญาแตกฉานปานข้าวตอก 
หญ้าแพรกพรอกเพียรอดทนคนสรรเสริญ 
เคารพดั่งดอกมะเขือเชื้อชวนเชิญ 
ขอเพลิดเพลินเพียงมาลีพลีสักการ์ 

พานพุ่มพร้อยร้อยมาลัยให้อาจารย์ 
อธิษฐานรัตนตรัยให้รักษา 
อันตรายโรคภัยมลายลา 
เทิดบูชาเหนือชีพิตนิจนิรันดร์



				
27 ธันวาคม 2548 21:18 น.

ดิน น้ำ กับต้นรัก ...ต่อกร(กลอน)กับมารแมงมุม

เจ้าพานทอง




มารแมงมุมว่า
๐ เธอเป็นดินฉันเป็นน้ำปลูกความรัก
ความแน่นหนักเป็นพื้นฐานการคบหา
ความซื่อสัตย์คงมั่นคือสัญญา
ความศรัทธามีต่อกัน...ฉันกับเธอ

๐ เธอคือฉันฉันคือเธอเสมอค่า
วันเวลาลึกล้ำสม่ำเสมอ
นับจากวันที่ใจได้พบเจอ
งามเลิศเลอไม่เคยชืดจืดจางเลย

๐ ยิ่งเนินนานต้นไม้เราเฝ้าเติบใหญ่
แม้ห่างไกลใจคะนึงถึงคำเอ่ย
พรอดพร่ำรักปักดวงจิตสนิทเคย
เป็นคำเผยความในใจให้แก่กัน
   
เจ้าพานทองต่อ
๐ คืนวันพ้นต้นรักนั้นพลันเติบใหญ่
สูงขึ้นไปเทียมเมฆาฟ้าสุขสันต์
ออกดอกผลเป็นพยานสานชีวัน
เรารักกันไม่ผันพรากจากครรลอง

๐ เธอเป็นดินฉันเป็นน้ำปลูกความรัก 
ให้ประจักษ์ต้นรักนี้มีเจ้าของ
เธอและฉันมือน้อยน้อยคอยประคอง
เพียงเราสองสร้างสัมพันธ์นิรันดร์กาล


				
25 ธันวาคม 2548 13:40 น.

เพลงนี้ มีแต่เธอ...

เจ้าพานทอง



             ๐ เมื่อแรกพบสบตาใจข้าฯ อ่อน
             ขนตางอนงามจับจิตพิสมัย
             ดั่งศรรักปักทรวงบ่วงหัวใจ
             หวังเพียงได้แก้วตามาประคอง

             ๐ พอพบเธอเพ้อไปในวันพรุ่ง
             มีพรายรุ้งเรืองไสวดูใสผ่อง
             มีนกน้อยลอยฟ้าข้าฯ แอบมอง
             และมีสองหัวใจในห้องเรา

             ๐ ที่รักข้าฯ รออยู่ไม่รู้หน่าย
             จากยามสายถึงบ่ายคล้อยคอยใจเหงา
             ภาพเธอนั้นบันทึกนึกแนบเนา
             ในดวงใจอันหม่นเศร้าเร้าอยู่นาน

             ๐ อยากได้เพียงเมตตามานอนหนุน
             ได้การุณย์จุนเจือเพื่อสืบสาน
             ได้ปรานีที่เอ็นดูอยู่ทุกวาร
             ว่าจะพานพบกันทุกวันไป

             ๐ บทเพลงนี้มีเพียงเธอเออละหนอ
             ลำนำล้อเล่นกันฝันและใฝ่
             พรรณนาหารักเธอเทียวเพ้อไป
             เวลาเหงาเฝ้าห่มไห้ในทำนอง

             ๐ บทเพลงนี้มีแต่เธอเสมอค่า
             ดุริยาพากล่อมห้อมเราสอง
             จังหวะซึ้งจึงทราบซ้ำน้ำตานอง
             ไม่อาจได้เธอมาครองปองจิตตรม

             ๐ เพราะข้าฯ ต่างห่างที่มีแต่ตัว
             ข้าฯ หม่นชั่วมัวหมางช่างไม่สม
             เธอคือฟ้าคือดาราอันน่าชม
             คือสายลมที่ลอยไปไม่กลับมา

             ๐ หวังสักวันพลันเจ้าได้เข้าใจ
             ว่ามีใครหมายมาตรปรารถนา
             ถึงเจ้าอยู่ทุกเมื่อไม่เบื่อลา
             เมื่อนั้นข้าฯ จะเอื้อมฟ้าหาเจ้าเอง


				
23 ธันวาคม 2548 01:08 น.

