28 เมษายน 2546 17:53 น.
เจือจันทร์
จะขอกล่าวถึงจอร์จ เฮอร์เบิร์ต มี้ด
เป็นนักจิตวิทยาน่าเลื่อมใส
อีกเป็นชาวอเมริกันศิวิไลต์
อธิบายตัวตนใช้หลักคูลีย์
มี้ดแบ่งตัวตน2ส่วนใหญ่
คือส่วน ME และส่วน I ในวิถี
จะให้ถูกเริ่มที่ I ไปที่ ME
จึงถูกต้องตามทฤษฏีที่ใช้จริง
คำว่า I ในที่นี้คือใดเล่า
ก็คือส่วนที่เจ้าใช้สร้างสรรค์
ทำอะไรก็ได้ใจต้องการ
ที่ไม่ใช่ผู้อื่นขานให้เจ้าทำ
คำว่า ME ในที่นี้คือใดหรือ
ME ก็คือการยอมตามนะงามขำ
ความต้องการของสังคมเขาให้ทำ
คือนิยามที่งามล้ำคำว่า ME
โลกเรานี้ทฤษฏีมีมากมาย
อีกหลากหลายดั่งดอกไม้หลายหลากสี
หากว่าเจ้าไม่เข้าใจ I และ ME
ขอคนดีจงเข้าใจ I LOVE YOU
25 เมษายน 2546 21:13 น.
เจือจันทร์
ดื่มความฝันย้อมใจให้มีหวัง
จะข้ามฝั่งแสนไกลไปให้ถึง
แกล้มบทกลอนวอนเว้าเฝ้ารำพึง
เสพซาบซึ้งร้อยฝันพันกวี
บรรจงรินกลิ่นฝันรำพันหลั่ง
มีความหลังบ่มหมักเป็นศักดิ์ศรี
ความลำบากยากเข็ญเป็นดีกรี
อีกความดีความชั่วเป็นตัวตน
ได้ความฝันชั้นดีดีกรีหนัก
รินแรงรักจากใจใส่สักหน
ก่อนจะใช้ร่างกายแทนไม้คน
ความฝันปนความรักมักเข้ากัน
เป็นความฝันศรัทธามาหนึ่งแก้ว
ก็พร้อมแล้วที่จะซดรสความฝัน
เจ้าความฝันชั้นดีสีอำพัน
วันนี้ฉันจะดื่มเจ้าให้เข้าคอ
ดื่มฝันแล้วแก้วใสเหมือนใจขาด
ฝันมันบาดปาดอารมณ์ขมจริงหนอ
กลิ่นก็แรงรสก็ฝาดอีกบาดคอ
ไม่รีรอเทฝันทิ้งวิ่งหนีไป
24 เมษายน 2546 14:53 น.
เจือจันทร์
ยามฝนมาฟ้าหม่นจนใจหลับ
ยินสดับเสียงหัวใจกลางสายฝน
เย็นยะเยียบเปรียบอ้างว้างกลางหมู่ชน
เหงาระคนปนคิดถึงจึงเขียนมา
ห่างไกลกันเหมือนกรรไกรมีไว้ตัด
รักรึงรัดเคยมัดใจให้ห่วงหา
จำต้องพรากจากกันไปด้วยไกลตา
คำสัญญาคงไร้ค่าถ้าห่างไกล
ใช่ว่าขาดเธอไปโลกไร้ค่า
แต่มีเธอโลกกลับมาเป็นแจ่มใส
ใช่ห่างเธอแล้วจะเพ้อจนขาดใจ
แต่มีเธออยู่ใกล้ๆใจเต้นแรง
โอ้เธอจ๋ารู้บ้างไหมใจดวงหนึ่ง
ได้ทราบซึ้งเช่นดอกไม้ได้รับแสง
ได้เจือจานด้วยน้ำหวานผ่านแมลง
ไม่เคลือบแคลงสงสัยในรักเธอ
โบราณว่าเมื่อรักนักก็มักหน่าย
แต่รัก----พี่มีให้ไม่หน่ายแหนง
ความคิดถึงคะนึงหายังรุนแรง
ฝากความหวานผ่านแมลงไปให้เธอ
24 เมษายน 2546 14:45 น.
เจือจันทร์
ยามฝนมาฟ้าหม่นจนใจหลับ
ยินสดับเสียงหัวใจกลางสายฝน
เย็นยะเยียบเปรียบอ้างว้างกลางหมู่ชน
เหงาระคนปนคิดถึงจึงเขียนมา
ห่างไกลกันเหมือนกรรไกรมีไว้ตัด
รักรึงรัดเคยมัดใจให้ห่วงหา
จำต้องพรากจากกันไปด้วยไกลตา
คำสัญญาคงไร้ค่าถ้าห่างไกล
ใช่ว่าขาดเธอไปโลกไร้ค่า
แต่มีเธอโลกกลับมาเป็นแจ่มใส
ใช่ห่างเธอแล้วจะเพ้อจนขาดใจ
แต่มีเธออยู่ใกล้ๆใจเต้นแรง
โอ้เธอจ๋ารู้บ้างไหมใจดวงหนึ่ง
ได้ทราบซึ้งเช่นดอกไม้ได้รับแสง
ได้เจือจานด้วยน้ำหวานผ่านแมลง
ไม่เคลือบแคลงสงสัยในรักเธอ
โบราณว่าเมื่อรักนักก็มักหน่าย
แต่รัก****พี่มีให้ไม่หน่ายแหนง
ความคิดถึงคะนึงหายังรุนแรง
ฝากความหวานผ่านแมลงไปให้เธอ
24 เมษายน 2546 00:11 น.
เจือจันทร์
สายลมแรงแกว่งไม้ให้ใบกวัด
เหงาตวัดกวัดใจให้กายหมอง
เงียบสงัดกัดอารมณ์ให้จมกอง
น้ำตานองละอองหลั่งดั่งขาดใจ
เสียงขลุ่ยผิวแผ่วไกลจากชายป่า
เหมือนเห่ช้าอารมณ์ยามลมไหว
คิดถึงแม่เคยเห่กล่อมในอู่ไกว
โอ้แม่จ๋าลูกเหงาใจอยู่ในเมือง
เพลงความหลังหลั่งมาคราอดีต
ช่วงชีวิตเคยผ่านมาห่มผ้าเหลือง
ช่วงเวลาหนึ่งแสงหมดจรดแสงเรือง
ความขุ่นเคืองที่ขุ่นข้นก็พ้นใจ
ผ่านชีวิตเบ็ดเสร็จ21ฝน
ความเป็นคนข่นข้นค้นไม่ไหว
ขอบเขตห้วงจักรวาลอันกว้างไกล
เส้นสุดท้ายสิ้นที่ใจอยากให้มี
มโหรีชีวิตยามจิตดับ
เสียงขานขับบรรเลงเพลงภูตผี
สิ้นตัวกูของกูที่กูมี
ฟังเพลงนี้ให้บันเทิงบนเชิงตะกอน