ไม่มีเงาหัว

เจ้าพานทอง



๐ เอาแต่เพลินเดินกลางทางอบาย 
หลงเหลี่ยมลายพ่ายพ้องของขลาดเขลา 
ตาบอดปิดคิดชั่วมั่วมัวเมา 
ไม่มีเงาหัวหายร้ายรุนแรง 

๐ มัวแต่มองของชั่วรั่วธรรมศีล 
เป็นอาจิณติดจำ--กล้ากำแหง 
เริ่มทำลายกลายพิษจิตแสดง 
ชั่วช้าแฝงฝั่งในไป่เห็นตัว 

๐ หลงแต่พล่ามหยามเขาเรา ฤ แน่ 
ตัวแหละแพ้--เพียงแลเผินเดินสลัว 
ไฟปัญญาพร่าหายไม่รู้ตัว 
ขมุกขมัวชั่วชั้นมิบรรเทา 

๐ เอ้า! อย่ายั้งถั่งทำกรรมเยอะเยอะ 
จะได้เจอะเลอะบาปหาบหามเสา 
ฆ่าชีวิตบ่ผิดสัตว์ปัดบุญเก่า 
แล้วนอนเนาเอาสุรามาลิ้มลอง 

๐ เอ้า! อย่าช้าคร่าฉุดมุดกามา 
มุ่งมุสาฝ่าขนบคบชู้สอง 
พรากเขามาพาเขาจาก--ยากประคอง 
คลายครรลองสนองใคร่จัญไรโลด 

๐ เอ้า! อย่าหยุดรุดขโมยโดยมิบอก 
ลอบลวงหลอกลอกลายอุบายโฉด 
ทำเถอะทำกรรมเกวียนเวียนวกโทษ 
อย่าอิดโอดอ้างธรรมยามช้ำกาย 

๐ จงประจานสิงานชั่วอย่ากลัวขาม 
จงประณามสิความเลวให้เหลวหาย 
จงประจำสิสติอย่าริคลาย 
จงประกายสิพรายแสงแห่งปัญญา 

๐ จงทะลายเถอะข่ายขุมชุมนุมบาป 
จงขนาบเถอะลาภยศ ลดหรรษา 
จงทะนุอายุบุญหนุนวิชา 
จงขมาเถอะเงาหัวอย่ามัวเพลิน 



				
20 ธันวาคม 2548 19:21 น.

รื่นรมย์ ห่มรัก

เจ้าพานทอง




                     ๐ รื่นรมย์ ห่มรัก สลักทรวง 
                     ชื่นเชย เลยล่วง อุษาสาง 
                     เนื้อนวล อวลประทิ่น กลิ่นจาง 
                     แก้มนาง คลึงเคล้า เร้าประโลม 

                     ๐ ชมนะ แม่นะ จะยลเจ้า 
                     เพียงเรา เนาเขนย จะเย้าโสม 
                     เก็บดาว เกี่ยวเดือน เกลื่อนโพยม 
                     ฉมโฉม โนมพรรณ วรรณนา 

                     ๐ ขออิง ขอแอบ แนบหทัย 
                     ห่อนไกล ใจเธอ เทียวเพ้อหา 
                     อยู่ร่วม สรวมกาย ถวายชีวา 
                     ดั่งข้า ซื่อสัตย์ มิขัดนาย 

                     ๐ อยากเป็น อาภรณ์ วอนห่ม 
                     เป็นพรม รองนาง ไม่หางหาย 
                     เป็นสร้อย ห้อยศอ บ่อับอาย 
                     เป็นสาย สไบบาง อยู่กลางทรวง 

                     ๐ รสรัก ลิ้มละไม ใจหวะหวาม 
                     โมงยาม เคลื่อนคล้อย มิหงอยง่วง 
                     ยังตรึง ตราไว้ ในแดดวง 
                     แสนหวง บ่วงอุรา ทุกนาที 

                     ๐ พี่จะจำ คำเจ้า เฝ้าฝัน 
                     คืนวัน ย้ำสลัก เป็นสักขี 
                     คะนึงนาน แม้กาลเปลี่ยน เวียนปี 
                     ก็บ่เลือน เคลื่อนฤดี หนีจากนาง 








ภาพประกอบ ผลงาน อ.จักรพันธุ์ โปษยกฤต ครับ ขออนุญาตมา ณ ที่นี้ด้วย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าพานทอง
Lovings  เจ้าพานทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าพานทอง
Lovings  เจ้าพานทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจ้าพานทอง
Lovings  เจ้าพานทอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเจ้าพานทอง